×

TISCO ห่วงเศรษฐกิจโตต่ำ ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง กระทบธุรกิจ พร้อมตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อปี 68 กลับมาโต 5%

15.01.2025
  • LOADING...
TISCO

ศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) เปิดเผยในงานแถลงข่าว กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มทิสโก้ 2568 ระบุว่า ในปี 2568 กลุ่มทิสโก้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวประมาณ 3% ดีขึ้นจากปี 2567 ที่คาดว่าจะขยายตัว 2.8% โดยมาจากแรงสนับสนุนด้านการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ การฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชน และการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว 

 

อย่างไรก็ตาม การขยายตัวดังกล่าวยังคงเปราะบางและเผชิญกับความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ เช่น นโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง และคุณภาพลูกหนี้ที่ถดถอย แม้ว่าจะมีนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายและมาตรการแก้หนี้ ‘คุณสู้ เราช่วย’ โดยปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมโครงการแล้วประมาณ 3 แสนราย ซึ่งแบ่งเป็นลูกค้าของ TISCO จำนวนประมาณ 7,000-8,000 ราย ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการบรรเทาภาระหนี้ของกลุ่มเปราะบาง 

 

ศักดิ์ชัยกล่าวถึงกรณีปัญหาภาพรวมหนี้นอกระบบที่เกิดขึ้นในรูปแบบต่างๆ ขณะนี้มองว่าหากลูกค้าที่มีปัญหาในกลุ่มนี้เข้ามาอยู่ในมาตรการแก้หนี้ ‘คุณสู้ เราช่วย’ จะช่วยให้มีสภาพคล่องดีขึ้น

 

ทั้งนี้ โครงการ ‘คุณสู้ เราช่วย’ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) บางแห่ง

 

สำหรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อรวมในปีนี้ TISCO ตั้งเป้าหมายเติบโตขึ้นประมาณ 5% จากปี 2567 ที่การเติบโตของสินเชื่อรวมหดตัว 1.1% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาพรวมตลาดรถยนต์ในปี 2567 ที่หดตัวลงอย่างหนัก ส่งผลให้ยอดขายตลาดรถยนต์ในปี 2567 อยู่ที่ 518,659 คัน ลดลงจากปี 2566 ที่มียอดขาย 775,780 คัน ขณะที่คาดว่ายอดขายตลาดรถยนต์ในปี 2568 จะอยู่ที่ระดับประมาณ 600,000 คัน

 

โดยแผนในปีนี้จะหันมาเดินหน้าขยายสินเชื่อในกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มากขึ้น โดยเน้นในกลุ่มรถยนต์ใหม่ แบรนด์เจ้าตลาดที่มียอดขายสูง ส่งผลให้มีโอกาสปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น รวมทั้งมีแผนขยายสินเชื่อเช่าซื้อในกลุ่มรถยนต์มือสองควบคู่กันไปด้วย ซึ่งคาดว่าเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อในปีนี้ของ TISCO มีโอกาสขยายตัวได้ในระดับไม่น้อยกว่า 10% แม้อาจจะมีความท้าทายอยู่บ้างจากภาพรวมแนวโน้มยอดขายรถยนต์ชะลอตัว และมีความเสี่ยงด้านหนี้ครัวเรือน แต่ยังมองว่ามีโอกาสที่จะสามารถขับเคลื่อนสินเชื่อในปีนี้ให้เติบโตได้ 

 

อย่างไรก็ดี ความท้าทายของเศรษฐกิจในปีนี้ที่บริษัทฯ มีมุมมองว่ามีความเป็นห่วงมากที่สุดคือประเด็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีการเติบโตที่ต่ำ รวมทั้งหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมีสัดส่วน 87.2% จากปี 2567 อยู่ที่ 89% โดยยอมรับว่ากลุ่มที่เป็นลูกค้าเป้าหมายของบริษัทฯ แม้มีดีมานด์สินเชื่อที่สูง แต่มีความเปราะบางด้วยเช่นกัน ส่งผลให้การคัดกรองกลุ่มลูกค้าที่ผ่านมาตรฐานมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการติดตามดูแลข้อมูลลูกค้าอย่างใกล้ชิดเป็นหัวใจสำคัญในการดูแลความเสี่ยงภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน จึงมีการรวมทีมติดตามหนี้เพื่อสร้างศักยภาพการทำงานให้มีประสิทธิภาพครอบคลุมดีขึ้น

 

สำหรับกลยุทธ์ธุรกิจในปีนี้จะเน้นการรุกในกลุ่มสินเชื่อที่มีตอบแทนสูง (High Yield) โดยเฉพาะแบรนด์ ‘สมหวัง เงินสั่งได้’ ซึ่งในปีนี้จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาต่อยอดจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เช่น สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สินเชื่อบ้านแลกเงิน (Home Equity Loan) ซึ่งเชื่อว่ามีแนวทางแข่งขันกับกลุ่ม Non-Bank ได้ โดยเฉพาะการแข่งขันด้านดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า Non-Bank เนื่องจากต้นทุนทางการเงินต่ำกว่า จึงเป็นโอกาสรุกขยายตลาดในส่วนนี้เพิ่มเติม ทดแทนการหยุดขยายสาขาที่มีแล้วกว่า 808 สาขาทั่วประเทศ

 

อย่างไรก็ดี กลยุทธ์ในปีนี้ที่รุกสินเชื่อมากขึ้น และยังรุกสินเชื่อ High Yield ทำให้แนวโน้มของสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) คงจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนที่ระดับ 2.4% แต่ยังไม่เกินระดับ 3% และอาจทำให้การตั้งสำรองของธนาคารเพิ่มขึ้นมาบ้างจากปีก่อนที่ 0.60% มาเป็นระดับประมาณ 1% ของสัดส่วนสินเชื่อรวม แต่ก็ได้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงมีรายได้จากดอกเบี้ยที่เข้ามาเสริม ทำให้รายได้ดอกเบี้ยในปี 2568 จะสามารถรักษาระดับใกล้เคียงกับปีก่อน ส่วนหนึ่งจากมาร์จิ้นที่ไม่ได้ลดลง และ Cost of Funds ที่ปรับตัวลดลง

 

ด้าน เมธา ปิงสุทธิวงศ์ กรรมการอำนวยการกลุ่มทิสโก้ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า รายได้จากค่าธรรมเนียมของบริษัทฯ ในปีนี้คาดว่าจะยังเห็นการเติบโตได้ โดยมาจากธุรกิจตลาดทุนที่ยังเป็นปัจจัยหนุน โดยเฉพาะธุรกิจกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์ ทั้งนี้ แม้ว่าต้นปี 2568 ตลาดหุ้นจะมีความผันผวน อย่างไรก็ดี มองว่าหากภาพรวมของแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น และหากปัจจัยต่างประเทศไม่ได้ผันผวนมากนัก ก็จะช่วยสนับสนุนตลาดหุ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ อีกทั้งธุรกิจนายหน้าซื้อขายประกันของธนาคารยังคงมีทิศทางที่ดี โดยมีโอกาสเติบโตได้ตามการขยายตัวของสินเชื่อเช่าซื้อ 

 

ทั้งนี้ TISCO แจ้งปี 2567 มีกำไรสุทธิ 6.9 พันล้านบาท ลดลง 5.5% จากปี 2566 หลังมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นรองรับความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง ขณะที่ยอดปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ 2.32 แสนล้านบาท ลดลง 1.1% จากปี 2566

 

กลุ่มทิสโก้ประเมินเป้าหมาย SET Index ในปี 2568 ไว้ที่ 1,550 จุด สูงกว่าปี 2567 ที่ 1,400.21 จุด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising