×

ตาดีได้ ตาร้ายเสีย! ในการล่มสลายของ UST และ LUNA ยังมีผู้ที่ทำกำไรได้ 100 เท่า ก่อนทุกอย่างจะหายไปเหมือนดีดนิ้ว

31.05.2022
  • LOADING...
UST LUNA

เพราะทุกเรื่องมีสองด้านเสมอ ในความสูญเสียของเหล่านักลงทุนทั่วโลกจากการล่มสลายของเหรียญ UST และ LUNA เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น ในอีกด้านหนึ่งยังมีกลุ่มนักลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนมหาศาลกลับมาด้วยเช่นกัน

 

ย้อนเวลากลับไปไม่ถึง 1 เดือนที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2022 อันดับของคริปโตเคอร์เรนซีที่รวบรวมข้อมูลไว้โดย coinmarketcap.com ในเวลานั้น เหรียญอย่าง LUNA และ UST เคยมีมูลค่ารวมกันประมาณ 4.69 หมื่นล้านดอลลาร์ 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

โดย LUNA มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 8 ของโลก จำนวน 2.83 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ UST ครองอันดับ 10 ด้วยมูลค่า 1.85 หมื่นล้านดอลลาร์ และในช่วงที่พีคที่สุดทั้งสองเหรียญเคยมีมูลค่ารวมกันสูงเกือบ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 2 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว

 

ความสัมพันธ์ระหว่าง LUNA และ UST เป็นรูปแบบของการพยายามที่จะทำให้ Stablecoin อย่าง UST สามารถตรึงมูลค่าของตัวเองไว้ได้ที่ 1 ดอลลาร์ ซึ่งหาก UST มีความต้องการมาก ระบบจะเผาเหรียญ LUNA แต่หากความต้องการ UST น้อยลง ระบบจะสร้างเหรียญ LUNA เพิ่มขึ้น ทำให้ราคาโทเคนลดลงเพื่อรักษาเสถียรภาพของเหรียญ และกำหนดมูลค่าของเหรียญให้เท่ากับ 1 ดอลลาร์เสมอ 

 

นั่นทำให้มีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่เชื่อว่าการลงทุนกับ UST และ LUNA จะเป็นหนทางไปสู่ความมั่งคั่งได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่เมื่อเข้าสู่เดือนพฤษภาคม ความหวังทุกอย่างก็พังทลาย สิ่งที่ลงทุนไปนั้นแทบสลายกลายเป็นอากาศภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม 

 

โดยราคาของ LUNA เคยลดลงมาเหลือเพียง 0.00003 ดอลลาร์ คิดเป็นมูลค่าราว 252 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ UST ซึ่งเคยตรึงมูลค่าของตัวเองไว้ได้ที่ 1 ดอลลาร์ มูลค่าลดลงไปถึง 0.07 ดอลลาร์เท่านั้น หรือมูลค่าลดลงไปถึง 93 เปอร์เซ็นต์จากช่วงก่อนหน้านี้ 

 

ความสูญเสียนั้นมีตั้งแต่เด็กนักเรียนในสหรัฐอเมริกาที่ไม่มีเงินไปจ่ายค่าเทอม เพราะเอาเงินไปลงทุนหมด ไปจนถึงนักลงทุนที่หมดเนื้อหมดตัว เพราะตัดสินใจเดิมพันขายบ้านเพื่อไปลงทุนกับ LUNA และคนอีกไม่น้อยที่อยากจบชีวิตตัวเอง เพราะสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่เหลือความหวังอะไรอีกแล้วในชีวิต

 

อย่างไรก็ดีมีผู้เสียก็ต้องมีผู้ได้เช่นกัน และคนที่ได้จาก UST และ LUNA ก็ได้กลับไปในจำนวนไม่น้อยด้วย เช่น Pantera Capital กองทุนที่ได้ผลตอบแทนกลับคืนมามากกว่า 100 เท่าจากการลงทุนใน LUNA โดย โจอี ครุก (Joey Krug) ผู้จัดการกองทุนร่วม ได้เปิดเผยกับ CNBC ว่ากองทุนหลักที่ลงทุนในการถือครองและซื้อขาย LUNA นั้นได้ผลตอบแทนมหาศาล โดยเงินลงทุนแรก 1.7 ล้านดอลลาร์ ได้กลายเป็น 171 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 5.8 พันล้านบาท

 

โดย Pantera Capital ได้ทยอยขาย LUNA ออกไปในระหว่างเดือนมกราคม 2021 จนถึงเดือนเมษายน 2022 ไปจำนวน 87 เปอร์เซ็นต์ และขายออกไปอีก 8 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเดือนพฤษภาคม ทำให้ยังเหลือ LUNA อีกแค่ 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่ง ดีน มอร์เฮด (Dean Morehead) ซีอีโอของ Pantera เปิดเผยว่า อันที่จริงแล้วพวกเขามอง LUNA ว่าเป็นเหรียญที่มีอนาคต เพราะครั้งหนึ่งเคยเติบโตขึ้นถึง 15,800 เปอร์เซ็นต์ในปี 2021  

 

มอร์เฮดกล่าวว่า “เราคิดว่ามันเป็นเหรียญที่น่าสนใจมากหลายปีแล้ว แต่มีคนอีกมากมายที่เพิ่งค้นพบมันและเริ่มซื้อขายมัน” เพียงแต่เพราะเหรียญมีการเติบโตมากและเร็วมากเกินไปในกองทุนจึงต้องมีการลดความเสี่ยงด้วยการทยอยขายออกไป

 

“การขายเหรียญจำนวนมากออกไปในระหว่างปี 2021 และ 2022 เป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงแบบพื้นฐาน เพราะมันเริ่มกลายเป็นส่วนใหญ่ของกองทุน เราจึงต้องมีการลดความเสี่ยง เพราะเราไม่สามารถจะให้กองทุนขึ้นอยู่กับการลงทุนสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่มากจนเกินไป” ครุกกล่าว

 

นอกเหนือจาก Pantera แล้ว ยังมีบริษัทอย่าง CMCC ที่เคยเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนรายแรกๆ ของ Terraform ในช่วงต้นปี 2018 ที่จับสัญญาณการเติบโตผิดปกติของ UST ได้ และขาย LUNA ออกไปในช่วงที่มีราคาราว 100 ดอลลาร์ เพียงแต่ไม่ได้มีการเปิดเผยผลกำไร เช่นเดียวกับ Hack VC กองทุนที่ลงทุนในคริปโตโดยเฉพาะ ก็เคยมีรายงานข่าวว่าได้ขาย LUNA ออกไปตั้งแต่เดือนธันวาคมปีกลาย

 

Galaxy Digital ธนาคารคริปโตที่ก่อตั้งโดย ไมค์ โนโวกราตซ์ (Mike Novogratz) นักลงทุนมหาเศรษฐี ผู้มีรอยสัก LUNA อยู่ที่แขนเพื่อเป็นที่ระลึกถึงสถานะ ‘Lunatic’ ของเขา เป็นอีกหนึ่งเจ้าที่ได้กำไรจากการขาย LUNA ออกไปก่อนการล่มสลาย โดยได้กลับมาถึง 335 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.2 หมื่นล้านบาท

 

เรื่องนี้จะเห็นได้ว่านักลงทุนรายใหญ่จับสัญญาณอันตรายได้และตัดสินใจขายออกไปก่อน ซึ่งกลายเป็นความโชคดี เพราะได้ผลกำไรมหาศาลกลับมา ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยทั่วโลกบาดเจ็บล้มตายกันเป็นจำนวนมากจากการล่มสลายของ UST และ LUNA ซึ่งกลายเป็นบทเรียนครั้งประวัติศาสตร์ของโลกคริปโตเลยทีเดียว

 

อย่างไรก็ดีชาวชุมชน Terra ได้มีมติฟื้นฟูระบบนิเวศ Terra จากการล่มสลาย เพื่อเปิดตัว Terra Blockchain อีกครั้ง และสร้างโทเคน LUNA 2.0 โดยเชนที่เปิดตัวใหม่จะพร้อมใช้งานในวันศุกร์ และจะแจกโทเคน LUNA 2.0 ใหม่ให้กับผู้ถือสินทรัพย์ที่ใช้ Terra อย่างไรก็ตาม Terra Blockchain ใหม่จะไม่มีโทเคน UST อีกต่อไป และสิ่งเดียวที่แน่นอนเหนืออื่นใดคือทุกการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising