หอการค้าฯ ลุยเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพปั้นจังหวัดเมืองรองจำนวน 10 จังหวัด เพื่อผลักดันให้เป็นเมืองหลัก หนุนสร้างการท่องเที่ยว การนำเทคโนโลยีมาช่วยในภาคเกษตร และการสร้างอาชีพ
สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวบนเวทีเสวนาในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2023 ในหัวข้อ Building Thailand’s Future-Ready Economy
สร้างเศรษฐกิจไทยให้พร้อมไล่ล่าอนาคต ว่า การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในสถานการณ์ปัจจุบันเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เช่น การแก้ปัญหาหนี้, การช่วยเหลือให้ SME เข้าถึงแหล่งเงินทุน ขณะที่การออกมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มองว่าเป็นมาตรการที่สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่ไม่มีความจำเป็นต้องให้กับประชาชนทุกคน โดยควรให้แบบกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเปราะบางที่มีจำนวนประมาณ 14-15 ล้านคน
นอกจากนี้ ล่าสุดหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้เสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพในการพัฒนาจังหวัดเมืองรองจำนวน 10 จังหวัด เพื่อผลักดันให้เป็นเมืองหลัก ซึ่งในบ่ายวันนี้ (24 พฤศจิกายน) จะมีการประชุมเพื่อหารือและนำรายชื่อจังหวัดเสนอรัฐบาลต่อไป โดยต้องการสนับสนุนเมืองรองดังกล่าวในด้านภาคการท่องเที่ยว การนำเทคโนโลยีมาช่วยในภาคเกษตร และการสร้างอาชีพ
ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวในทั้งปี 2566 เชื่อว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาไทยแตะระดับ 27 ล้านคนได้อย่างแน่นอน แต่จะถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่จำนวน 28 ล้านคนหรือไม่ ต้องลุ้นในช่วงที่เหลือของเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมนี้ ส่วนภาคการส่งออกของไทยในปีนี้คาดว่าจะติดลบประมาณ 1% แต่ติดลบไม่เกิน 2% ส่วนในปี 2567 คาดว่าจะพลิกกลับมาเป็นบวก 1-2%
“GDP ไทย ไตรมาส 3/66 ที่ออกมา 1.5% เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นวิกฤตแต่น่ากังวล คือมีสิ่งที่ต้องทำต่อ การกระตุ้นเศรษฐกิจยังเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การแจกดิจิทัลวอลเล็ตให้กับกลุ่มเปราะบาง ส่วนการท่องเที่ยวที่มีการยกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งก่อนหน้านี้เอกชนพยายามเร่งให้มีการตั้งรัฐบาลเพราะกังวลว่างบประมาณฯ จะออกมาไม่ทัน”
นอกจากนี้ ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยควรต้องมีการกระตุ้นครั้งใหญ่ อยากเชิญทุกคนที่เกี่ยวข้องมาร่วมพูดคุยเพื่อดึงดูดต่างชาติให้เข้ามาลงทุนโดยเร็วที่สุด รวมถึงเข้ามาทำงานและนำครอบครัวมาพักอาศัยในประเทศไทย แต่ต้องมีการสร้างความเข้าใจว่าต่างชาติที่เข้ามาไม่ได้เข้ามาแย่งงานของคนไทย โดยหากทุกภาคส่วนสามารถมีแนวคิดและดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน เชื่อว่าจะหาทางออกของปัญหาได้แน่นอน
สำหรับกลยุทธ์ที่สำคัญ 3 ด้านของไทย ควรส่งเสริมความสามารถการแข่งขันในเวทีการค้า คือ
- การเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness) ของประเทศไทยในด้านประสิทธิภาพการผลิต (Productivity) เปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างมีความท้าทาย ซึ่งต้นทุนค่าไฟฟ้าของไทยปัจจุบันที่ยังสูงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่ง โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมกลุ่มเทคโนโลยีที่มีการใช้ไฟฟ้าในสัดส่วนต่อต้นทุนในการดำเนินธุรกิจที่สูง
- การเร่งการเจรจาเปิดเขตการค้าเสรี (FTA) โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีมีนัดประชุมทูตของไทยที่ประจำอยู่ทั่วโลก ซึ่งทูตทุกคนควรให้ความสำคัญด้านเศรษฐกิจ
- ต้องสร้างบุคลากรเพื่อให้เพียงพอรองรับการทำงานในอุตสาหกรรมต่างๆ
“ภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยต้องมีการกระตุ้นครั้งใหญ่ อยากเชิญทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาพูดคุย เราจำเป็นต้องเปิดประเทศเพื่อให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนและทำงาน ต้องทำความเข้าใจว่าไม่ได้มาแย่งอาชีพคนไทย รัฐบาลต้องมีนโยบาย Talent Immigration Policy เพื่อให้คนไทยเก่งขึ้น”