×

THE MIGHTY MERKEL

โดย
10.10.2017
  • LOADING...

     อังเกลา แมร์เคิล เคยกล่าวถึงตัวเองในวัยเด็กว่าเป็น “A little movement idiot” เพราะในวัย 5 ขวบเด็กหญิงอังเกลาไม่เคยเดินโดยไม่หกล้มได้เลย

     จากวารวัยที่เติบโตในเยอรมนีตะวันออก อาศัยอยู่อย่างแออัดในโรงเรียนสอนศาสนาที่เต็มไปด้วยผู้พิการ เข้าสู่รุ่นสาวด้วยการถูกเพื่อนชายร่วมชั้นล้อเลียนเกี่ยวกับรูปโฉมที่ไม่โดดเด่น แต่นั่นไม่สำคัญ เพราะอังเกลาพัฒนามุมมองที่มีต่อชีวิต ลับสมองจนแหลมคม และใช้สติปัญญาเป็นอาวุธประมือกับคู่ต่อสู้ จนผงาดขึ้นเป็นสตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของโลก และล่าสุดรักษาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเยอรมนีเป็นสมัยที่ 4 ไว้ได้

     ภายใต้ดวงตานิ่งล้ำลึกและท่าทีสุขุม หญิงเหล็กแห่งยุโรปผู้นี้เดินผ่านถนนชีวิตแบบใดมาบ้าง? เราจะไปดูกัน  

 

 

เพราะแตกต่างจึงเติบโต

     อังเกลาเป็นนักการเมืองที่โดดเด่นและแตกต่างจากผู้นำคนก่อนๆ ของเยอรมนี ไม่ใช่เพราะเธอเป็นผู้หญิงเท่านั้น แต่เพราะเธอเติบโตขึ้นในประเทศคอมมิวนิสต์เยอรมนีตะวันออก ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ปี 1954 เด็กหญิงอังเกลา โดโรเธีย แคสเนอร์ ถือกำเนิดขึ้น พ่อของเธอ ฮอร์สท แคสเนอร์ เป็น บาทหลวงนิกายลูเทอร์แรน ส่วนแม่ เฮอร์ลินด์ แคสเนอร์ เป็นครูสอนภาษาอังกฤษและภาษาละติน แม้เธอจะเกิดที่เมืองฮัมบวร์ก เยอรมนีตะวันตก แต่ไม่กี่สัปดาห์หลังลืมตาดูโลก พ่อของเธอก็โยกย้ายทั้งครอบครัวไปเยอรมนีตะวันออก  และลงหลักปักฐานที่เมืองเทมปลิน  ห่างจากกรุงเบอร์ลินราว 50 ไมล์

     ครอบครัวแคสเนอร์อาศัยอยู่ในโรงเรียนสอนศาสนาวาลดอร์ฟของคริสตจักรลูเทอร์แรน ที่นั่นไม่เพียงแต่เป็นบ้านของครอบครัวเล็กๆ นี้เท่านั้น หากแต่ยังเป็นบ้านของผู้พิการอีกหลายร้อยคน อยู่รวมกันอย่างแออัดในบรรยากาศน่าหดหู่ ห้องเล็กๆ เพียงห้องเดียวต้องรองรับคนมากถึง 60 คน และมีเครื่องเรือนแค่เตียงผ้าใบเท่านั้น

     อังเกลาเคยกล่าวถึงวาลดอร์ฟว่า “การต้องเติบโตมาในสถานที่ที่แวดล้อมไปด้วยผู้พิการและผู้ป่วยเป็นประสบการณ์สำคัญในชีวิตของฉัน มันสอนให้ฉันเรียนรู้ที่จะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเป็นปกติ”

     อย่างไรก็ตาม การเติบโตในประเทศคอมมิวนิสต์ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าที่อังเกลาจะจัดการ แม้ครอบครัวของเธอจะต้องรอรับเสื้อผ้า อาหาร และเงินจากญาติที่ฮัมบวร์ก แต่เธอยังคงมีทัศนคติที่ดีต่อชีวิต ดังที่เธอเคยกล่าวกับ แฮร์ลินด์ เคิลเบิล ช่างภาพชาวเยอรมันเมื่อปี 1991 ว่า “ฉันค่อนข้างจะมีจิตวิญญาณที่เจิดจ้า ฉันคาดหวังเสมอว่าเส้นทางชีวิตของฉันจะสดใส ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่มีวันยอมให้ตัวฉันเองต้องรู้สึกขมขื่น ฉันมักฉกฉวยพื้นที่หรือโอกาสอันเป็นอิสระใดๆ ก็ตามที่เป็นไปได้ภายในดินแดนของสาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี ชีวิตวัยเด็กของฉันไม่มีเงามืดของความเศร้าหมองมาบดบัง และฉันไม่จำเป็นต้องอยู่แบบที่มีความขัดแย้งกับกฎเกณฑ์ของประเทศ”

 

 

มันสมองที่เปรื่องปราด

     อังเกลาเรียนหนังสือเก่งมาตั้งแต่เด็ก วิชาที่เธอโปรดปรานและทำได้ดีมาตลอดคือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษา

     เอริกา เบนน์ ครูสอนภาษารัสเซียของอังเกลาสมัยเรียนอยู่ที่เทมปลิน เคยเล่าถึงลูกศิษย์คนนี้ไว้ใน The New Yorker ว่า อังเกลาในช่วงวัยรุ่นไม่เคยเป็นเด็กสาวแสบๆ ที่แก่แดด หรือชอบหว่านเสน่ห์ ส่วนใหญ่ใครๆ มักรู้สึกว่าเธอไม่สนใจการแต่งตัว กับทรงผมยิ่งแล้วใหญ่ เพื่อนปากร้ายบางคนบอกว่า ผมของเธอเหมือนกาน้ำครอบอยู่บนหัว หนำซ้ำยังแปะป้ายว่า เธอต้องอยู่ใน Club of the Unkissed (สมาคมคนไม่เคยถูกจูบ) เสียด้วยซ้ำ

     แต่ไม่ว่าใครจะวิจารณ์เธออย่างไร เรื่องหนึ่งซึ่งไม่มีใครประมาทเธอได้เลยก็คือ ผลการเรียนอันยอดเยี่ยม ตอนเกรด 8 อังเกลาได้รับเลือกจากครูเบนน์ให้เข้าร่วมชมรมภาษารัสเซีย ครูเบนน์ฝึกฝนลูกศิษย์คนนี้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันภาษารัสเซีย และอังเกลาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เธอกวาดชัยชนะในทุกเวที ตั้งแต่ระดับโรงเรียนสู่ระดับประเทศ

     อีกหลายสิบปีต่อมา เมื่ออังเกลากลายเป็นผู้นำประเทศ เธอยืนเคียงข้างประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้ชื่นชมและประทับใจอังเกลาอย่างมาก เพราะเธอเป็นผู้นำระดับโลกคนแรกที่สื่อสารกับเขาด้วยภาษาแม่ของเขาเอง และเรื่องนี้ก็นำความปลาบปลื้มมาสู่ครูเบนน์อย่างที่สุด

     หลังจบการศึกษาระดับมัธยม อังเกลาเข้าเรียนต่อด้านฟิสิกส์และเคมีที่มหาวิทยาลัยไลพ์ซิก และที่นี่เองที่เธอได้พบกับ อูลริช แมร์เคิล สามีคนแรก ทั้งคู่แต่งงานกันในปี 1977 และหย่ากันในปี 1982 คู่ชีวิตคนถัดมาของเธอเป็นศาสตราจารย์ด้านเคมีนามว่า โยอาคิม ซาวเออร์ รักครั้งนี้ยืนยาวมาจนปัจจุบัน

     หลังจากเรียนจบปริญญาตรีในปี 1978 อังเกลาเดินหน้าศึกษาต่อที่สถาบันชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์ของเยอรมนี กรุงเบอร์ลิน จนสำเร็จปริญญาเอกสาขาเคมีควอนตัม ในปี 1986

 

When it comes to

human dignity,

we cannot make

compromises.

 

 

ถนนสายการเมือง

     หลังจากกำแพงเบอร์ลินล่มสลายลงในปี 1989 อังเกลาเข้าร่วมกลุ่มตื่นตัวทางประชาธิปไตย (Democratic Awakening) งานแรกที่ลงมือทำในสายการเมืองคือ แกะกล่องคอมพิวเตอร์ และจัดการติดตั้งให้พร้อมใช้งาน ถัดมาอีก 1 ปี เธอจึงกลายเป็นโฆษกหญิงของที่นี่ และเปลี่ยนชื่อเป็น พันธมิตรเพื่อเยอรมนี (Alliance for Germany)

     แม้อังเกลาโดดเด่นเป็นที่จับตามากขึ้น แต่เธอก็ยังคงเป็นผู้ไม่สนใจกับภาพลักษณ์ของตัวเอง นุ่งกระโปรง
หลวมๆ สวมรองเท้าแตะ และตัดผมสั้นทรงธรรมดาที่สุดในโลก และถูกวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบจากเพื่อนร่วมงานผู้ชาย ถึงขั้นมีคนเสนอจะออกเงินซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เธอ

     อังเกลาก้าวสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเข้าร่วมกับพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU-Christian Democratic Union) พรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนีตะวันตก ในปี 1990 เยอรมนีจัดการเลือกตั้งครั้งแรก หลังจากรวมประเทศสำเร็จ เธอได้รับเลือกเข้าสภาในนามตัวแทนพรรค CDU และได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสตรีและเยาวชน

     ต่อมาในปี 1994 อังเกลาก็ได้ครองตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมและพลังงานนิวเคลียร์ ถัดมาอีกเพียง 4 ปี เธอได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการพรรค CDU ตามด้วยการเป็นหัวหน้าพรรคในปี 2000

     ปี 2005 ประวัติศาสตร์การเมืองของเยอรมนีต้องได้รับการบันทึกอีกครั้ง เมื่ออังเกลาได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเยอรมนี ปัจจุบันเธอครองตำแหน่งต่อเนื่อง 3 สมัย และกำลังก้าวเข้าสู่สมัยที่ 4 หลังผลการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งครั้งใหญ่ของเยอรมนีสิ้นสุดลงเมื่อวันจันทร์ที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา

 

Always be more than you

appear and never appear

to be more than you are.

 

 

นักวิเคราะห์สถานการณ์

     อังเกลาคือตัวแทน ‘ความแตกต่าง’ ที่หาไม่เจอในตัวนักการเมืองเยอรมนีไม่ว่าจะยุคสมัยใด เธอเป็นผู้หญิง เคยหย่า แต่งงานใหม่ ไม่มีลูก เป็น ดร. ทางเคมีควอนตัม และเป็น Ossi ซึ่งหมายถึงผลผลิตจากยุคสมัยของเยอรมนีตะวันออก เธอฉลาดเป็นกรด และเล่นเกมเป็น อดีตหัวหน้างานในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี โจนาธาน โพเวลล์ แห่งสหราชอาณาจักร เคยกล่าวกับ BBC ว่า “หนึ่งในสิ่งที่ผู้คนมักไม่เข้าใจอังเกลา คือแท้จริงแล้วเธอเป็นนักการเมืองที่ไร้ความปรานี เธอมีเล่ห์เหลี่ยมมากมายที่ใช้จัดการคู่แข่งในพรรค CDU และสามารถกำจัดพวกเขาได้แค่เพียงยักคิ้ว”

     อังเกลาขึ้นสู่จุดสูงสุดเมื่อเธอทำให้เยอรมนีเป็นพี่ใหญ่ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในยูโรโซน ในเวลาที่ชาติต่างๆ ยอมรับว่า ไม่สามารถแบกรับหนี้อันท่วมท้นได้ มีเพียงเยอรมนีที่เศรษฐกิจขยายตัวถึง 3% มีสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของยุโรป อัตราการจ้างงานก็เพิ่มขึ้น

     อังเกลาแก้ปัญหาแบบนักวิทยาศาสตร์ เธอเป็นนักวิเคราะห์สถานการณ์ชั้นเยี่ยม ในหัวของเธอเหมือนลิ้นชักที่ช่องหนึ่งกำลังเปรียบเทียบสถานการณ์ อีกช่องหนึ่งประมวลผลถึงสิ่งที่จะตามมาหลังจากตัดสินใจ ในขณะที่ลิ้นชักถัดมากำลังชั่งน้ำหนักความเสี่ยงต่างๆ  

     ปีนี้อังเกลาอายุ 63 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 12 ปี และจะดำรงตำแหน่งไปอีก 4 ปี หากสมัยที่ 4 ของการเป็นผู้นำเยอรมนีไม่มีเหตุมาทำให้สะดุดลงกลางคัน อังเกลา แมร์เคิล จะกลายเป็นผู้นำเยอรมนีที่ครองอำนาจนานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศ และเป็นสตรีที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของโลก

 

DID YOU KNOW? 

 

 

First Female Chancellor

     ปี 2005 อังเกลา แมร์เคิล ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเยอรมนี ปีนั้นเธออายุ 51 ปี ถือเป็นผู้นำประเทศที่อายุน้อยที่สุดที่เยอรมนีเคยมีมา

 

 

Meeting with Kony

     อังเกลาเคยโดนสุนัขกัด จึงกลัวสุนัขมาก เมื่อเธอพบประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ครั้งแรก เขาหยอกเธอแรงๆ ด้วยการมอบของเล่นรูปสุนัขให้ ครั้งต่อมาปูตินปล่อยเจ้าโคนี สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ ตัวใหญ่เข้ามาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ อังเกลากล่าวถึงการกระทำของปูตินนั้นว่า “เขาหวาดกลัวความอ่อนแอของตัวเอง รัสเซียไม่ประสบความสำเร็จไม่ว่าการเมืองหรือเศรษฐกิจ ทั้งหมดที่เขามีก็คือ หมาตัวนั้นนั่นแหละ”

 

Plum Cake

     ไม่เพียงเป็นนักการเมืองที่เก่งการ การบ้านการเรือนของอังเกลาก็ไม่บกพร่อง เธอทำอาหารอร่อย โดยเฉพาะขนมเค้กพลัม 
สมัยที่เธอเป็นนักการเมืองรุ่นเยาว์ และยังพอมีเวลาสำหรับอบเค้กพลัมของโปรดของสามี ตรงข้ามกับปัจจุบัน ภาพที่คนเห็นโดยบังเอิญอยู่ประปรายคือ ผู้นำประเทศ คนนี้มีเวลาเพียงซื้อข้าวของจากร้านของชำในละแวกบ้านเธอเท่านั้นเอง

 

Mutti

     อังเกลาได้รับการชื่นชมว่า เป็นผู้นำประเทศคนแรกที่สนับสนุนด้านกีฬา เธอไปร่วมให้กำลังใจทีมชาติเยอรมนีในการแข่งขันฟุตบอลโลก และเข้าไปแสดงความยินดีอย่างเป็นกันเองถึงในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เหล่านักกีฬาต่างปลาบปลื้มในความใส่ใจและยกให้เธอเป็นมาสคอตของทีม และเรียกเธอว่า Muttivation หรือ Mutti ซึ่งมีความหมายว่า ‘แม่’ นั่นเอง

 

 

Person of the Year

     ปี 2015 นิตยสาร TIME ยกย่องให้ อังเกลา แมร์เคิล เป็นบุคคลแห่งปี คาร์ล วิก บรรณาธิการใหญ่ของ TIME ประกาศว่า อังเกลาเป็นผู้นำของสหภาพยุโรปอย่างแท้จริง เธอเปรียบเหมือนเสาหลักให้ประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในภาวะเปราะบาง ที่ผ่านมายุโรปต้องเผชิญ ภาวะสั่นคลอนหลายอย่าง ไม่ว่าวิกฤต หนี้กรีซ ยูโรโซน และวิกฤตผู้ลี้ภัย แต่เธอก็สามารถเป็นหลักและนำทางให้ทุกชาติได้ในที่สุด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X