ถ้าลองเรียงลำดับตัวละครหญิงที่มีสีสันในแวดวงวรรณกรรมและละครไทย ชื่อทองดี หรือทองประกาย น่าจะติดอันดับท็อปในระดับใกล้เคียงกับ อีสา จากอีสา รวีช่วงโชติ, พริ้ง จากพริ้ง คนเริงเมือง, แพน จากดวงตาสวรรค์ ต่างตรงที่ทองดีจากทองประกายแสดว่าด้วยบริบทสังคมสมัยใหม่ ทำให้การรีเมกแต่ละครั้งก็มีสิ่งที่แตกต่างออกไปเล็กๆ น้อยๆ แต่ยังคงประเด็นใหญ่ๆ คือเรื่องราวของเด็กสาวสุดทะเยอทะยานที่ใช้เสน่ห์และเรือนร่างไต่ระดับชั้นทางสังคม หวังจะพบกับความสุข แต่เมื่อถึงจุดสูงสุดกลับไม่ได้มีความสุขอย่างที่คิด

สำหรับทองประกายแสด 2567 คือเวอร์ชันที่ 7 ก็ได้ใส่ประเด็นสมัยใหม่ให้มีความดาร์กกว่าเวอร์ชันก่อนๆ และใส่จำนวนผู้ชายแบบเต็มแม็กซ์ที่ 9 คนเหมือนสองเวอร์ชันก่อนหน้าคือในปี 2544 และ 2555 ซึ่งผู้ชายที่ผ่านมาในชีวิตของทองดีเหมือนแท่นชาร์จพลังอัปเลเวลให้กลายเป็นหญิงกร้านโลก ให้คนดูทั้งหมั่นไส้แต่ก็เอาใจช่วยในคราวเดียวกัน

ทองประกายแสด เป็นเรื่องราวของ ทองดี (ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) เด็กสาวกำพร้าที่แม่เอามาทิ้งไว้ให้กับ กิม (ตุ๊ก-เดือนเต็ม สาลิตุล) ที่เลี้ยงดูทองดีกึ่งลูกกึ่งคนใช้ โดยที่เธอไม่เคยได้รู้สึกถึงความรักที่แท้จริงเลย จนกระทั่งแตกเนื้อสาว ทองดีรู้เพียงอย่างเดียวว่าสามารถใช้รูปร่างและหน้าตาเป็นใบเบิกทางสู่ชีวิตที่ดีกว่า

ทองดีใฝ่ฝันอยากจะมีชีวิตดีๆ กินหรูอยู่สบายแบบสาวเมืองกรุง จนเริ่มต้นมีความสัมพันธ์กับ พีท (เก้า-จิรายุ ละอองมณี) เด็กช่างแถวบ้านผู้พาเธอเดินทางเข้ากรุงเทพฯ แล้วได้มาเจอกับ เฮียชัย (เอี๊ยง-สิทธา สภานุชาติ) หนุ่มเนิร์ดที่อยู่ในโอวาทของแม่ ซึ่งเหมือนจะค่อยๆ เลื่อนระดับชั้นทางสังคมขึ้นมานิดหน่อย แต่สุดท้ายทองดีก็ทนไม่ได้ จนเกิดเหตุการณ์บางอย่างทำให้ชายคนรักของเธอต้องมีอันเป็นไป

ชีวิตของทองดีเข้าสู่ด้านมืด เมื่อต้องไปเป็นเด็กของเสี่ยบุ๊น (เต๋า-สมชาย เข็มกลัด) เจ้าพ่อธุรกิจสีเทา และกลายเป็นหมากในเกมล้างแค้นให้กับมิตร (สน-ยุกต์ ส่งไพศาล) นายตำรวจเน็ตไอดอลที่เหมือนจะทำให้ชีวิตของทองดีดีขึ้น แต่กลับเลวร้ายลงกว่าเดิม ในจังหวะนี้เองทองดีได้เปลี่ยนชื่อเป็นทองประกาย ซึ่งนอกจากชื่อแล้ว ตัวตนของเธอก็เปลี่ยนไป โดยตอนนี้การผจญภัยผ่านผู้ชายเดินทางมาเกือบครึ่งทางแล้ว ส่วนจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตามในทองประกายแสด

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ทองประกายแสดยังถูกนำมาสร้างบ่อยๆ เพราะถึงวันนี้ก็มีคนอย่างทองดีอยู่ในสังคม และแม้ว่าการผ่านผู้ชายมากหน้าหลายตาจะถูกสังคมตีตราน้อยลง แต่ประเด็นเรื่องการค้นหาความรักและความสุขแบบถูกๆ ผิดๆ ก็ยังไม่เชย ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้เรียนรู้ผ่านผู้ชายแต่ละคน

ในเวอร์ชันนี้ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือพัฒนาการของตัวละครทองดี นับตั้งแต่เป็นเด็กสาวต่างจังหวัดที่ค่อยๆ เรียนรู้ว่าเรือนร่างและความเป็นผู้หญิง ‘ขายได้’ หากยอมโดนจับนิดจับหน่อย แล้วค่อยๆ ใช้มันปั่นหัวผู้ชายอย่างพีท ซึ่งทองดีก็ยังไม่เข้าใจว่าสิ่งนี้เรียกว่าความรักหรือเปล่า เพียงแต่ต้องการหนีออกไปจากสภาพที่เป็นอยู่ จนกระทั่งมาเจอกับเฮียชัยก็เริ่มเข้าใจการเลื่อนสถานะทางสังคมผ่านผู้ชายมีเงิน พอมาเจอกับเสี่ยบุ๊นก็ได้รู้ว่ารูปร่างหน้าตาช่วยให้เอาตัวรอดได้ และในจังหวะนั้นทองดีก็เพิ่งรู้จักกับความรักและอกหัก เมื่อเจอกับมิตรที่ไม่ได้เป็นชายในฝันอย่างที่คิด

ผู้ชายแต่ละคนเหมือนแต่ละด่านที่ค่อยๆ เพิ่มความเป็นมนุษย์ให้กับทองดี ถ้าดูตั้งแต่ต้นจะเห็นว่าทองดีเหมือนเด็กหลงทาง เมื่อมาคบกับพีทก็เริ่มเข้าใจว่าการกัดก้อนเกลือกินมันไปไม่รอด สิ่งที่เธอต้องการอาจจะเป็นเงินทองก็ได้ จึงไปคบกับเฮียชัย แต่ก็ไม่มีความสุขเพราะไม่รักตั้งแต่แรก ส่วนเสี่ยบุ๊นก็เหมือนตัวแทนของอำนาจ ซึ่งแม้ทองดีจะเป็นสนมเอกแต่ก็มีอันตรายรอบด้าน จนกระทั่งมาเจอกับมิตร ที่คิดว่าจะเป็นรักแท้ที่ให้ความอบอุ่นมั่นคง แต่กลับเป็นผู้ชายที่เลวร้ายที่สุดที่ได้เจอ ส่วนในด่านต่อไปทองดีจะได้เจอรักแท้กับมนตรา (เจษ-เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์) ที่เป็นเหมือนรักแท้แต่ก็มีอันต้องจากกัน และยังต้องเจอกับบีที (โอ๊ต-ปราโมทย์ ปาทาน) ผู้เสนอชื่อเสียงให้กับเธอ และสุดท้ายได้พบกับท่านประจักษ์ (ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา) ที่เหมือนจะมีครบจบทุกอย่าง แต่ก็สนองความต้องการบางอย่างของเธอไม่ได้

ทองประกายแสดยังว่าด้วยเรื่องความผิดที่ผิดทางผิดเวลา เหมือนชะตาชีวิตเลือกให้เป็นแบบนั้น อย่างทองดีเองเหมือนเป็นคนไม่มีหัวใจ แต่เมื่อได้ผ่านประสบการณ์หลายๆ อย่าง คนดูก็ได้รู้จักอีกมุมของเธอที่เป็นเด็กขาดความรักและต้องการที่พึ่ง อย่างตอนที่ถูกเสี่ยบุ๊นทำร้ายก็อยากกลับไปหาเฮียชัย อย่างน้อยๆ ก็ยังมั่นคงปลอดภัย แต่ทุกอย่างก็สายเกินไป หรือในมุมความเป็นผู้หญิงหิวเงิน เมื่อเวลาผ่านไปทองดีกลับต้องการความมั่นคงในชีวิต ได้รัก และเป็นที่รักของใครสักคนมากกว่า อย่างที่เธอเลือกอยู่ข้างมิตรมากกว่าอยู่ข้างเสี่ยบุ๊น เป็นต้น ส่วนอีกมุมก็ว่าด้วยความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิต ซึ่งหากไม่ยอมรับมัน ก็ต้องไขว่คว้าไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งที่ต้องชื่นชมคือฝีมือการแสดงของใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ที่ทำให้เราได้เห็นพัฒนาการจากสาวสก๊อย ทำตัวแรงๆ กล้าได้กล้าเสียในตอนต้น แล้วค่อยๆ ใส่ความเป็นมนุษย์เข้าไป ยิ่งผ่านผู้ชายมากขึ้นเท่าไร ภายนอกก็เหมือนจะแกร่งขึ้น แต่ภายในก็ยิ่งอ่อนไหว ซึ่งทำให้คนดูเข้าใจตัวละครมากขึ้น

ขณะเดียวกันข้อบกพร่องที่เห็นได้ชัดคือขาดความสมจริงในหลายๆ จุด อย่างตอนที่ถูกเฮียชัยล่ามไว้ในบ้านกับผ้าผืนบางๆ ผูกข้อมือ หรือตอนที่ทำร้ายเฮียชัยแล้วย้ายไปอยู่ที่ห้องของศรี (แพท-ณปภา ตันตระกูล) ซึ่งก็อยู่ใกล้ๆ จุดเกิดเหตุ แถมตำรวจยังหาตัวไม่เจออีก อีกส่วนคือสถานที่ต่างๆ ดูดีจนไม่รู้สึกว่าทองดีค่อยๆ ไต่ระดับมีชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งผู้ชายทั้ง 9 ของทองดี บางคนก็ดูดีไปหน่อย จนไม่รู้สึกว่าความสัมพันธ์บางอย่างเธอจำต้องฝืนใจมีเพื่อความอยู่รอด

และก็เป็นสไตล์ของค่าย CHANGE2561 คืออุดมไปด้วยฉากตบตี ซึ่งก็เป็นไปตามเนื้อเรื่อง และฉากเลิฟซีนอีกมากมาย ซึ่งถ้าใครไม่ชอบก็คงสาปส่งไปเลย ส่วนใครเป็นสายฮาร์ดคอร์ที่ชอบละครสไตล์นี้แนะนำให้ดูผ่านแอปพลิเคชัน iQIYI ก็จะดุเดือดกว่าเวอร์ชันละครทีวีที่ได้เรต 13+ ทุกวันพุธ-พฤหัสบดีทางช่อง one31