ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM วันที่ 2 กระทิง- เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่ม KASIKORN Business – Technology Group (KBTG) ได้ขึ้นบรรยายพิเศษในหัวข้อ ‘THE FUTURE OF LEADERSHIP ภาวะผู้นำแห่งโลกยุคปากเหว’ โดยระบุว่า โลกในปัจจุบันถือเป็นยุคที่มีความปั่นป่วนอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน เพราะต้องเผชิญกับวิกฤตในวิกฤต เช่น ภาวะโรคระบาด ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ และการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี ซึ่งยังไม่นับรวมปัจจัยเรื่องการเข้าสู่สังคมสูงวัยและความเหลื่อมล้ำทางสังคมและช่องว่างทางเจเนอเรชันที่เกิดขึ้นในหลายประเทศรวมถึงไทย
รุ่งโรจน์กล่าวว่า ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ทำให้โลกมีความสลับซับซ้อนมากกว่าโลกแบบเดิมเป็นพันเท่า และทำให้เวลา 2 ปีในปัจจุบันเทียบเท่ากับ 10 ปีของโลกในอดีต ซึ่งความท้าทายที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ผู้นำองค์กรไปจนถึงผู้นำประเทศต้องเผชิญกับการตั้งคำถามถึงความจำเป็นในการมีอยู่ (Unprecedented Existential Crisis) เมื่อพวกเขาไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เศรษฐา ทวีสิน ชี้ ปัญหาเหลื่อมล้ำและปากท้องเร่งด่วนสุด แนะจัดเก็บภาษีคนรวยมากขึ้น
- ถอดมุมมองต่อ Web 3.0 ผ่านเลนส์ของ ‘Regulator-Investor-Developer’ แท้จริงแล้วคืออะไร?
- วาทะเด็ด THE FUTURE OF WORK อนาคตการทำงาน ทำอย่างไรให้เวิร์ก
- ส่องเทรนด์อนาคต ชี้องค์กรต้องมุ่งโฟกัส Upskill – เพิ่ม Experience ให้กับพนักงาน ป้องกันการเทิร์นโอเวอร์สูง
“ผมเชื่อว่าถ้าเราปลุกผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในอดีตขึ้นมาแก้ปัญหาของโลกในยุคปัจจุบัน ทุกคนคงงงและไม่มีใครแก้ปัญหาได้เพราะการเป็นผู้นำในโลกแบบเดิมกับโลกแบบใหม่ หรือ BANI World ซึ่งย่อมาจาก Brittle (เปราะบาง), Anxious (สร้างความกังวล), Nonlinear (คาดเดายาก) และ Incomprehensible (ยากที่จะทำความเข้าใจ) นั้นมีความซับซ้อนมาก” รุ่งโรจน์ระบุ
รุ่งโรจน์กล่าวว่า ผู้นำในโลกยุคใหม่ต้องแตกต่างจากผู้นำในโลกแบบเดิม เช่น
1.ต้องเปิดใจกว้าง ร่วมมือกัน สร้างสรรค์สิ่งใหม่และแบ่งปันแทนที่จะเถียงกันจนตกเหว
2. เลิกทำตัวรู้ทุกอย่าง (Know It All) แล้วเปลี่ยนเป็นเรียนรู้จากทุกสิ่ง (Learn It All)
3. เสียสละตัวเองมากขึ้น (Serve More) แทนที่ออกคำสั่งมากขึ้น (Lead More) 4. ต้องสร้างแรงบันดาลใจโดยทำตัวเองเป็นแบบอย่าง (Show and Inspire) ไม่ใช่แค่พูด (Tell)
ประธาน KBTG กล่าวอีกว่า ผู้นำในโลกยุคใหม่จะต้องมีภาวะผู้นำแบบ 2 ขั้ว เช่น สามารถสร้างความสามัคคี (Unity) แต่ก็ต้องเปิดให้มีความหลากหลาย (Diversity) สร้างความหวังในกับคนได้โดยไม่ใช่ฝันลมๆ แล้งๆ ให้อิสระกับผู้คน โดยกำหนดกรอบความรับผิดชอบที่เหมาะสมและต้องต่อสู้เพื่อความถูกต้องโดยไม่รีบฟันธงว่าอะไรคือถูกผิด
“ก่อนที่เราจะเป็นผู้นำที่ดีได้ เราต้องเป็นมนุษย์ที่ดีให้ได้ก่อน ผมเชื่อว่าในโลกยุคปากเหวจะไม่มีอัศวินขี่ม้าขาว หรือมีคนเพียงไม่กี่คนที่แก้ปัญหาทั้งหมดได้ ทุกคนต้องลุกขึ้นมาเป็นผู้นำ ภาวะผู้นำต้องอยู่ในตัวพวกเราทุกคน แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะอยู่บนปากเหวแต่ผมไม่เคยสิ้นหวังในประเทศนี้ เพราะเรามีคนไทยที่สามารถเปลี่ยนประเทศได้ แต่เราทุกคนต้องมองข้าวหุบเหวแล้วช่วยกันทำให้ดีที่สุด” รุ่งโรจน์กล่าว