×

ถอดบทเรียนโลกการทำงานจาก The Face Men Thailand Ep. 7 (9 ก.ย. 2560)

10.09.2017
  • LOADING...

*คำเตือน บทความนี้มีการสปอยล์เนื้อหารายการ

     The Face Men Thailand สัปดาห์นี้มีกติกาสุดโหดเพิ่มขึ้นมาด้วยการให้ทุกทีมต้องตัดลูกทีม 1 คนออก และทีมที่แพ้การแข่งขันแคมเปญยังต้องส่งลูกทีมอีกคนเข้าห้องดำอีก แปลว่าสัปดาห์นี้จะมี 1 ทีมที่เสียลูกทีมรวดเดียว 2 คน! ส่วนจะเป็นทีมไหนและเป็นใคร ต้องดูกันเอง งานนี้มีเซอร์ไพรส์!
และเช่นเคย ไม่ว่าคุณจะเป็น #ทีมพีช #ทีมหมู #ทีมลูกเกด สัปดาห์นี้มีอะไรให้เรียนรู้โลกการทำงานกันบ้าง มากันเลย!

 

 

 

ไม่มีที่ยืนให้กับคนอ่อนแอ
     จากกติกาสุดโหดที่บังคับให้ทุกทีมต้องคัดลูกทีมที่อ่อนที่สุด 1 คนออกจากการแข่งขัน และซาบีน่าปิดท้ายการประกาศกติกาใหม่ว่า “พื้นที่นี้ไม่มีที่ยืนให้กับคนอ่อนแอ” อ่อนแอก็แพ้ไป คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง
     ในโลกการทำงาน หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “ไม่มีที่ยืนให้กับคนอ่อนแอ” บางคนอาจจะเคยโดนคนพูดคำนี้กระแทกใส่หน้าด้วยซ้ำ
มันอยู่ที่ว่าเรามองคำนี้อย่างไร
     โลกแห่งการทำงานจริงไม่ใช่โลกที่สวยงามฟรุ้งฟริ้งตลอดเวลา บนเนื้องานว่าโหดแล้ว บางทีคนโหดยิ่งกว่า คนบางคนพร้อมจะทำร้ายคนอื่นได้ทุกวิถีทาง และก็คิดว่านี่แหละ ‘tough work’ นี่แหละวิธีการทำงานแบบมืออาชีพ ใครทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ออกไป ที่ตรงนี้ไม่มีที่ให้คนอ่อนแอ ฉันจะทำงานแต่กับคนที่ tough เท่านั้น ต้องสตรองเท่านั้นถึงจะอยู่ได้ ซึ่งคนแบบนี้พร้อมจะดูถูกคนอื่นได้ตลอด พร้อมจะตัดสินคนอื่นได้ตลอด และคิดว่าตัวเองนี่แหละเจ๋งที่สุด คนอื่นโง่หมด
     มีคำหนึ่งที่น่าสนใจมากคือ “If you want to go fast, go alone. But if you want to go further, go together”
     คือถ้าอยากไปถึงจุดหมายเร็ว ให้ทำงานคนเดียว แหงล่ะ เพราะเราไม่ต้องปรึกษาใคร เราไม่ต้องรอใคร บางคนอาจจะคิดด้วยซ้ำว่า ดีสิ ไม่ต้องมีตัวถ่วง
แต่ถ้าอยากไปให้ไกล เราต้องทำงานเป็นทีม ทำงานด้วยกัน มันอาจจะช้ากว่า แต่การที่เราร่วมมือกัน ช่วยกันคิด ดึงจุดแข็งของแต่ละคนมาทำงาน รู้ว่าใครมีจุดอ่อนตรงไหนและต้องปรับปรุงอย่างไร จะทำให้เราไปได้ไกลกว่า
     คนเราไม่ได้เก่งทุกเรื่อง แต่ละคนมีความสามารถในมุมที่ต่างกัน และแน่นอนมีจุดอ่อนที่ต่างกัน นี่ต่างหากที่ทำให้เราควรจะให้เกียรติคนอื่น เราจะไม่มองว่าคนอื่นไม่เก่งเพียงเพราะเราตัดสินเขาด้านใดด้านเดียวหรือไม่กี่ด้าน เราจะไม่ดูถูกคนอื่น
     มันมีวิธีการทำงานมากมายที่สามารถบรรลุเป้าหมายได้โดยที่คนยังรักเราอยู่
     มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าเราบรรลุเป้าหมาย แต่ล้มเหลวในแง่ความสัมพันธ์ ทำงานตรงตามเป้า แต่ใจคนทำงานไม่อยากทำ ไม่อยากเห็นหน้ากัน จะประชุมกันทีไรก็รู้สึกเหมือนเข้าไปโดนด่าอยู่ตลอด คนทำงานไม่มีความสุข
     เวลาทำงาน บางทีเราอาจจะมีความรู้สึกเหมือนไม่มีที่จะยืน รู้สึกว่าเราไม่เอาไหน เราไม่มีค่าอะไรเลย
     สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ ถ้าตอนนี้รู้สึกไม่มีที่จะยืนก็นั่งลงก่อน พักหน่อย ตั้งสติ ค่อยๆ คิด รวบรวมกำลังใจขึ้นมาใหม่
     คำว่า “ไม่มีที่ยืนให้คนอ่อนแอ” มันช่วยเขย่าตัวเราให้ต้องเข้มแข็ง ให้ต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ให้มองความโหดร้ายในโลกการทำงานว่า โลกไม่ได้สวย แต่เราต้องยืนอยู่ตรงนี้ให้ได้ ล้มแล้วปาดน้ำตาซะ แล้วรีบลุกขึ้นมาใหม่ อ่อนแอได้แต่ต้องรีบเข้มแข็ง ไม่เป็นไร เอาใหม่
     เมื่อเราผ่านอุปสรรคไปได้ เราจะรู้สึกว่าคนที่เคยอ่อนแอคนนั้นได้ตายไปแล้ว!

 

 

เก่งแต่ไม่มีแพสชันก็ไปไม่ไกล
     เหตุการณ์ช็อกโลกประจำสัปดาห์นี้คือการที่เมนเทอร์ลูกเกดเลือกเอานิคกี้ออกจากทีม ด้วยเหตุผลว่าเคยให้โอกาสแล้ว แต่รู้สึกว่านิคกี้ไม่เห็นคุณค่าของโอกาส ให้ไปเรียนอะไรก็ไม่เรียน ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ
     สำหรับคนดูหลายๆ คนคงเห็นว่านิคกี้เป็นหนึ่งในตัวเก็ง เป็นตัวแทนทีมลูกเกดไปเดินไฟนอลวอล์กด้วยซ้ำ แต่จากเหตุผลของเมนเทอร์ลูกเกดแล้วก็เข้าใจได้ว่า การหักดิบส่งนิคกี้กลับบ้านครั้งนี้เมนเทอร์ลูกเกดคิดมาดีแล้ว
     นิคกี้มีความสามารถ พร้อมด้วยหน้าตาและรูปร่าง แต่พอไม่มีแพสชันที่อยากจะชนะ อยากจะเรียนรู้ เขาจะไม่พยายามอย่างคนที่อยากจะชนะ ซึ่งสิ่งนี้คงเป็นสิ่งที่เมนเทอร์ลูกเกดรู้สึก
     ความเก่งของคนเราไม่เท่ากัน ต้นทุนชีวิตที่มีมาของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนต้องพยายามมากกว่าคนอื่นกว่าจะทำได้ถึงครึ่งหนึ่งของที่อีกคนทำ แต่แพสชันคือสิ่งที่วัดว่าคนเราจะไปได้ไกลแค่ไหน
     แพสชันคือการรู้ว่าเราต้องการอะไรในชีวิต รู้ว่าทำอย่างไรถึงจะได้สิ่งนั้นมา นอกจากรู้แล้วคือลงมือทำ สู้ให้สุดชีวิตเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา พร้อมจะ ‘บ้า’ ไปกับมันให้ถึงที่สุด
     คนเก่งแต่ไม่มีแพสชันก็ไปได้ไกลระดับหนึ่ง แทนที่จะไปได้ไกลสุดจักรวาล คนไม่เก่งแต่มีแพสชันจะทำทุกอย่างมากกว่าคนอื่น ทุ่มเทกว่าคนอื่น ซ้อมมากกว่าคนอื่น สู้มากกว่าคนอื่น เพราะรู้สึกว่าตัวเองยังไม่เก่ง ต้องเก่งกว่านี้ให้ได้ มีโอกาสอะไรแม้น้อยนิดก็จะคว้าไว้ ไม่ปล่อยให้สูญเปล่า และสิ่งนี้ทำให้เขาไปได้ไกลกว่าจุดเริ่มต้นมาก
     ถ้ารู้ตัวว่าเรายังไม่เก่ง ยิ่งต้องมีแพสชัน เพราะแปลว่าเราจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ เราจะตะกายไปให้สูงกว่านี้ เช่นเดียวกัน ถ้ารู้ตัวว่าเราเก่ง มีศักยภาพ ก็ยิ่งต้องมีแพสชัน เพราะแปลว่าเราจะยิ่งเก่งได้มากกว่าเดิม
     แน่นอนว่า เวลาทำงานไป ยิ่งทำงานนานๆ แพสชันที่เรามีจะเริ่มหายไป เริ่มนิ่ง เริ่มชินกับคอมฟอร์ตโซน บางทีมันไม่ใช่เพราะเราขี้เกียจ แต่เพราะเราโดนการทำงานทำร้ายตัวเราให้รู้สึกไม่เหลือแพสชัน เช่น ที่ทำงานไม่ให้โอกาสได้ทำอะไรใหม่ๆ หรืออยู่ในจุดที่ที่ทำงานไม่ให้คุณค่า และไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร
     อย่าปล่อยให้แพสชันของเราตาย ต้องหมั่นเติมเชื้อเพลิงให้ตัวเองอยู่ตลอด โดยหมั่นสำรวจตัวเองว่า เราอยู่ที่จุดไหนของเป้าหมายที่เราเคยวางไว้ หรือเรามีแพสชันกับเรื่องอื่นแล้ว
     สัปดาห์หน้าจะมีอะไรให้มนุษย์ทำงานอย่างพวกเราเรียนรู้จาก The Face Men Thailand กันอีก เดี๋ยวมาเรียนด้วยกัน!

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising