×

พิธา ประกาศ 100 วันแรกหากได้เป็นนายกฯ ทำประชามติแก้ รธน. ทันที ขอสู้ศึกเลือกตั้งล้างมรดก คสช.-ปิดสวิตช์ 3 ป.

29.01.2023
  • LOADING...
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

วันนี้ (28 มกราคม) ที่อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พรรคก้าวไกล นำโดยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ได้จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2566 สาระสำคัญของของการประชุมครั้งนี้ เพื่อเปิดนโยบายเรือธงสู้ศึกเลือกตั้ง 2566 ขณะที่พิธายังประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยด้วย

สำหรับกิจกรรมวันนี้เริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น. มีการปราศรัยเปิดเวทีโดย พริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายของพรรคก้าวไกล ได้ฉายภาพอดีตของประเทศไทยที่มีการรัฐประหาร และยังคงสืบทอดอำนาจมาจนถึงทุกวันนี้, อดีตของการศึกษาไทยที่เน้นการท่องจำ ไม่พร้อมสำหรับการเข้ามาของเทคโนโลยี, อดีตของประเทศไทยที่กองทัพมีอำนาจเหนือการเมือง ทั้งการที่นายพลทหารอยู่เต็มสภา หรือการที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เข้าไปตามโรงเรียน, อดีตของประเทศไทยที่โดนต่างประเทศนำหน้าไป หรืออดีตที่ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองเป็นประชาธิปไตย แต่ยังคงไม่สามารถตอบได้ว่าแท้จริงแล้วอำนาจสูงสุดเป็นของใคร 

 

พริษฐ์ยังคงย้ำว่าการที่ต้องกลับมาพูดปัญหาเดิมๆ เรื่องเดิมๆ แสดงว่าเรายังคงแก้ไขปัญหาแบบเดิมๆ ไม่เพียงพอสำหรับการเปลี่ยนแปลง

 

ความฝันของพรรคก้าวไกลเป็นความฝันที่เรียบง่าย คือเห็นประชาชนมีกิน มีศักดิ์ศรี มีความหวัง มีสิทธิมีเสียง แต่จะทำอย่างไรถึงจะไปถึงจุดนั้น เราต้องไม่ปล่อยให้ประเทศไทยเดินต่อไปแบบเดิม ต้องเป็นประเทศไทยที่ไว้วางใจประชาชนและคืนอำนาจสูงสุดแก่ประชาชน เป็นประเทศไทยที่ไม่เกรงใจใครนอกจากประชาชน พริษฐ์กล่าว

 

พริษฐ์ยังย้ำอีกว่า สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ประเทศไทยที่ไม่เหมือนเดิม แต่สิ่งที่น่ากลัวคือประเทศไทยที่เหมือนเดิมต่างหาก สิ่งที่น่ากลัวคือการเมืองที่ต้องมาถามผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่าจะเกิดรัฐประหารหรือไม่ สิ่งที่น่ากลัวคือระบบยุติธรรมและกฎหมายที่กังขังคนเห็นต่างทางการเมือง สิ่งที่น่ากลัวคือระบบเศรษฐกิจที่ปล่อยให้คนที่รวยที่สุดไม่กี่เปอร์เซ็นต์ครอบครองที่ดินเกินครึ่งหนึ่งของประเทศ สิ่งที่น่ากลัวคือระบบสวัสดิการระบบการศึกษาที่ปล่อยให้เด็กขอรับบริจาคหรือแข่งกันร้องเพลงเพื่อให้ได้เรียนต่อ ถ้าท่านคนคิดว่าประเทศไทยไม่สามารถแก้ไขปัญหาแบบเดิมๆ ได้แล้วนั้น ตนจึงชวนทุกคนมาเดินทางไปกับพรรคก้าวไกล สู่ประเทศที่การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต

 

ขณะที่รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ได้กล่าวถึงประเด็นการเมืองดีว่า หลายคนรู้ดีว่าการเมืองแบบเดิมที่ฉุดรั้งประเทศนี้เป็นอย่างไร เมื่อถามว่าการเมืองแบบเดิมคืออะไร รังสิมันต์ได้ให้ความหมายไว้ว่าคือระบบราชการที่ไม่เป็นของประชาชน เป็นระบบที่ประกอบไปด้วยคนที่อยู่ในระบบราชการสาขาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศาล อัยการ แพทย์ ครู และอีกจำนวนมาก ใช้เครือข่ายเหล่านี้ปกป้องผลประโยชน์ตนเอง ทำราวกับว่าประชาชนไม่ได้มีคุณค่าอะไร การเมืองแบบเดิมเป็นระบบรวมศูนย์ การเมืองแบบเดิมที่สุดท้ายเงินคือการขับเคลื่อน การเมืองแบบนี้ทำให้ประชาชน ข้าราชการ คนที่มีอุดมการณ์ต้องรู้สึกยอมแพ้ การเมืองแบบเดิมคือการที่อำนาจไม่ได้เป็นของประชาชน ทำรัฐประหารยึดอำนาจไปเป็นของคนบางกลุ่มเพื่อสร้างรัฐธรรมนูญที่ไม่ใช่ของประชาชน นีคือเหตุผลที่พรรคก้าวไกลไม่ยอมให้ระบบเหล่านี้ดำเนินไปต่อ

 

รังสิมันต์ยังกล่าวอีกว่า การเมืองแบบเดิมยังหมายความรวมไปถึงชาติที่ไม่ใช่ประชาชน ประชาชนไม่ได้เป็นองค์ประกอบหนึ่งของคำว่าชาติ ทำให้ประชาชนตัวเล็กลง แล้วทำให้คนที่มีอำนาจใหญ่ขึ้น ใช้ชาติทำรัฐประหาร ซึ่งก็คือการทุจริตคอร์รัปชันอย่างหนึ่ง พวกเขาใช้ชาติในการทำลายคนที่เห็นต่างทางการเมือง เพื่อให้พูดไม่ได้ เสนอไม่ได้ ต้องยอมรับสภาพความเป็นจริงที่มีอยู่ พวกเขาใช้ชาติเพื่อเอาไปร่วมกับกลุ่มทุนสีเทา เพื่อนำเงินกลับมาที่ผู้มีอำนาจ

 

“ผมมีโอกาสที่ได้สัมผัสกับข้าราชการที่มีความหวังในสังคม พวกเขายังเชื่อว่าประเทศนี้ยังเปลี่ยนได้ พวกเขาเป็นคนที่ระบบยังไม่กลืนกิน และนั่นเป็นประกายสำคัญที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเราต้องร่วมมือกัน เราต้องทำให้ประเทศนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะถ้ามันเปลี่ยนแล้วมันเปลี่ยนตลอดไป” รังสิมันต์กล่าว 

 

การเมืองดีของพรรคก้าวไกลคือการไม่มีรัฐประหาร และการปฏิรูปกองทัพ พอได้หรือไม่กับสภากลาโหมที่อยู่เหนือรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน พอได้หรือไม่กับการกดขี่ประชาชนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พอได้หรือไม่กับการที่มอบที่ดินให้กับนายพลเพื่อความบันเทิง แล้วเอาที่ดินกลับมาให้ประชาชนใช้ประโยชน์สูงสุด พอได้หรือไม่กับการเกณฑ์ทหาร ขณะที่บรรยากาศการปราศรัยของรังสิมันต์เป็นไปอย่างดุเดือด

 

รังสิมันต์กล่าวว่า การเมืองดีของพรรคก้าวไกลคือการทำให้ตำรวจอยู่ข้างประชาชน หยุดรีดไถ รับส่วย ราชการโปร่งใส ไร้ทุจริต พรรคก้าวไกลจะทำให้ตำรวจเป็นตำรวจโดยให้ตำรวจยึดโยงกับประชาชน จากการที่สภามีส่วนร่วมในการเลือก ผู้การตามจังหวัดต่างๆ จะให้จังหวัดเข้ามากำหนดนโยบาย ไม่ใช่เพียงแค่ตำรวจ แต่รวมไปถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ที่พรรคจะทำให้อำนาจนั้นยึดโยงกับประชาชน ทำหน้าที่ตรวจสอบทุจริต ไม่ว่าผู้มีอำนาจนั้นจะมาจากพรรคการเมืองใดก็ตาม และพรรคจะนำเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามาตรวจสอบว่าโครงการใดมีโอกาสเกิดการทุจริต และออกแบบระบบให้เกิดการระแวงกันเองของคนที่ทุจริต

 

รังสิมันต์กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การเมืองดียังรวมไปถึงการกระจายอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดมาจากการเลือกตั้ง เพราะคนในพื้นที่รู้ดีว่าปัญหาแต่ละท้องที่เป็นอย่างไร และสุดท้ายการเมืองดีของพรรคก้าวไกลคือการเปิดเพดานเสรีภาพให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม คนที่เห็นต่างทางการเมืองมีการดำเนินคดีไม่ว่าจะเป็นมาตรา 112, มาตรา 116, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ถ้าปราศจากเสรีภาพในการแสดงออก ประเทศเราก็เหมือนตาบอดไม่รู้ว่าประชาชนเดือดร้อนกับเรื่องอะไร และจะไม่นำมาสู่การพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม พรรคก้าวไกลจะแก้ไข ปรับปรุงกฎหมายที่กีดกันเสรีภาพของประชาชน ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมครั้งใหญ่ พรรคจะเอาบัญชีของผู้พิพากษาที่เกิดและหลังการทำหน้าที่มาตรวจสอบ ก่อนการทำหน้าที่ต้องปฏิญาณตนต่อหน้าสภาผู้แทนราษฎร มีผู้ตรวจการศาลที่ขึ้นตรงต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มั่นใจว่าการทำหน้าที่ของตุลาการเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน

 

รังสิมันต์ยังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า “เราจะมีการเมืองที่ดี เพื่อที่จะส่งต่อให้มีปากท้องที่ดีและเพื่อให้มีอนาคตที่ดี ถ้าเราทำสิ่งเรานี้ได้ ผมเชื่อว่าประเทศไทยจะมีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน”

 

ด้านณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ได้ขึ้นปราศรัยในประเด็นปากท้องที่ดีว่า เศรษฐกิจโตแต่กระเป๋าเราโตไม่เท่ากัน ภาคธุรกิจโตเอาๆ เจ้าสัวนายทุนกำไรโตเอา 30% ประเทศไทยมีเค้กก้อนโตที่ประเทศหารายได้เข้ามากลับถูกแบ่งไปให้เจ้าสัว ประชาชนกลับได้เพียงเศษครีมที่อยู่บนถาดกระดาษ กลไกทางเศรษฐกิจของนักธุรกิจเหล่านี้ไม่ได้เติบโตไปเพื่อแข่งขันในต่างประเทศ

 

ณัฐชายังกล่าวอีกว่า ยิ่งจนเท่าไร ต้นทุนชีวิตยิ่งสูงขึ้น ครอบครัวที่ร่ำรวยสามารถเลือกสถานประกอบการ สถานพยาบาลที่มีคุณภาพได้ แต่ครอบครัวของพวกเราทุกคนต้องเลือกสถานพยาบาที่สามารถเบิกจากนายจ้างได้ หรือยืมจากคนรอบข้างได้ ทุกๆ บ้านมีจุดเริ่มต้นของชีวิตที่ต่างกัน

 

ดังนั้นนโยบายปากท้องดีที่พรรคก้าวไกลนำเสนอคือ เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท ทำทันที ให้ปรับขึ้นตามกำลังเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อทุกปี ขึ้นโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องรอใคร ต่อมาคือนโยบายหวยใบเสร็จ ใครจับจ่ายใช้สอยซื้อของ SMEs ครบ 500 บาท มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลจากสลากกินแบ่งรัฐบาล ต่อเนื่องมาด้วยจัดงบประมาณ 1 หมื่นล้านบาทสำหรับรถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการขนส่งสาธารณะอย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีนโยบายสวัสดิการก้าวหน้า รับทันทีเงินเด็กแรกเกิด 1,200 บาท ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปรับ 3,000 บาท ถ้วนหน้าโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ และสุดท้ายนำเสนอนโยบายคืนที่ดินให้ประชาชน 10 ล้านไร่ เปลี่ยน ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนด 

 

“ทั้งหมดนี้จะเป็นการเพิ่มรายได้เข้ากระเป๋าและตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ที่ประชาชนคนธรรมดาควรได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานของเขาอยู่แล้ว นี่คือรัฐบาลก้าวไกลที่เราเห็นพ้องต้องกันว่าประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลงได้แล้ว” ณัฐชากล่าว

 

ด้าน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นปราศรัยคนสุดท้ายในประเด็นหัวข้อมีอนาคตว่า ในมุมมองของตนนั้น อนาคตของประเทศไทยจะต้องเป็นอนาคตของคน 99% ไม่ใช่อนาคตของคน 1% กล่าวคืออนาคตที่เศรษฐกิจโตแต่ความเหลื่อมล้ำลดลง จะทำเช่นนั้นได้ก็ต้องสร้างงานและซ่อมประเทศด้วยการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ไปในเวลาเดียวกัน 

 

พิธายังกล่าวว่า เรื่องของอดีตในการซ่อมประเทศก็คือเรื่องของการซ่อม ดูแลน้ำประปาทั่วประเทศ ในอนาคตใช้สมาร์ทมิเตอร์ควบคุมคุณภาพน้ำประปา 24 ชั่วโมง ซึ่งคนไทยสามารถทำได้ 80% 

 

นอกจากนี้ยังมีนโยบายเสรีโซลาร์เซลล์ เปลี่ยนหลังคาเป็นรายได้ สร้างอุตสาหกรรมมิเตอร์ในอุตสาหกรรมไฟฟ้า นี่คือโอกาส มีทองคำอยู่บนหลังคา มีอยู่ในท่อประปา 

 

นอกจากนี้ยังมีกฎหมายรถเมล์แห่งอนาคตที่สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก. พรรคก้าวไกลกำลังผลักดันเข้าสภากรุงเทพมหานคร เปลี่ยนรถเมล์เฉลี่ยปีละ 300 คัน เพื่อคุณภาพขนส่งมวลชนที่ดี และลดปริมาณ PM2.5 การเปลี่ยนเป็นรถเมล์ไฟฟ้านั้นจะนำมาซึ่งอุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น แบตเตอรี่ พลาสติก ยางพารา ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง และระบบสายชาร์จ เป็นต้น

 

พิธากล่าวถึงปัญหาการเกษตรตกต่ำ ว่าสามารถใช้โดรนเพื่อเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ เช่น การลดแรงงานในภาคการเกษตร การเพิ่มผลผลิต รายได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังกลายเป็นโดรนเดลิเวอรีอีกด้วย กลายเป็นหัวใจสำคัญของความมั่นคงในอนาคต ทั้งนี้การผลิตโดรนยังสามารถทำได้ในประเทศไทยกว่า 80% การลงทุนในสิ่งเหล่านี้จะทำให้คนไทยมีอนาคตไปข้างหน้า

 

ทั้งนี้ ในสิ่งที่กล่าวมาจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากระบบการศึกษาไทยยังล้าหลังอยู่ ดังนั้นเราต้องปฏิวัติระบบการศึกษาไทย จะเป็นไปไม่ได้หากไม่มีวิศวกรในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยการเพิ่มทักษะ เพิ่มความสามารถให้กับระบบการศึกษาไทย โดยการลดภาระของครู ลดการท่องจำ ลดการบ้าน เพื่อให้นักเรียนสามารถเติมความฝันของเขาได้

 

พิธายังกล่าวถึงเรื่องของภาวะโลกร้อน ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาของประเทศไทยเพียงประเทศเดียว ประเทศไทยจะไม่สามารถทำตามสัญญากับเวที COP26 ที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2570 หากเราไม่พร้อมที่จะชนกับกลุ่มทุนในการกำหนดเพดานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

 

พิธายังทิ้งท้ายว่า “ประเทศไทยจะมีอนาคตไม่ได้ ถ้าเรายังไม่ได้แก้ไขปัญหาของอดีต ปัญหาในอดีตเป็นมรดกของการสืบทอดอำนาจของ คสช. ประเทศไทยจะไปไกลได้มากกว่าเดิมได้อย่างไร ถ้ายังมีทหารอยู่ในการเมืองและอยู่ในมรดกของลุงแก่ๆ ที่บ้าอำนาจ ประเทศไทยจะไปไกลกว่านี้ได้อย่างไร หากการบริหารจัดการยังถูกรวมศูนย์อยู่ที่ กทม. และแต่ละพื้นที่ไม่สามารถจะกำหนดอนาคตของตัวเองได้” 

 

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ การปิดสวิตช์ 3 ป. ล้างมรดก คสช. ให้สูญพันธุ์ คือการแก้ไขอดีต ถ้าหากเห็นด้วยกับพรรคก้าวไกล มี 2 สิ่งที่ต้องทำในการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้แก่

 

  1. เอาพรรคทหารจำแลง ทั้งพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกจากการเมืองไทยให้ได้

 

  1. เอารัฐธรรมนูญฉบับ คสช. ออกไปจากสังคมไทยให้หมด

 

พิธายังทิ้งท้ายอีกว่า หากตนได้เป็นนายกรัฐมนตรี 100 วันแรกจัดทำประชามติ เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่จากประชาชน 

 

“ผมยืนต่อหน้าทุกท่านตรงนี้ด้วยเกียรติสูงสุดของชีวิตผม ในการประกาศว่าผมพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย พรรคก้าวไกลพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ปิดสวิตช์ 3 ป. เปิดความหวังให้กับประเทศไทย กาก้าวไกลให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต ถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องก้าวออกมา เดินไปกับพรรคก้าวไกล ทำให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” พิธากล่าว

 

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising