×

The Neymar Show โชว์พิเศษของคนพิเศษที่ชื่อ ‘เนย์มาร์’

23.06.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 MINS READ
  • ไม่ว่าคูตินโญจะเป็นคนทำประตูสำคัญปลดล็อก หรือ เฟอร์มิโน และดักลาส คอสตา ที่ลงมาเปลี่ยนแปลงเกมได้ดี แต่คนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือเนย์มาร์อยู่ดี
  • ก่อนจะทำประตูได้ เนย์มาร์ ก็ถูกพูดถึงอย่างมากจาก 2 เหตุการณ์ในการพยายามเรียกจุดโทษ และการโชว์ทริกสุดเหนือชั้น
  • เกมกับคอสตาริกาจึงไม่ต่างอะไรจากรายการ The Neymar Show รายการที่มีเฉพาะคนพิเศษเช่นเขาที่ทำได้เช่นนั้น

ฟิลิปป์ คูตินโญ อาจจะเป็นนักเตะที่ทำผลงานได้ดีที่สุดของบราซิลในสนาม และเป็นคนสำคัญที่ทำประตูปลดล็อกช่วยให้ ‘ลา เซเลเซา’ ไม่เจอกับวันที่แสนเศร้าและต้องตกอยู่ใต้สถานการณ์ที่ลำบากก่อนเกมสุดท้าย

 

ขณะที่สองตัวสำรองอย่าง โรแบร์โต เฟอร์มิโน คือ The Missing Link ที่หายไปในแนวรุกของบราซิล และ ดักลาส คอสตา คือตัวทะลุทะลวงที่ลงมาทำในสิ่งที่วิลเลียนไม่สามารถทำได้ในช่วงก่อนหน้า

 

แต่คนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ เนย์มาร์ เจ้าชายลูกหนังเจ้าเก่าอยู่วันยันค่ำ

 

ประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของเขาไม่เพียงแต่เป็นการฝังคอสตาริกา หนึ่งในทีมที่น่าชื่นชมมากที่สุดของฟุตบอลโลกครั้งนี้ เพราะต่อสู้อย่างน่าประทับใจทุกนัด หากแต่ยังเป็นการปลดปล่อยพันธนาการทางจิตใจที่แสนหนักอึ้งไปด้วยในเวลาเดียวกัน

 

สำหรับใครสักคนที่แบกความหวังของคน 210 ล้านคน ทุกลมหายใจของเขามันไม่มีคำว่าเบาหวิว

 

และสำหรับคนที่แบกความหวังของคนจำนวนมากขนาดนั้น แต่ต้องเผชิญกับปัญหาอาการบาดเจ็บที่หนักหน่วงจนมีความสุ่มเสี่ยงว่าอาจจะพลาดฟุตบอลโลก

 

ทุกสิ่งทุกอย่างคือน้ำหนักที่หัวใจของ เนย์มาร์ แบกรับเอาไว้ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา

 

มันได้ถูกปลดปล่อยเมื่อเขาส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายในวินาทีเกือบจะสุดท้ายของเกม

 

ก่อนที่จะลงไปคุกเข่าและร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร

 

และนั่นคือวินาทีที่เป็นบทสรุปของเกมที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กที่ทุกคนพูดถึงมากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดทั้งเกม

 

ความจริงก่อนหน้าจะมีประตูนี้ เนย์มาร์ ซึ่งไม่ได้ทำผลงานดีเลยตลอดทั้งเกม ชนิดที่ในการเปิดให้แฟนๆ โหวตคะแนนความสามารถของสำนักข่าว BBC สตาร์แห่งทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้รับแค่ 3.8 คะแนนเท่านั้น ก็น่าจะเป็นที่พูดถึงอยู่ดีกับ 2 เหตุการณ์

 

หนึ่งคือการแกล้งล้มเพื่อเรียกจุดโทษให้ทีม ในจังหวะที่ จานคาร์โล กอนซาเลซ กองหลังคอสตาริกาสัมผัสตัวเล็กน้อย ก่อนที่เนย์มาร์จะเล่นใหญ่ล้มลงไปราวกับโดนเหนี่ยวรั้งอย่างรุนแรง

 

 

ผู้ตัดสิน บียอร์น คูเปอร์ส เกือบทำผิดพลาดแล้ว แต่ดีที่มีการรีวิวเหตุการณ์ใหม่ด้วยระบบ VAR และเป็นครั้งแรกที่ระบบย้อนเวลาเพื่อตามหาความยุติธรรมนี้ได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ (บ้างก็มีการเรียกว่าเป็นเหตุการณ์ NeyVAR)

 

VAR ทำให้คอสตาริการอดพ้นจากการตัดสินที่อยุติธรรม พร้อมกันกับที่ทำให้เนย์มาร์รู้ตัวว่าการเล่นละครในสนามนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

 

อีกครั้งคือเหตุการณ์ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อเขาเผชิญหน้า เยลต์ซิน เตเยดา ตรงสุดเส้นหลัง ก่อนจะงัดลีลาดีดลูกส้นข้ามหัว หรือภาษาฝรั่งเขาว่า Rainbow Flick

 

ปกติทริกแบบนี้นักฟุตบอลอาชีพไม่ค่อยใช้กันในสนาม เพราะมันดู ‘หยาม’ คู่ต่อสู้เกินไป สุ่มเสี่ยงต่อการจะมีเรื่องมีราวกันได้ง่ายๆ

 

แต่เนย์มาร์กล้าทำ และทำในฟุตบอลโลก

 

เรียกว่าทั้ง 3 เรื่อง ตั้งแต่การเล่นใหญ่เรียกจุดโทษ การโชว์ไม้ตายในสนาม และประตูย้ำชัยกับการร้องไห้แบบไม่อายใคร ทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจที่ใครก็เลี่ยงการพูดถึงไม่ได้

 

เกมเมื่อค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมาจึงไม่ต่างอะไรจากรายการ The Neymar Show

 

รายการที่มีเฉพาะคนพิเศษเช่นเขาที่ทำได้เช่นนั้น

 

อย่างไรก็ดีนอกเหนือจากความบันเทิงในสนามที่เนย์มาร์มอบให้แก่ผู้ชมแล้ว สำหรับบราซิล พวกเขาได้รับชัยชนะที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง

 

เพราะนั่นหมายถึงโอกาสที่พวกเขาจะไปต่อสูงขึ้น และไม่ต้องเผชิญกับความกดดันแสนสาหัสในเกมนัดสุดท้ายกับเซอร์เบีย ซึ่งต้องการชัยชนะสถานเดียวในเกมสุดท้ายหลังปราชัยต่อสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บแบบน่าเสียดาย

 

4 คะแนนจาก 2 เกมแรก ทำให้ในเกมสุดท้ายพวกเขาต้องการอีกเพียง 1 คะแนนจากผลเสมอ ก็ถือว่าเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาเข้ารอบได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นอันดับ 1 หรือ 2 ของกลุ่มก็ตาม

 

นอกเหนือจากเรื่องประตูที่เปิดกว้าง เรื่องขวัญและกำลังใจก็สำคัญ เพราะบราซิลชุดนี้ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าที่คนคาดหวัง ทั้งๆ ที่มีสตาร์เต็มทีมและเป็นหนึ่งในทีมที่ดูสมบูรณ์และสมดุลมากที่สุด

 

ชัยชนะจะทำให้พวกเขาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง ซึ่งเช่นนั้นก็นับว่าเป็นข่าวร้ายสำหรับชาติคู่แข่ง

 

สิ่งที่น่าสนใจหลังจากนี้คือ ติเต กุนซือผู้วิ่งล้มหน้าคว่ำด้วยอารามดีใจหลังประตูของคูตินโญ จะมีการปรับเปลี่ยนทีมหรือไม่ หลังพอจะได้เห็นชัดๆ ว่านักเตะอย่างเฟอร์มิโนและดักลาส คอสตา สำแดงพิษสงได้มากกว่ากาเบรียล เฆซุส และวิลเลียน

 

ถ้าเปลี่ยน บราซิลจะดูอันตรายกว่าเดิมหลายเท่า

 

แต่ถึงไม่เปลี่ยน บราซิลก็ยังเป็นทีมที่อันตราย เพราะการมีนักเตะระดับนี้อยู่บนม้านั่งสำรองนั่นหมายถึงการมี ‘ก็อกสอง’ เอาไว้แก้ไขสถานการณ์ได้ตลอดเวลา

 

สำหรับเนย์มาร์ ผู้ที่ติเตยืนยันว่ายังไม่สมบูรณ์และต้องการเวลามากกว่านี้เพื่อกลับมาเล่นให้ดีเหมือนเก่า ไม่ว่าจะรักหรือชัง เขาคือหนึ่งใน ‘ดาราลูกหนัง’ ที่จะสร้างสีสันให้ตลอดรายการนี้

 

ให้พวกเราได้ลุ้นกันว่าตอนจบของ The Neymar Show จะสุขหรือเศร้าและเคล้าน้ำตากันอีกไหม

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising