×

ดิศปนัดดา เผยทางแก้ฝุ่น PM2.5 หนุนใช้ NGV ตั้งศูนย์จัดการการเผา-ตลาดซื้อขายคาร์บอน

โดย THE STANDARD TEAM
03.09.2020
  • LOADING...

วันนี้ (3 กันยายน) ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) อย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 เป็นปัญหาสำคัญและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ได้ทำการศึกษาปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างละเอียด พบว่าสาเหตุและแหล่งที่มาของฝุ่นครอบคลุม 5 ภาคส่วน ได้แก่

 

  1. ภาคคมนาคม จากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของยานยนต์ มีปัจจัยสำคัญคือ มาตรฐานคุณภาพยานยนต์และเชื้อเพลิง
  2. ภาคอุตสาหกรรม จากการปล่อยมลพิษทางปล่องระบาย ซึ่งขาดการเก็บข้อมูล การตรวจวัด และการรายงานผล
  3. การเผาในที่โล่ง จากการเผาเศษเหลือใช้ทางเกษตร เนื่องจากขาดแรงงาน ต้นทุนและมาตรการสนับสนุนการทำการเกษตรที่ไม่ต้องเผา
  4. ไฟป่า จากการหาของป่าล่าสัตว์และเผาไร่ เป็นต้น อีกทั้งยังขาดระบบแจ้งเตือนไฟป่าที่ทันต่อเหตุการณ์ และความมีส่วนร่วมในการป้องกันรับมือไฟป่าระหว่างเจ้าหน้าที่และชุมชน
  5. หมอกควันข้ามแดน จากฝุ่นที่ถูกพัดโดยกระแสลมมาจากประเทศใกล้เคียง

 

ม.ล.ดิศปนัดดา ระบุว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมหรือฝุ่นละอองไม่สามารถแก้ไขได้อย่างครบถ้วนและยั่งยืนด้วยเพียงมาตรการระยะสั้นเพียงอย่างเดียว กมธ. จึงได้ทำการศึกษาจัดทำแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างครอบคลุมในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยมุ่งเน้นที่การบังคับใช้กฎหมาย การสนับสนุนการใช้เชื้อเพลิง NGV ที่มีมลพิษต่ำกว่าดีเซล และการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าอย่างครบวงจรในภาคคมนาคม การขยายผลโครงการนำร่อง PRTR ในวงกว้างเพื่อวางแผนการจัดการมลพิษในภาคอุตสาหกรรม การตั้งศูนย์อำนวยการบริหารจัดการการเผาเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล การส่งเสริมการใช้ประโยชน์และเครื่องจักรในการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อแก้ปัญหาการเผาในที่โล่ง กำหนดพื้นที่และสิทธิการใช้ประโยชน์ของชุมชนที่ชัดเจน ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า รวมถึงตรากฎหมายสิ่งแวดล้อมและกฎหมายจัดตั้งตลาดการซื้อขายคาร์บอนเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นจากไฟป่าอย่างยั่งยืน

 

อย่างไรก็ตาม ทาง กมธ. เห็นว่า เมื่อประเทศไทยสามารถแก้ไขปัญหาฝุ่นควันได้แล้ว ก็สามารถนำแนวทางไปเผยแพร่และส่งเสริมให้กับประเทศอื่นๆ ผ่านความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาคและนานาชาติต่อไป 

 

“คณะกรรมาธิการอยากเน้นย้ำว่า สิ่งที่ทุกคนต้องตระหนักคือทรัพยากรธรรมชาติไม่ใช่ของฟรี มีต้นทุนในการใช้งานที่เราอาจไม่ได้จ่ายในลักษณะตัวเงิน แต่เป็นเรื่องของคุณภาพชีวิต สุขภาพ และอนาคต ดังนั้นเราทุกคนต้องพึงตระหนักเสมอว่าเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่จะส่งมอบทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณภาพเทียบเท่าหรือดีกว่าให้กับคนรุ่นหลังต่อไป” ม.ล.ดิศปนัดดา ระบุ 

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising