×

เจาะตัวตน โธมัส ทูเคิล กุนซือคนใหม่ปารีส แซงต์ แชร์กแมง กับความท้าทายระดับยุโรป

15.05.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • โธมัส ทูเคิล กุนซือวัย 44 ปี ชาวเยอรมัน จะเข้ามารับหน้าที่ผู้จัดการทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมงในฤดูกาลหน้า ด้วยสัญญาทั้งหมด 2 ปีต่อจาก อูไน เอเมอรี กุนซือชาวสเปน
  • สาเหตุหลักที่ อูไน เอเมอรี ไม่ได้ไปต่อกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง แม้ว่าจะสามารถกลับมาคว้าแชมป์ลีกเอิง ลีกสูงสุดของฝรั่งเศสได้สำเร็จในฤดูกาลนี้ แต่พวกเขาตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกติดต่อกันถึง 2 ฤดูกาล
  • ความท้าทายที่รอคอย โธมัส ทูเคิล คือการกล่อมให้เนย์มาร์ ซึ่งมีรายงานการย้ายทีมหลังจบฤดูกาลนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง ให้อยู่ร่วมกับทีมต่อไป

ข่าวเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม อาจจะเป็นเรื่องน่าตกใจสำหรับแฟนบอลหลายคน โดยเฉพาะแฟนบอลอาร์เซนอลและเชลซี ที่ต่างก็มีรายงานออกมาว่า โธมัส ทูเคิล กุนซือชาวเยอรมันอาจย้ายมาร่วมงานในอังกฤษ แต่สุดท้ายก็เป็นปารีส แซงต์ แชร์กแมง แชมป์ลีกเอิง ลีกสูงสุดของฝรั่งเศสที่ปิดดีลคว้าตัวเขาไปเป็นกุนซือด้วยระยะเวลาสัญญา 2 ปีเป็นที่เรียบร้อย โดยจะเริ่มต้นงานในฤดูกาลหน้า สานต่อความสำเร็จจาก อูไน เอเมอรี กุนซือชาวสเปนที่กอบกู้แชมป์ลีกกลับมาจากโมนาโกได้สำเร็จ

 

 

ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้แฟนบอลมีความคาดหวังที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะการที่ปารีส แซงต์ แชร์กแมงตัดสินใจเลือกกุนซือที่ดูชื่อชั้นและประสบการณ์ในเวทียุโรปน้อยกว่า อูไน เอเมอรี กุนซือชาวสเปนที่เคยพาเซบียาคว้าแชมป์ยูโรปาลีกติดต่อกันถึง 3 ครั้ง ก่อนจะก้าวเข้ามารับหน้าที่ผู้จัดการทีมในสนามปาร์ค เดอ แปรงส์ ในเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส

 

แต่ นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี ประธานกลุ่มทุน QSI และประธานสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง BBC ถึงความเชื่อมั่นที่เขามีต่อกุนซือวัย 44 จากเยอรมนีคนนี้

 

“โธมัสคือหนึ่งในกุนซือที่มีความมุ่งมั่นมากที่สุดในยุโรป และกำลังเติบโตขึ้นสู่ระดับสูงสุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา”

 

 

“ด้วยความเป็นกุนซือที่มีความทะเยอทะยาน ความชื่นชอบในฟุตบอลที่เดินหน้ารุกเข้าใส่คู่แข่ง บุคลิกที่แข็งแกร่ง ทำให้เราเห็นได้ว่าตัวตนของเขาตรงความหมายของสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมงตลอดมา

 

 

แน่นอนการเดินทางเข้ารับตำแหน่งใหม่ไม่ว่าจะเป็นงานใดก็ตาม ผู้ที่รับหน้าที่บริหารต้องพบเจอกับกำแพงที่มองไม่เห็น คลื่นใต้น้ำ หรือผู้คนที่ไม่พร้อมยอมรับความเปลี่ยนแปลง และด้วยตัวตนของทูเคิลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นกุนซือเยอรมนีที่มีฟุตบอลระบบ เน้นดึงศักยภาพของนักเตะทุกคนออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

ความท้าทายของเขาในครั้งนี้กลับไม่ใช่แค่เพียงการวางระบบ แต่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องมาพบเจอกับทีมที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์ ตั้งแต่นักฟุตบอลที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกและเป็นนักเตะในช่วงอายุต่ำกว่า 30 ปีอย่าง เนย์มาร์ และนักเตะดาวรุ่งชั้นนำของยุโรปที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีอย่าง คีเลียน เอ็มบัปเป้ ศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศส

 

ซึ่งปัญหาแรกของเขาเริ่มต้นตั้งแต่ปากกายังไม่จรดลงสัญญา 2 ปีกับสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง เนื่องจากเดือนที่ผ่านมาเนย์มาร์ตกเป็นข่าวกับสโมสรชั้นนำของโลก อย่างเรอัล มาดริด ทีมที่เขี่ยพวกเขาตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมา โดยสื่อต่างประเทศเชื่อว่าสิ่งแรกที่ทูเคิลจำเป็นต้องทำคือรั้งตัวของเนย์มาร์ให้อยู่กับทีมต่อไป เพื่อเป็นฐานในการสร้างความสำเร็จในฤดูหน้า

 

กุนซือเจ้าระเบียบกับทีมที่เต็มไปด้วยสตาร์ดังระดับโลก

 

 

ทูเคิลมีชื่อเสียงในเรื่องของการควบคุมนักเตะที่เขาได้รับต่อจากกุนซือคนก่อน ซึ่งหน้าที่ของเขานอกจากการรั้งตัวเนย์มาร์ให้อยู่ร่วมกับทีมต่อไปแล้ว เขายังต้องรีดศักยภาพ ความกระหายความสำเร็จ และความมุ่งมั่นของนักเตะชื่อดังในทีมอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย, ฮาเวียร์ ปาสตอเร และ ติอาโก ซิลวา ออกมาให้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดฤดูกาลทั้งในลีกเอิงและในเวทียุโรป

 

ซึ่งแน่นอนว่าระหว่างการดำเนินงานของเขา ย่อมจะพบเจอกับการตัดสินใจที่ยากลำบาก และคำถามสำคัญคือ ปัญหาตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาอยู่ที่ตรงไหน หรืออยู่ที่ใคร

 

อิวาน คลาสนิช อดีตนักเตะที่เคยร่วมงานกับทูเคิลเคยออกมาวิจารณ์การทำงานของ ทูเคิลในฐานะผู้จัดการทีมว่าเป็นกุนซือที่เด็ดเดี่ยว และไม่ชอบนักฟุตบอลที่ตั้งคำถามกับเขา

 

“เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก และผมไม่ใช่คนเดียวที่คิดแบบนี้ เขามีนักเตะ 11 คนที่เขาทำงานด้วยอย่างหนัก ทูเคิลไม่ชอบนักเตะที่ตั้งคำถามหรือมีความคิดเห็น เขามีนักเตะในดวงใจของเขา ซึ่งเป็นนักเตะที่ปรับตัวได้ดี”

 

ความจริงจังของทูเคิล กับการถกเถียงแท็กติกในบาร์กับเป๊ป กวาร์ดิโอลา

 

 

รูปแบบการเล่นของปารีส แซงต์ แชร์กแมงที่ยังคงใช้แผนการเล่นเดิมในเวทียุโรปคือ เป็นโจทย์ที่ อูไน เอเมอรี ต้องพบเจอและล้มเหลวมาแล้ว โดยที่ผ่านมาปารีส แซงต์ แชร์กแมงเล่นในระบบ 4-3-3 นับตั้งแต่การเข้ามาคุมทีมของ โลรองต์ บล็องก์ จนมาถึงปัจจุบันปารีสก็ยังคงใช้แผนการเล่นแบบนี้อยู่ ซึ่งแม้ว่าจะประสบความสำเร็จในลีก แต่สำหรับเวทียุโรป ปารีสอาจต้องการสิ่งที่แตกต่างออกไปเพื่อรับมือกับทีมชั้นนำอย่างเรอัล มาดริด

 

ด้วยความที่เป็นคนจริงจังต่อฟุตบอล ทูเคิลเรียนรู้จากคู่แข่งและบุคคลที่เขานับถือมากที่สุดคนหนึ่งในวงการฟุตบอลนั่นก็คือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ในสมัยที่ทั้งคู่ขับเคี่ยวกันในบุนเดสลีกา เยอรมนี

 

กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทูเคิลสามารถปรับแผนการเล่นได้ตามสถานการณ์ตั้งแต่แผนที่ใช้ประจำอย่าง 4-2-3-1 หรือ 4-3-3 ซึ่งเป็นแผนที่ปารีสคุ้นเคย รวมถึงเขาสามารถปรับใช้แผน 4-1-4-1 หรือแม้กระทั่ง 3-5-2 หรือ 3-4-2-1 ซึ่งเขาจำเป็นต้องกล้าที่จะนำรูปแบบการเล่นใหม่เข้ามาทดลองใช้ในเวทียุโรปกับทีมปารีสชุดนี้

 

ความเด็ดเดี่ยวและความเชื่อในแท็กติกของเขายังเคยถูกพิสูจน์ไม่เพียงแค่ในสนามกับเป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือระดับโลกในสเปนมาแล้ว แต่ในระหว่างที่ทั้งคู่พบกันอย่างไม่เป็นทางการในบาร์ Schumann ที่มิวนิก เยอรมนี เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีนอกสนาม หลังจากเริ่มต้นพูดคุยได้ไม่นาน พวกเขาก็เริ่มถกเถียงกันเรื่องแท็กติกฟุตบอล ทั้งคู่ได้ใช้ที่ป่นเกลือและพริกไทยเป็นตัวแทนในการอธิบายแท็กติกและระบบการเล่นต่างๆ ซึ่งพนักงานที่เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่าทั้งคู่ถกเถียงกันอย่างดุเดือดจนไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม โดยทุกคนต้องรอให้ทั้งคู่จบการสนทนาจึงกล้าที่จะเดินเข้าไปหา

 

ไม่ว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลง ปารีส แซงต์ แชร์กแมงก็ได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด นั่นคือการทดลองใช้กุนซือที่ไม่ได้ผ่านความสำเร็จในระดับสูงมาคุมทีม ซึ่งแน่นอนว่าชื่อของทูเคิล หากนำไปเปรียบกับกุนซือคนอื่นๆ ที่มีชื่อเข้ามาเกี่ยวข้องกับตำแหน่งผู้จัดการทีมคนต่อไปของปารีส แซงต์ แชร์กแมง

 

 

ไล่ตั้งแต่ คาร์โล อันเชล็อตติ อดีตกุนซือปารีส แซงต์ แชร์กแมงที่ว่างงานอยู่ในขณะนี้, อาร์เซน เวนเกอร์ ที่เพิ่งยุติบทบาท 22 ปีกับอาร์เซนอล, โรแบร์โต มันชินี กุนซือที่ประกาศรับตำแหน่งกุนซือทีมชาติอิตาลีไม่นานหลังปารีส แซงต์ แชร์กแมงประกาศเซ็นสัญญากับทูเคิล หรือแม้กระทั่ง อันโตนิโอ คอนเต กุนซือเชลซีที่ดูเหมือนจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขาในถิ่นสแตมฟอร์ดบริดจ์ ต่างก็ฟังดูแล้วเหมาะสมสำหรับทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมงในเวลานี้มากกว่า ทูเคิลที่ยังไม่สามารถสร้างผลงานในเวทียุโรปได้เป็นชิ้นเป็นอัน

 

ทูเคิล จากตัวตนฟุตบอลระบบแบบเยอรมนีที่ช่วยสร้างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ให้มีผลงานในสนามที่ดูจะสูงกว่าศักยภาพของทีมที่มีอยู่ ด้วยบุคลิกที่เด็ดเดี่ยวในการตัดสินใจในช่วงเวลาคับขันได้ดีกว่ากุนซือคนเก่า ความน่าสนใจคือเนย์มาร์จะชื่นชอบกุนซือรูปแบบนี้และตัดสินใจร่วมลงเรือกับปารีสไปต่อหรือไม่

 

แน่นอนว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ปารีส แซงต์ แชร์กแมงได้ตัดสินใจเดิมพันความสำเร็จกับกุนซือหน้าใหม่ในเวทีระดับสูง ซึ่งสิ่งเดียวที่อนาคตของสโมสรหลังการตัดสินใจครั้งนี้จะได้พบคือสิ่งที่แตกต่างอย่างแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นสิ่งที่ดีขึ้นหรือแย่ลง และสิ่งที่แน่นอนอีกอย่างหนึ่งคือเรื่องของอนาคตคงไม่มีใครสามารถบอกได้

 

Photo: AFP

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising