×

เบื้องหลังชัยชนะ 6 นัดรวด กับ The Right One สำหรับ ‘ปีศาจแดง’

14.01.2019
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • การตัดสินใจเด็ดขาดของบอร์ดบริหาร โดยเฉพาะเอ็ด วูดเวิร์ด ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในการทาบทามโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ หนึ่งในศิษย์รักให้ละงานที่ต้นสังกัดโมลด์เอาไว้ก่อน เพื่อมาช่วยกอบกู้ทีมที่กำลังจะจมน้ำ จึงเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
  • ประเมินจากผลงานในเกมกับสเปอร์ส ทีมที่เป็นบททดสอบครั้งใหญ่เกมแรกในยุคของโซลชาร์ หากเอาเกมนี้เป็นการ ‘ออดิชัน’ ต้องบอกว่าโปเชตติโนสอบตก
  • แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจผิดหวังกับ The Chosen One มาจนถึง The Special One แต่ผมคิดว่าพวกเขาอาจจะเจอ The Right One แล้วกับโซลชาร์

ชีวิตคนเรามันพลิกกันนิดเดียว ทีมฟุตบอลเองก็ไม่แตกต่างกันเลยนะครับ

 

ย้อนหลังกลับไปยังไม่ครบเดือนดี ในวันนั้น ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกอยู่ใต้สถานการณ์ย่ำแย่อย่างเหลือเชื่อ พวกเขาเพิ่งแพ้ต่อคู่ปรับตลอดกาลอย่างลิเวอร์พูลแบบหมดรูป ขณะที่ภายในทีมเต็มไปด้วยปัญหา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้เล่นจำนวนหนึ่งที่เป็นปฏิปักษ์กับผู้จัดการทีมอย่างโฆเซ มูรินโญ อย่างชัดเจน

 

สถานการณ์ในตอนนั้นยากจะมองออกว่าทีมที่ครองแชมป์ลีกฟุตบอลสูงสุดของอังกฤษจะเอาตัวรอดได้อย่างไร เพราะตามหน้าเสื่อแล้วมีแนวโน้มที่มูรินโญจะอยู่กับทีมไปอย่างน้อยจนจบฤดูกาล เพราะเขายังมีไพ่เด็ดที่คว่ำหน้าเอาไว้เป็นตัวประกันกับเงินค่าชดเชยจำนวนมหาศาลที่สโมสรต้องจ่ายให้หากตัดสินใจปลดเขากลางอากาศ

 

สมมติว่ามูรินโญยังอยู่

 

โปรแกรมช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ผมเชื่อว่ายูไนเต็ดดีพอที่จะพลิกสถานการณ์กลับมาเก็บชัยชนะได้ไม่ยาก เพราะคู่แข่งนั้นแทบไม่มีทีมใดที่ยากเกินไป แต่อาจจะมีการสะดุดเป็นบางนัด

 

ทีมน่าจะยังมีปัญหาความอึมครึมภายในทีม มูรินโญจะเปิดศึกกับพอล ป็อกบา ต่อไป ขณะที่ อเล็กซิส ซานเชซ นักฟุตบอลที่ค่าเหนื่อยแพงที่สุดของทีมจะกลายเป็นตัวตลก และมีโอกาสที่ทั้งสองจะหาทางย้ายทีมให้ได้ภายในช่วงตลาดฤดูหนาว

 

เช่นกันกับนักเตะอีกหลายคนภายในทีมที่คงจะหาโอกาสในการออกไปเผชิญโชคชะตาใหม่ รวมถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด, อ็องโตนี มาร์กซิยาล เรื่อยมาจนถึง ลุค ชอว์, เอริค ไบญี,​ วิกเตอร์ ลินเดลอฟ และอาจรวมถึง ดาวิด เด เคอา

 

ฤดูร้อนหน้าอาจจะเป็นฤดูร้อนที่แล้งความสุขที่สุดของชาวเรด อาร์มี

 

 

การตัดสินใจเด็ดขาดของบอร์ดบริหาร โดยเฉพาะเอ็ด วูดเวิร์ด ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในการทาบทามโอเล่ กุนนาร์​ โซลชาร์ หนึ่งในศิษย์รักให้ละงานที่ต้นสังกัดโมลด์เอาไว้ก่อน เพื่อมาช่วยกอบกู้ทีมที่กำลังจะจมน้ำ จึงเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

ถึงแม้จะมีเสียงวิพากษ์ถึงการที่ทีมอย่างพวกเขาต้องพึ่งบริการของโค้ชที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มท็อปของวงการ และยังไม่ผ่านการพิสูจน์ตัวใดๆ ในลีกระดับชั้นนำของยุโรปอย่างโซลชาร์ และอาจเป็นการเสียเวลาเปล่าไปอย่างน้อย 1 ฤดูกาล แทนที่จะให้โอกาสผู้จัดการทีมคนใหม่ตัวจริงได้เริ่มต้นวางรากฐานทุกอย่างใหม่

 

แต่สิ่งที่โซลชาร์แสดงให้เราได้เห็นตลอดระยะเวลาเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ที่เขานำทีมบุกไปชนะท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ของ เมาริซิโอ โปเชตติโน หนึ่งในตัวเก็งเต็งจ๋าว่าจะได้เป็นนายใหญ่คนใหม่ของโอลด์แทรฟฟอร์ดหลังจบฤดูกาลนี้ มันสะท้อนอะไรหลายอย่างให้เราได้เห็น

 

อย่างแรกและสำคัญที่สุดคือ โซลชาร์สามารถแก้ไขปัญหาที่หมักหมมของทีมได้แทบจะทันที จนทีมปีศาจแดงเล่นได้ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาราวกับเป็นทีมคนละชุด ทั้งๆ ที่ผู้เล่นก็เป็นชุดเดิมกับที่มูรินโญใช้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา! ด้วยการเปลี่ยนอะไรนิดๆ หน่อยๆ

 

นิดๆ หน่อยๆ ที่ว่าคือการปรับแนวคิดของนักฟุตบอลใหม่ ปลดปล่อยพวกเขาให้พ้นจากพันธนาการที่เคยเหนี่ยวรั้งไว้ทั้งปวง ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการติดปีกกลับคืนให้ปีศาจ

 

ความจริงนักเตะของยูไนเต็ดนั้นดีเข้าขั้นเยี่ยมอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาพวกเขาถูกใช้งานอย่างไม่เหมาะสมและสอดคล้องกับความสามารถ ทำให้ไม่สามารถแสดงผลงานตามระดับฝีเท้าที่แท้จริงได้ และกลายเป็นตัวตลกในสนาม ให้คู่แข่งเขาเอาไปล้อเลียนกันสนุกสนาน

 

เมื่อโซลชาร์ ‘ปลดล็อก’ ให้นักเตะอย่าง แรชฟอร์ด, มาร์กซิยาล หรือป็อกบา ก็ได้โชว์ของออกมาให้เห็น บวกกับความกระหายและความเจ็บแค้นที่ถูกกดหัวเอาไว้นาน ก็ยิ่งทำให้ตั้งใจมากเป็นพิเศษ

 

แต่นายใหญ่ชาวนอร์เวย์ไม่ได้ทำแค่นั้นครับ อย่างต่อมาที่เขาทำคือการวางแผนการเล่นที่ถูกต้อง ซื่อตรงต่อ DNA ของสโมสร และเข้ากันได้กับความสามารถของผู้เล่นที่มี

 

 

ระบบการเล่น 4-3-3 ของโซลชาร์เป็นการวางแผนที่เรียบง่าย ไม่มีอะไรสลับซับซ้อนแต่ทรงประสิทธิภาพอย่างมาก โดยหนึ่งในเหตุผลสำคัญคือ Shape หรือ ‘ทรงบอล’ ของยูไนเต็ดนั้นถูกต้อง จนทำให้ทีมดีขึ้นกว่าเดิมอีกอักโข

 

แม้กระทั่งสเปอร์สของโปเชตติโนเองก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้คิดว่าปีศาจแดงจะมีทรงบอลที่ดีขนาดนี้ใน 45 นาทีแรกที่เวมบลีย์ ซึ่งไม่ใช่ทุกทีมที่จะต่อเกมสู้กับสเปอร์สได้ในระดับนี้

 

นอกจากการจัดระบบที่ลงตัวแล้ว โซลชาร์ยังมี ‘ทริก’ ที่เขาพยายามแนะลูกทีมเพิ่มเติม คือเรื่องของการใช้พื้นที่ให้เต็มสนาม ถ่างเกมรับคู่ต่อสู้ออก และพยายามใช้โอกาสที่มีให้คุ้มค่า

 

ข้อนี้เราได้เห็นตั้งแต่เกมแรกที่เขาคุมทีมในเกมกับทีมเก่า คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ที่เขาเคยคุมทีม มาจนถึงในเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา

 

ต่อให้เป็นทีมที่แข็งแกร่งอย่างสเปอร์ส พวกเขาก็สามารถหาช่องเข้าทำเล่นงานได้ และประตูชัยของเกมซึ่งได้จากแรชฟอร์ดคนเดิมก็มาจากจังหวะการสวนกลับที่แม่นยำและรวดเร็ว แค่การเปิดบอลจากแนวลึกของป็อกบา มาถึงไอ้หนุ่มแมนคูเนียนควบไปยิงเสียบเสาไกลอย่างเฉียบขาด

 

‘รายละเอียด’ เล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้คือส่วนสำคัญในการทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของโซลชาร์ชนะรวด 6 นัดทุกรายการ และนับเฉพาะในลีกคือ 5 นัด เป็นสถิติที่เทียบเท่ากับตำนานอย่างเซอร์แมตต์ บัสบี

 

โดยทุกครั้งที่ภาพตัดมาข้างสนาม ผมต้องถามตัวเองตลอดว่าที่เห็นอยู่นั้นคือใคร

 

โซลชาร์ หรือ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

 

จริงอยู่ที่เราไม่ควรตัดสินใครในระยะเวลาอันสั้นเพียง 1 เดือน หรือ 6 นัด แต่เวลานี้ผมคิดว่าบอร์ดบริหารของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะต้องกลับมาทบทวนใหม่

 

พวกเขายังจำเป็นจะต้องมองหาผู้จัดการทีมคนใหม่จริงๆ หรือไม่?

 

 

ประเมินจากผลงานในเกมกับสเปอร์ส ทีมที่เป็นบททดสอบครั้งใหญ่เกมแรกในยุคของโซลชาร์ ส่วนตัวแล้วผมมองไม่เห็นว่าโปเชตติโนจะเป็นคนที่เหมาะสมกว่าอย่างเห็นได้ชัด

 

เรียกว่าหากเอาเกมนี้เป็นการ ‘ออดิชัน’ ผมให้กุนซือชาวอาร์เจนไตน์สอบตก

 

เรื่องเกมกลยุทธ์ไม่มีข้อสงสัยในฝีมือของโปเชตติโนครับ ฟุตบอลของเขาน่าตื่นตาตื่นใจ มีรูปแบบการเข้าทำที่หลากหลาย และต้องยอมรับว่าเกมนี้เทพีแห่งโชคไม่ได้หันมายิ้มให้สเปอร์ส เพราะโอกาสยิงเข้ากรอบ 11 ครั้ง ซึ่งเป็นการยิงที่ควรจะเป็นประตูไม่น้อยกว่า 4-5 ครั้ง ไม่มีลูกไหนเลยที่ผ่าน ดาวิด เด เคอา ไปได้

 

ตรงนี้เองที่ยังเป็นข้อกังขาในตัวของโปเชตติโน ว่าเขามีความสามารถที่จะพาทีมเป็น ‘ผู้ชนะ’ ได้บ้างไหม (ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองต่อไป ไม่ว่าจะกับทีมใดก็ตาม)

 

บางครั้งทีมชนะไม่จำเป็นต้องเหนือกว่าเสมอไป เหมือนกับที่โซลชาร์สามารถทำให้ยูไนเต็ดหาช่องเล่นงานสเปอร์ส และยังสามารถต้านทานเกมรุกที่อันตรายของคู่แข่งได้จนหมดเวลา และคว้าชัยชนะที่ล้ำค่าไปครองในที่สุด

 

มันทำให้ผมรู้สึกว่าโซลชาร์มีบางอย่างที่คล้ายกับเฟอร์กี

 

คนที่เกิดมาเพื่อเป็นผู้ชนะ

 

แน่นอนครับว่าเขายังต้องพัฒนาทั้งตัวเอง และพัฒนาทีมอีกมากหากคิดจะกลับไปให้ถึงในจุดที่ ‘ครู’ เคยทำไว้ ซึ่งเป็นงานที่ยากและลำบากเหลือแสน และมีบททดสอบยากๆ รออยู่อีกมาก โดยเฉพาะการตอบสนองเมื่อถึงวันหนึ่งที่เป็นผู้แพ้ รวมถึงเรื่องการไล่ตามมาตรฐานที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้และลิเวอร์พูล สองคู่ปรับที่กำลังขับเคี่ยวแย่งแชมป์ในเวลานี้ได้กำหนดไว้สูงลิบ

 

แต่ผมเชื่อว่าในเวลานี้ โซลชาร์ได้ตอบคำถามในสิ่งที่ผู้คนไม่ได้คิดจะถามเขาด้วยซ้ำในตอนแรก

 

คำถามที่ว่าใครจะมาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ตัวจริงในฤดูกาลหน้า

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจผิดหวังกับ The Chosen One มาจนถึง The Special One ที่ไม่มีใครจะพาทีมกลับไปในจุดที่ The Greatest One อย่างเฟอร์กีเคยทำไว้

 

แต่ผมคิดว่าพวกเขาอาจจะเจอ The Right One แล้วกับโซลชาร์

 

บางครั้งเราไม่จำเป็นที่จะต้องหาคนที่ดีที่สุด หรือคนที่เก่งที่สุดในชีวิต เพื่อจะไปให้ถึงจุดหมายเสมอไป

 

บางครั้งเราก็แค่ต้องการคนที่ ‘ใช่ที่สุด’ คนที่พร้อมจะจับมือและเดินเคียงกันไปอย่างสบายใจ โดยที่อะไรมันก็ใช่ไปเสียหมด

 

ที่ผ่านมาโซลชาร์อาจจะเคยเป็น ‘ซูเปอร์ซับ’ ที่เคยนำชัยชนะมาสู่ทีมมากมาย

 

แต่ ณ เข็มนาฬิกาเดินไป เขาเริ่มดูเป็น ‘ตัวจริง’ ที่ชัดเจนมากขึ้นทุกที

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

FYI
  • ความลับที่หลายคนอาจไม่เคยรู้คือ ครั้งหนึ่งโซลชาร์เคยถูกขายให้ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ไปแล้วในปี 1998 โดยในเอกสารมีลายเซ็นของมาร์ติน เอ็ดเวิร์ดส กับ อลัน ชูการ์ สองประธานสโมสรแล้ว เหลือเพียงแค่ลายเซ็นของโซลชาร์คนเดียว…แน่นอนครับว่าโซลชาร์ไม่ได้เซ็น
  • เอกสารฉบับนั้นโซลชาร์ยังเก็บไว้อยู่
  • นอกจากเมาริซิโอ โปเชตติโน แล้ว ล่าสุดมีชื่อของแกเร็ธ เซาท์เกต เป็นคู่ชิงตำแหน่งผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยอีกราย เนื่องจากบอร์ดบริหารของปีศาจแดงกลัวว่าการดึงตัวโปเชตติโนจะยากเกินไป
  • ถึงจะทำประตูไม่ได้ แต่พอล ป็อกบา เปิดบอลให้ แรชฟอร์ด เข้าไปยิง และทำให้นับตั้งแต่โซลชาร์เข้ามาคุมทีมอดีตเจ้าของค่าตัวสถิติโลกมีส่วนกับประตูยิงที่ได้ถึง 53% (4 ประตู 4 แอสซิสต์) จากทั้งหมด 15 ประตู
  • ดาวิด เด เคอา เซฟในเกมกับสเปอร์สไปทั้งหมด 11 ครั้ง เป็นรองสถิติตลอดกาลของเขาในเกมกับอาร์เซนอล แค่เมื่อเดือนธันวาคม 2017 (14 ครั้ง) แค่เกมเดียว แต่ที่พิเศษกว่าคือนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเซฟในเกมมากที่สุดโดยที่ไม่เสียประตู
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X