มีอะไรที่คุณยังไม่เคยรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์อียิปต์อีกหรือเปล่า
คุณอาจจะเคยเห็นสมบัติมากมายของกษัตริย์ตุตันคาเมน หรือว่าโบราณวัตถุที่ถูกฝังอยู่ในพีระมิดหรือสฟิงซ์ตัวใหญ่ที่ตั้งตระหง่านน่ายำเกรง นั่นอาจเป็นเพียงเสี้ยวเดียวที่คุณได้รู้จักกับอียิปต์ แต่หลังจากนี้ไปอีกไม่กี่เดือน (หากเขาไม่เลื่อนเปิดอีกนะ) คุณจะได้สัมผัสความรุ่มรวยทางอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์แบบที่สุดในพิพิธภัณฑ์ทางโบราณคดีแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จนเรียกได้ว่านี่คือความ ‘ที่สุด’ ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้จารึกไว้ให้กับโลก
ที่สุดของโรคเลื่อน
The Grand Egyptian Museum ถือว่าเป็นหนึ่งโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ของโลกพิพิธภัณฑ์ที่กำลังจะเสร็จสมบูรณ์แล้วในปี 2020 ที่จะถึงนี้ หรือที่เขาเคยเรียกชื่อโปรเจกต์นี้อย่างย่นย่อว่า Giza Museum ซึ่งเมื่อเปิดบริการเสร็จสรรพสมบูรณ์ ที่นี่จะกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ทางโบราณคดีที่ใหญ่ที่สุดโลกทันที ด้วยการนำเอาอารยธรรมอียิปต์โบราณมาบรรจุไว้มากมาย ทั้งชิ้นงานเดิมที่มีอยู่แล้ว รวมไปถึงชิ้นงานใหม่ที่ไม่เคยแสดงที่ไหนมาก่อนมารวบรวมไว้ แต่ระยะเวลาในการก่อสร้างและความยืดเยื้อของโครงการเองก็ทำให้กำหนดการเปิดเลื่อนมาเรื่อยๆ อย่างน่าเป็นห่วง
คุณรู้หรือไม่ว่าโปรเจกต์นี้ได้ผ่านการพูดคุยและเกิดขึ้นมาตั้งแต่ในปี 2002 ซึ่งแรกเริ่มนั้นกระทรวงการท่องเที่ยวของประเทศอียิปต์ได้จัดตั้งทีม The Foundation Stone of the Grand Egyptian Museum ขึ้นมา โดยมีจุดประสงค์ที่จะสร้างให้อารยธรรมอียิปต์อันทรงคุณค่ากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ทำให้ผู้คนทั่วโลกได้สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์เดิมที่มีอยู่แล้วนั้นค่อนข้างเล็กและแออัดเมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาเยี่ยมชมในแต่ละปี ฉะนั้นก็สร้างพิพิธภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาเลยดีกว่า ซึ่งอันที่จริงโปรเจกต์นี้ถูกนำเสนอเป็นครั้งแรกมาตั้งแต่ปี 1992 แล้ว
หากนับนิ้วดูก็เกือบ 30 ปี ซึ่งโรคเลื่อนการเปิดตัวก็เกิดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ในปี 2012 ที่เกิดการปฏิวัติอียิปต์ในช่วงอาหรับสปริง ซึ่งทำให้พิพิธภัณฑ์นี้หยุดก่อสร้างไปในช่วงนั้นจนถึงปี 2014 ก่อนกลับมาเริ่มต้นก่อสร้างอีกครั้งในปี 2018 ด้วยเงินจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพิพิธภัณฑ์นี้นอกเหนือจากจะเป็นสิ่งใหม่ที่น่าสนใจมากๆ แล้วยังถือได้ว่าเป็นการเรียกความน่าเชื่อถือทางด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศอียิปต์ให้กลับมาดีขึ้นด้วย หลังจากพ้นผ่านช่วงอาหรับสปริงเป็นต้นมา
ที่สุดของการก่อสร้าง
โครงการมูลค่าราว 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 30,800 ล้านบาท) ตั้งตระหง่านอยู่ห่างจากมหาพีระมิดกีซาเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น มีพื้นที่ทั้งหมดเกือบ 490,000 ตารางเมตร ซึ่งรูปร่างอาคารที่ดูแปลกตานี้เกิดขึ้นจากการออกแบบที่นำเอาจุดนำสายตาของยอดพีระมิดทั้งสามมาเป็นตัวตั้งในการดีไซน์ที่ได้รับการออกแบบโดย Heneghan Peng Architects บริษัทสถาปนิกในเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้ชนะในการประกวดแบบที่ประกวดกันมาตั้งแต่ปี 2003 โน่น โดยเฟสแรกของโครงการสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2005 ก่อนจะแล้วเสร็จบางส่วนในปี 2008
อาคารจะสร้างอยู่บนพื้นที่ลาดชัน และตัวอาคารส่วนใหญ่นั้นจะตั้งอยู่ใต้ดินเพื่อให้ไม่สร้างความรบกวนทางสายตากับโบราณสถานโดยรอบ ด้านหน้าอาคารเลือกใช้รูปร่างของพีระมิดเพื่อยั่วล้อไปกับวิวของพีระมิด 3 แห่งใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลเกินตามองจากพิพิธภัณฑ์ ภายในจะประกอบไปด้วยแกลเลอรี ศูนย์ประชุม โซนร้านค้า ร้านอาหาร รวมไปถึงส่วนงานศึกษาและงานวิจัยเองก็ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เช่นกัน
Photo: Metaphor Design
ที่สุดของสิ่งจัดแสดง
ขึ้นชื่อใหญ่โตว่านี่คือ The Grand Egyptian Museum ฉะนั้นสิ่งที่คุณจะได้เห็นในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะต้องยิ่งใหญ่สมชื่อ เริ่มต้นจากรูปปั้นของฟาโรห์แรเมซีสที่ 2 ขนาดยักษ์ที่จะยืนต้อนรับผู้เข้าชมอยู่ที่โถงใหญ่อันเป็นไฮไลต์สำคัญหนึ่งของที่นี่ และที่น่าตื่นเต้นที่สุดคงหนีไม่พ้นคอลเล็กชันโบราณวัตถุของตุตันคาเมนทั้งหมดที่ไม่เคยจัดแสดงที่ไหนกว่า 5,400 ชิ้น ซึ่งถูกขุดขึ้นมาโดย ฮาเวิร์ด คาร์เตอร์ นักโบราณคดีชาวอังกฤษในปี 1922 ซึ่งมีทั้งเสื้อผ้า รองเท้า หรือแม้แต่กางเกงใน! ที่จะทำให้เราได้ใกล้ชิดกับฟาโรห์ตุตันคาเมนมากขึ้น เพราะเขาได้นำวัตถุเหล่านั้นมาจัดแสดงพร้อมเล่าเรื่องราวที่เข้มข้นมากขึ้น คุณจะได้รู้แม้กระทั่งว่าตุตันคาเมนนั้นกินอะไร ใช้ชีวิตอย่างไร โดยจะกินพื้นที่จัดแสดงถึง 2 ส่วนใหญ่ๆ กว่า 7,000 ตารางเมตร
สิ่งหนึ่งที่ ฟาเตน โมฮัมหมัด หนึ่งในผู้นำทัวร์ Organic Lab ของ The Grand Egyptian Musuem ซึ่งเป็นแล็บหลังบ้านที่คอยจัดการชิ้นงานแสดงได้กล่าวกับ CNN ไว้เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า หลังจากที่คาร์เตอร์ขุดค้นพบ เขาได้ใช้ยาสีผึ้งลงไปในชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อป้องกัน แต่ท้ายที่สุดพบว่ามันสร้างความเสียหายขึ้นด้วย ดังนั้นในแล็บนี้จึงจัดการกับชิ้นส่วนจัดแสดงที่ละเอียดอ่อนที่สุดด้วยเช่นกัน แถมยังเปิดให้ผู้ชมทั่วไปสามารถเยี่ยมชม เพียงซื้อทัวร์จากพิพิธภัณฑ์ซึ่งยังไม่เปิดเผยราคาออกมา
งานจัดแสดงที่คุณอาจต้องเผลอร้องว้าวคงเป็นบันไดขนาดยาวที่จะจัดแสดงวัตถุเรียงมาตั้งแต่ยุคพรีไดนาสตี้ หรือยุคอียิปต์โบราณก่อนราชวงศ์ ซึ่งเก่าแก่ประมาณ 3,100 ปีก่อนคริสตกาล โดยจะแสดงควบคู่กับยุคก่อสร้างพีระมิดที่เรียกว่า Old Kingdom ก่อนจะค่อยๆ ขยับไปที่ยุค Middle Kingdom อันเป็นยุคที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจ เนื่องจากมีชิ้นงานที่จัดแสดงน้อย ทั้งๆ ที่มีวิวัฒนาการในเรื่องของศิลปะโบราณอยู่ค่อนข้างสูง ส่วนยุค New Kingdom จัดแสดงวัตถุจากยุคของตุตันคาเมน แรเมซีส ไปจนถึงยุคเกรโก-โรมัน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์สำหรับเด็กที่ตั้งอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์อีกที โดยใช้เทคโนโลยีที่สนุกสนานมาเล่าเรื่องอียิปต์โบราณให้เด็กๆ ได้เพลิดเพลินกัน
สิ่งที่เราทำได้ ณ เวลานี้คือรอคอยให้ The Grand Egpytian Museum เปิดตัวอย่างเป็นทางการเสียที เพราะเราเชื่อว่ามันจะยิ่งใหญ่มากพอที่จะทำให้พิพิธภัณฑ์ทางโบราณคดีทั่วโลกต้องเหลียวหลังมามอง ดังนั้นขอเถอะ ภาวนาอย่าให้เลื่อนเปิดอีกเลย…
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
