×

‘ทัดดาว นึกแจ้ง’ มีอาการบาดเจ็บบริเวณเอวส่วนล่าง พักประมาณ 6-8 สัปดาห์ หมดสิทธิ์ช่วยทีมในเนชันส์ลีก

โดย THE STANDARD TEAM
06.06.2022
  • LOADING...
ทัดดาว นึกแจ้ง

วันนี้ (6 มิถุนายน) เพจเฟซบุ๊ก ‘grandsport1961’ ออกมาโพสต์ข้อความอัปเดตอาการบาดเจ็บของ ทัดดาว นึกแจ้ง จากกรณีการเกิดอุบัติเหตุขณะแข่งขันวอลเลย์บอลเนชันส์ลีก 2022 (VNL) รอบเก็บคะแนนสัปดาห์แรก ในแมตช์ที่ทีมชาติไทยแพ้ให้กับเบลเยียม 2-3 เซ็ต เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2565 ณ ประเทศตุรเคียนั้น 

 

ฝ่ายแพทย์และวิทยาศาสตร์การกีฬา สมาคมกีฬาวอลเลย์แห่งประเทศไทย ได้สรุปอาการบาดเจ็บของทัดดาวให้ทราบดังนี้ เบื้องต้นทัดดาวมีอาการบาดเจ็บหลังบริเวณเอวส่วนล่างด้านซ้าย ไม่สามารถลุกยืนได้ จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล ผลการตรวจร่างกายไม่พบการบาดเจ็บหรือมีอาการผิดปกติของเส้นประสาทจากภาพถ่ายด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) พบบริเวณเอวส่วนล่างมีการหักของกระดูกรยางค์ข้างซ้ายของกระดูกสันหลังส่วนเอวข้อที่ 1 และ 3 ซึ่งเป็นจุดเกาะของกล้ามเนื้อสันใน (Psoas Muscle) ที่ใช้ในการงอสะโพก (Hip Flexion) สันนิษฐานว่าเกิดจากการเกร็งอย่างรุนแรงของกล้ามเนื้อสันในในขณะที่ล้ม และกล้ามเนื้อกระตุกเป็นเหตุทำให้กระดูกหัก 

 

โดยการรักษาของทัดดาวที่ตุรเคีย แพทย์ได้ให้การรักษาแบบประคับประคอง ซึ่งทางทีมแพทย์ของสมาคมฯ ได้ปรึกษากันแล้วลงความเห็นเบื้องต้นว่า สามารถรักษาได้ด้วยวิธีไม่ต้องผ่าตัด จะใช้เวลารักษาประมาณ 6-8 สัปดาห์ และแนะนำให้กลับมาตรวจละเอียดที่ประเทศไทยโดยเร็วอีกครั้งหนึ่ง เพื่อกำหนดแนวทางรักษาให้หายโดยเร็วที่สุด ซึ่งสมาคมฯ ได้ประสานงานกับผู้ฝึกสอนแล้วกำหนดให้ทัดดาวกลับมาตรวจรักษาที่ประเทศไทย โดยจะเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิในเช้าวันพรุ่งนี้ (7 มิถุนายน) และเข้าพักตรวจและรักษาที่โรงพยาบาลปิยะเวท โดยทีมแพทย์ของสมาคมฯ จะประสานกับทีมแพทย์โรงพยาบาลปิยะเวทเพื่อดูแลรักษาให้ทัดดาวหายเร็วที่สุด เพื่อกลับมาช่วยทีมวอลเลย์บอลทีมชาติไทยในการแข่งขันชิงแชมป์โลกปลายปีนี้ นั่นทำให้ทัดดาวหมดสิทธิ์ลงช่วยทีมในรายการวอลเลย์บอลเนชันส์ลีก 2022 ที่กำลังแข่งขันอยู่ในขณะนี้

 

สำหรับโปรแกรมสัปดาห์ที่ 2 ในศึกเนชันส์ลีก วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยจะเดินทางไปแข่งขันที่สนามอาราเนตาโคลีเซียม เมืองเกซอนซิตี้ ประเทศฟิลิปปินส์ โดยจะลงสนามพบกับแคนาดา ในวันที่ 14 มิถุนายน เวลา 14.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง one31

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising