เชื่อหรือไม่ว่า พิซซ่าไม่ได้เป็นเพียงยอดขายหลักของ The Pizza Company เท่านั้น แต่ส่วนหนึ่งมาจากการขาย ‘เมนูไก่’ ด้วยเช่นกัน
โดยครึ่งหนึ่งของลูกค้ามักจะกินพิซซ่าคู่กับการกินไก่ ยิ่งในระยะหลังๆ บางครั้งลูกค้าเดินเข้ามากินไก่เพียงอย่างเดียวก็มี ไม่เพียงการกินในร้านเท่านั้น แต่การซื้อกลับบ้านหรือสั่งผ่านช่องทางเดลิเวอรีก็เป็นเช่นเดียวกัน
นั่นเป็นเพราะ ‘ไก่บาร์บีคิว’ ที่วางขายพร้อมกับ The Pizza Company มาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ จนเราไม่สามารถหากินที่ไหนได้
ขณะเดียวกัน The Pizza Company ก็ไม่หยุดพัฒนาเมนูใหม่ๆ จนเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งเป็นยุคที่เมนูอาหารเกาหลีกำลังมาแรง ทำให้ The Pizza Company ได้ออกอีก 2 เมนูใหม่คือ ไก่เกาหลีและไก่เกาหลีสไปซี่
แม้วันนี้ทั้ง 3 เมนู จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี สะท้อนได้จากยอดขายที่เกิดขึ้น แต่อย่างที่รู้กันว่าพฤติกรรมของคนไทยนั้นชื่นชอบที่จะลองเมนูใหม่ๆ ทำให้ The Pizza Company ไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้
จึงเป็นที่มาของการเปิดตัว 3 เมนูไก่ครั้งใหม่ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มเมนูไก่ในรอบ 2 ปี โดยประกอบไปด้วย ‘ไก่ไข่เค็มไชโย, ไก่เผ็ดเจ็ดย่านน้ำ, ไก่ทอดหาดเล็ก’ จำหน่ายในราคา 6 ชิ้น 129 บาท ซึ่งนอกจากซอสที่จะให้มาคู่กันแล้ว ยังมาพร้อมกับ ‘ข้าวเหนียว’ ในราคา 15 บาท ซึ่ง The Pizza Company ย้ำว่า ไม่ใช่ข้าวแบบ Frozen แต่เป็นการหุงขึ้นมาใหม่ทั้งหมด
การขยับตัวในครั้งนี้ของ The Pizza Company นับว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะอย่างที่รู้กันว่า The Pizza Company ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพิซซ่า สะท้อนจากการกินส่วนแบ่ง 70-80% ในตลาดพิซซ่ามูลค่า 1.2-1.5 หมื่นล้านบาท
ดังนั้นการลงมาเล่นในตลาดไก่ ซึ่งใหญ่ที่สุดในตลาดร้านอาหารจานด่วน จึงมองข้ามไม่ได้ เพราะมีตัวอย่างที่ทำให้เห็นบ่อยไปว่าการข้ามจากพื้นที่ที่ตัวเองเชี่ยวชาญไปสู่น่านน้ำใหม่ๆ เพื่อหวังขยายตลาดของตัวเองให้กว้างขึ้น ไม่ได้ประสบความสำเร็จเสมอไป แม้จะเป็นแบรนด์ใหญ่ก็ตาม
The Pizza Company ก็ยอมรับว่า การขยับมาสู่ตลาดไก่ในครั้งนี้ ‘ไม่ใช่เรื่องง่าย’ เช่นกัน ทว่า The Pizza Company ก็ได้อุดช่องวางไว้หมดแล้ว
อันดับแรกคือ ในแง่ของการสื่อสาร ครั้งนี้ The Pizza Company ใช้ชื่อแคมเปญว่า ‘ทีมชิกเก้น’ แน่นอนว่าเมื่อลูกค้าได้เห็นก็รู้ทันทีว่า The Pizza Company จะขายอะไร เป็นพระเอกที่คนจะจำได้ทันที
ต่อมาในแง่ของ ‘โปรดักต์’ จะเห็นได้ว่านอกจากเมนูใหม่ทั้ง 3 เมนูเป็นรสจัดทั้งหมด ซึ่งเป็นรสชาติที่คนไทยชื่นชอบ และยังไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอน
ที่สำคัญการตั้งชื่อเมนูอย่าง ไก่ไข่เค็มไชโย, ไก่เผ็ดเจ็ดย่านน้ำ, ไก่ทอดหาดเล็ก ก็ทำให้ผู้บริโภครับรู้ได้ทันทีว่า เมนูที่ตัวเองกำลังจะสั่งนั้นคืออะไร รสชาติจะเป็นแบบไหน ไม่ต้องลุ้นหน้างานเมื่ออาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะแล้ว
อีกเรื่องที่มองข้ามไม่ได้คือ ช่องทางการจำหน่าย หลายแบรนด์มักจะเลือกจำหน่ายเฉพาะช่องทาง ทำให้ผู้บริโภคที่แม้จะอยากกินแค่ไหน หากหากินยากก็เลือกไปกินเมนูอื่นๆ ที่สามารถทดแทนได้
The Pizza Company จึงวางขายพร้อมกันในทุกสาขา 400 กว่าแห่งทั่วประเทศ และไม่เพียงหน้าร้านเท่านั้น แต่ผู้บริโภคยังสามารถสั่งได้ทันทีผ่านช่องทางออนไลน์ในทุกรูปแบบ ทั้ง 1112 Delivery หรือโทร 1112 ก็ตาม ส่วนในแง่ของราคา 6 ชิ้น 129 บาท The Pizza Company มองว่านี่เป็นราคาที่จับต้องได้ที่สุดแล้ว
หลายคนอาจมองว่า การบุกตลาดไก่ในครั้งนี้จะเป็นการเข้ามาชนผู้นำในตลาดไก่ที่แข็งแกร่ง แต่สำหรับ The Pizza Company กลับมองว่า หากได้ลูกค้าเก่าหันมากินเพิ่มก็เพียงพอแล้ว
นั่นหมายความว่า เป้าหมายหลักยังเป็นฐานลูกค้าของ The Pizza Company เองที่ชื่นชอบเมนูไก่อยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นการขยายตลาดของตัวเอง แต่ถ้าจะได้ลูกค้าใหม่ๆ เข้ามา The Pizza Company ก็ไม่ติดเช่นกัน
แต่ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถมองข้ามได้เช่นกันว่าวันหนึ่ง The Pizza Company อาจจะลุกขึ้นมาชนกับเจ้าตลาดไก่ก็ได้ใครจะไปรู้
สำหรับลูกค้าที่อยากลิ้มลองไก่ไข่เค็มไชโย, ไก่เผ็ดเจ็ดย่านน้ำ, ไก่ทอดหาดเล็ก สามารถเดินเข้าไปที่ร้าน The Pizza Company แล้วสั่งมาพิสูจน์ว่าจะจัดจ้านสมชื่อหรือไม่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล