×

โอลิมปิกเกมส์: ความภาคภูมิใจของคนไทย กับตำนานมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
03.08.2021
  • LOADING...
AIS PLAY

เปิดฉากไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่กับมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ ‘โอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020’ ณ สนามโอลิมปิกสเตเดียม กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่ต้องเลื่อนการแข่งขันเนื่องจากการระบาดของโควิดทั่วโลก 

 

พิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ไม่มีผู้ชมในสนาม เนื่องจากสถานการณ์ในกรุงโตเกียวยังวิกฤต แต่พิธีเปิดก็ยังคงงดงามและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่ได้รับชมทั่วโลก ภายใต้แนวคิด ‘Moving Forward’ หรือ ‘ก้าวไปข้างหน้า’ เพื่อสื่อถึงการก้าวผ่านไปสู่การฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิดที่แพร่ระบาดทั่วโลก พร้อมทั้งใช้แนวคิดการนำความหวังใหม่และกำลังใจมาสู่ผู้คนทั่วโลกผ่านการปรากฏตัวของนักกีฬาในโตเกียว 2020 ภายใต้ธีม ‘United by Emotion’ หรือ ‘รวมกันเป็นหนึ่งเดียว’

 

ย้อนประวัติการแข่งขันกีฬาที่ยาวนานที่สุดในโลก

ย้อนกลับไปราว 776 ปีก่อนคริสตกาล ณ หุบเขาโอลิมเปีย การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกโบราณ (Ancient Olympics) หรือชื่อดั้งเดิมคือ โอลิมเปียดส์ (Olympiads) การแข่งขันกีฬาที่ถือกำเนิดมายาวนานที่สุดในโลกได้เกิดขึ้น หากแต่กิจกรรมในครั้งนั้นไม่ได้เป็นมหกรรมการแข่งกีฬา แต่เป็นพิธีกรรมทางศาสนาในการเฉลิมฉลองให้แก่มหาเทพซุส ราชาแห่งเหล่าทวยเทพของกรีก โดยตามตำนานแล้ว ผู้ริเริ่มคือ เฮราคลีส บุตรแห่งมหาเทพ ซึ่ง พอล คริสเตเซน ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์กรีกโบราณ ได้อธิบายถึงจุดกำเนิดของกีฬาโอลิมปิกไว้ว่า

 

“หัวใจของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกโบราณคือพิธีการเฉลิมฉลองในศาสนสถาน  

 

“มันไม่ใช่แค่เรื่องของการแข่งกีฬา”

 

การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ช่วงแรกมีการแข่งขันกีฬาเพียงชนิดเดียวเท่านั้นคือการแข่งวิ่งในสนามที่เรียกว่า Stade ซึ่งมีระยะทาง 192 เมตร หรือ 210 หลา โดยแชมป์โอลิมปิกเกมส์คนแรกคือ คอโรเอบัส พ่อครัวคนหนึ่งแห่งเมืองโอลิมเปีย 

 

ก่อนที่ต่อมาจะมีการเพิ่มชนิดกีฬาเข้าไปด้วยอย่างการวิ่งที่เรียกว่า Diaulos (เพิ่มระยะทางเป็น 400 เมตร หรือเท่าได้กับหนึ่งรอบสนามในปัจจุบัน), Dolichos (แข่งวิ่งระยะทางไกล 1,500-5,000 เมตร) การแข่งวิ่งโดยใส่เสื้อเกราะ (Footrace) และปัจญกีฬา (Pentathlon) 

 

อีกทั้งยังมีกีฬาต่อสู้อย่างการชกมวย มวยปล้ำ และกีฬา Pankration ที่เป็นการผสมกันระหว่างมวยกับมวยปล้ำ, กระโดดไกล, พุ่งแหลน, ขว้างจักร และกีฬาขี่รถม้า (Chariot) 

 

และเพราะเป็นงานมหกรรมที่ผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกัน งานนี้จึงไม่ได้มีเพียงแค่การแข่งกีฬาเท่านั้น แต่ยังมีการประกวดดนตรี ประกวดร้องเพลง และประกวดลำนำ อีกด้วย

 

รางวัลที่ให้แก่ผู้ชนะในสมัยนั้นคือ กิ่งไม้มะกอก ซึ่งตัดมาจากยอดเขาโอลิมปัส อันเป็นที่สิงสถิตของซุส แล้วทำเป็นวงคล้ายมงกุฎ (Olive Wreath) โดยมีจักรพรรดิเป็นผู้พระราชทานครอบลงบนศีรษะของผู้ชนะ

  

การสิ้นสุดและถือกำเนิดขึ้นอีกครั้งของโอลิมปิกใหม่

ความนิยมของกีฬาโอลิมปิกค่อยๆ เสื่อมถอยลงหลังจากกรีกสูญเสียเอกราชให้แก่อาณาจักรโรมัน เพราะชาวโรมันมองว่า การเปลื้องผ้าของเหล่านักกีฬานั้นเป็นกิจกรรมที่อุจาดตา 

 

ไม่มีการบันทึกอย่างเป็นทางการว่ากีฬาโอลิมปิกสิ้นสุดเมื่อใด แต่ได้มีการยึดเอาปีคริสต์ศักราชที่ 393 ซึ่งปรากฏบันทึกว่า จักรพรรดิเทออดอซิอุสสั่งห้ามการจัดพิธีกรรมของชาวเพเกิน (Pagan) ทุกชนิด และทายาทอย่างเทออดอซิอุสที่ 2 ได้สั่งทำลายเทวสถานของกรีกทั้งหมด

 

ทิ้งเวลายาวนานนับพันปี การแข่งขันโอลิมปิกสมัยใหม่ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้งในสัปดาห์แรกของเดือนเมษายน ปี 1896 ในวันประกาศอิสรภาพของกรีซ โดยบิดาแห่งโอลิมปิกสมัยใหม่ ‘ปิแอร์ เดอ กูแบร์แตง’ ขุนนางชั้นบารอนชาวฝรั่งเศส ที่มีแรงบันดาลใจในการรื้อฟื้นกีฬาโอลิมปิก ซึ่งขณะนั้นได้พบกับ ดร.วิลเลียม เพนนี บรูกส์ ชาวอังกฤษผู้มีแนวคิดที่จะไปจัดการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงเอเธนส์ ประเทศต้นกำเนิดของการแข่งขันอันยิ่งใหญ่ในอดีตกาล 

 

โดยครั้งนั้นมีชาติเข้าร่วมแข่งขัน 14 ชาติ นักกีฬา 280 คน เข้าร่วมแข่งขันกีฬา 43 รายการ โดยมีประเภทของการแข่งขัน ได้แก่ กรีฑา ว่ายน้ำ เทนนิส มวยปล้ำ ยิมนาสติก จักรยาน ยกน้ำหนัก ยิงปืน และฟันดาบ

 

หลังจากการแข่งขันครั้งแรกเป็นต้นมา กีฬาโอลิมปิกก็ถูกจัดขึ้นต่อเนื่องมาทุก 4 ปี และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นมหกรรมกีฬาอันดับ 1 ของมวลมนุษยชาติในปี 1924 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เริ่มมีแยกระหว่างโอลิมปิกฤดูร้อน (Summer Olympic) และโอลิมปิกฤดูหนาว (Winter Olympic)

  

โอลิมปิกกับความภาคภูมิใจของคนไทย 

ประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2495 ซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 15 ที่ประเทศฟินแลนด์เป็นเจ้าภาพ โดยปีนั้นไทยได้ส่งนักกีฬาแข่งขันประเภทกรีฑาเพียงประเภทเดียว แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ 

 

พเยาว์ พูนธรัตน์ นักมวยสากลสมัครเล่น รุ่นไลต์ฟลายเวต เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่ได้ขึ้นแท่นรับเหรียญรางวัล โดยคว้าเหรียญทองแดงในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 21 เมื่อ พ.ศ. 2519 (ค.ศ. 1976) ณ เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา 

  

ส่วนฮีโร่เหรียญทองคนแรกของไทยคือ สมรักษ์ คำสิงห์ ที่สามารถคว้าชัยได้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 26 ที่เมืองแอตแลนตา สหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2539 (ค.ศ. 1996)

 

หลังจากนั้นทัพนักกีฬาไทยยังสามารถคว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกได้อีกหลายเหรียญ โดยทัพนักกีฬาไทยสามารถคว้าเหรียญทองจากมหกรรมกีฬาโอลิมปิกได้อีก 9 เหรียญ คือ 

 

  • วิจารณ์ พลฤทธิ์ นักกีฬามวยสากลสมัครเล่น รุ่นฟลายเวต จากมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 21 (ซิดนีย์ 2000)
  • มนัส บุญจำนงค์ นักกีฬามวยสากลสมัครเล่น รุ่นไลต์เวลเตอร์เวต จากมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 24 (เอเธนส์ 2004)
  • อุดมพร พลศักดิ์ นักกีฬายกน้ำหนัก รุ่น 53 กิโลกรัมหญิง จากมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 24 (เอเธนส์ 2004)
  • ปวีณา ทองสุก นักกีฬายกน้ำหนัก รุ่น 75 กิโลกรัมหญิง จากมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 24 (เอเธนส์ 2004)
  • สมจิตร จงจอหอ นักกีฬามวยสากลสมัครเล่น รุ่นฟลายเวต จากมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 29 (ปักกิ่ง 2008)
  • ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล นักกีฬายกน้ำหนัก รุ่น 53 กิโลกรัมหญิง จากมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 31 (ริโอ 2016)
  • โสภิตา ธนสาร นักกีฬายกน้ำหนัก รุ่น 48 กิโลกรัมหญิง จากมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 31 (ริโอ 2016)
  • สุกัญญา ศรีสุราช นักกีฬายกน้ำหนัก รุ่น 58 กิโลกรัมหญิง จากมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 31 (ริโอ 2016)

 

และเหรียญทองที่ 10 ซึ่งเป็นเหรียญทองล่าสุดและเป็นเหรียญรางวัลแรกของทัพนักกีฬาไทยในโตเกียว 2020 จากชัยชนะของ เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวไทย ที่เอาชนะ อาเดรียนา เซเรโซ อิเกลเซียส จอมเตะสาวชาวสเปนวัย 17 ปี ไปอย่างเฉียดฉิวใน 7 วินาทีสุดท้ายของเกม เมื่อเย็นวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา 

 

นอกจากนี้ยังมีสุดยอดนักกีฬาอีกหลายคนที่ทุ่มเททั้งกายและใจในการฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วง ให้เราได้ร่วมลุ้นและร่วมเชียร์จากการแข่งขันครั้งนี้ไปด้วยกัน 

 

มาร่วมลุ้นเหรียญรางวัลประวัติศาสตร์ของนักชกหญิงไทยในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 ให้ แต้ว-สุดาพร สีสอนดี นักชกสาวไทย ผ่านรอบรองชนะเลิศ ในวันพุธที่ 5 สิงหาคม 2564 เวลา 12.00 น. ไปพร้อมๆ กัน ได้ที่ AIS PLAY ที่เดียวที่ให้คนไทยได้ชมการถ่ายทอดสดฟรีครบทุกแมตช์ที่ https://m.ais.co.th/bgOlympic 

 

AIS ในฐานะ Official Broadcaster อย่างเป็นทางการ พร้อมยิงสัญญาณการถ่ายทอดสดแบบ Full HD ที่ดีที่สุด ให้คนไทยได้รับชมการแข่งขันแบบเต็มอิ่ม จุใจ ผ่าน AIS PLAY มาร่วมรวมใจเป็นหนึ่งเชียร์นักกีฬาไทยให้คว้าเหรียญกลับบ้านกัน ด้วยการรับชมและเป็นส่วนหนึ่งกับครั้งสำคัญของหน้าประวัติศาสตร์การแข่งขันโอลิมปิกที่จัดขึ้นภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาด

 

ดู AIS PLAY ได้ทุกช่องทาง ทั้งบนมือถือและเว็บไซต์ พร้อมคอนเทนต์พิเศษสำหรับลูกค้า AIS ที่: 

  • เว็บไซต์ ais.th/olympics หรือ aisplay.ais.co.th 
  • แอปพลิเคชัน AIS PLAY สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ทั้งในมือถือและแท็บเล็ตที่ Google Play และ App Store
  • กล่อง AIS PLAYBOX สำหรับลูกค้า AIS Fibre
  • SAMSUNG Smart TV

 

ดูโปรแกรมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ได้ที่ https://m.ais.co.th/bgOlympic

 

AIS PLAY

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X