×

ธรรมนัสแจง ไม่ได้แกล้งแพ้เลือกตั้งเพื่อหาเหตุกลับเพื่อไทย เผยบ้านใหญ่หลายจังหวัดถอนตัว โดยเฉพาะภาคอีสาน

โดย THE STANDARD TEAM
14.07.2022
  • LOADING...
ธรรมนัส พรหมเผ่า

วันนี้ (14 กรกฎาคม) ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ดำเนินรายการโดย ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และ อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ เผยแพร่ทางช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30

 

กรณีผลการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 4 จังหวัดลำปาง พรรคเศรษฐกิจไทยแพ้พรรคเสรีรวมไทย ซึ่ง ธนพร ศรียากูล นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มองว่า ร.อ. ธรรมนัสแกล้งแพ้เพื่อเป็นเหตุผลกลับพรรคเพื่อไทย ในขณะที่ ร.อ. ธรรมนัสปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเช่นนั้น และบอกว่าการแพ้เลือกตั้งมีความเสียหายมากกว่าด้วย

 

ผู้ดำเนินรายการถามธนพรว่า ได้ข้อมูลมาอย่างไรที่ว่าผลการเลือกตั้งจังหวัดลำปาง เขต 4 เป็นเรื่องที่ ร.อ. ธรรมนัสแกล้งแพ้ เป็นลิเกโรงใหญ่ ต้องการสร้างเงื่อนไขสลับขั้วเพื่อกลับไปอยู่กับพรรคเพื่อไทยแบบหล่อๆ เรื่องนี้ฟันธงจากข้อมูลวงในหรือฟันธงจากการวิเคราะห์

 

ธนพรกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นข้อมูลวงในและมีวิเคราะห์เล็กน้อยแค่เอาแผนที่มาดู แต่ยืนยันเป็นข้อมูล ‘วงใน’ เรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน เลือกตั้งซ่อมครั้งแรกก็เกิดปรากฏการณ์พรรคเพื่อไทยไม่ส่งคนลง ครั้งล่าสุดพรรคเพื่อไทยก็ไม่ส่งและให้พรรคเสรีรวมไทยลงแทน ในเขต 4 ซึ่งตรงนั้นเป็นพื้นที่ของ พินิจ จันทรสุรินทร์ มาอย่างยาวนาน ความสัมพันธ์ในพื้นที่ไม่ได้มีแต่การเลือกตั้งสนามใหญ่ เพราะมีการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.), นายกเทศมนตรี, องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เยอะแยะในต่างจังหวัด, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน กระทั่งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)

 

เพราะฉะนั้น ในความสัมพันธ์เชิงเครือข่าย เรื่องเหล่านี้ก็จะมาเป็นข้อมูลพื้นฐานในการบอกเล่าว่าความสัมพันธ์ของผู้เล่นต่างๆ ในทางการเมืองมีความสัมพันธ์สลับซับซ้อนกันแค่ไหน

 

“คะแนนที่ออกมาต้องพูดกันตรงๆ ว่าท่านผู้กองธรรมนัสหาเสียงไม่เต็มที่ ขณะที่พรรคเสรีรวมไทยหาเสียงเต็มที่ซึ่งทำถูกแล้ว ถ้าผู้กองธรรมนัสสู้อย่างเต็มที่คะแนนจะไม่ออกมาแบบนี้ เป็นเรื่องที่ผู้นำท้องถิ่นตรงนั้นและแกนนำของพรรคเพื่อไทยก็รับรู้รับทราบเป็นอย่างดี” ธนพรกล่าว

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า ข้อมูลวงในบอกว่า ร.อ. ธรรมนัสมีดีลลับๆ กับผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ จึงจัดฉากด้วยการแกล้งแพ้

 

ธนพรกล่าวว่า ดีลนี้ก็ไม่ใช่ดีลลับ เพราะเจ้าของพรรคเพื่อไทยคือ ทักษิณ ชินวัตร ก็เปิดเผยมาตั้งนานแล้วว่าเขารู้จักและมีความสัมพันธ์อันดีกับ ร.อ. ธรรมนัส เมื่อเปิดมาขนาดนี้กลไกข้างล่างก็ต้องขยับ ก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ แล้ว ร.อ. ธรรมนัสก็ไม่เคยปิดบังว่ารู้จักและมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย เรื่องนี้ไม่ใช่ข้อมูลลับ

 

วันนี้พรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายต้องการจะแลนด์สไลด์ คำถามคือ วันนี้กติกาสูตรคำนวณ ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์หาร 500 ขณะที่สัดส่วน ส.ส. 400 กับ 100 ซึ่ง ร.อ. ธรรมนัสมีอยู่ 16 คน เป็นปาร์ตี้ลิสต์ 3 คน และอีก 13 คน เป็น ส.ส. เขต ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ ร.อ. ธรรมนัสกลับไป ก็ได้ ส.ส. แน่ๆ หลักสิบคน แล้วศักยภาพ ร.อ. ธรรมนัสมีอีกเยอะ ที่สำคัญก็คือประหยัดต้นทุน จะไปสู้รบกันไปทำไมให้เสียเลือดเสียเนื้อเปลืองเงินทอง

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า สรุปข้อมูลวงในที่อาจารย์ได้มาระบุว่ามีดีลระหว่าง ร.อ. ธรรมนัสกับผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย จะไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย แต่ต้องมีการสร้างสตอรีเพื่อจะสลับขั้วไปอยู่กับฝ่ายค้าน แกล้งแพ้เพื่อจะกลับไปอยู่กับเพื่อไทยหล่อๆ

 

ธนพรกล่าวว่า มีดีล ส่วนจะจับมือรูปแบบไหนก็ค่อยมาว่ากัน ขอยกตัวอย่าง หากพรรค ร.อ. ธรรมนัสชนะเลือกตั้งที่ลำปางแล้วจะกลับเพื่อไทย คนที่จะเหนื่อยในการอธิบายคือพรรคเพื่อไทย เพราะอยู่ดีๆ ไปรับ ร.อ. ธรรมนัสซึ่งอยู่อีกขั้วหนึ่งเข้าพรรค จะเกิดกรณีคล้ายๆ กับการรับ บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ กลับพรรค ซึ่งพรรคเพื่อไทยอธิบายไม่ได้

 

แต่ถ้า ร.อ. ธรรมนัสทำตัวหล่อๆ แบบนี้มาสำนึกบาป เหตุการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ประชาชนลงโทษแล้ว สิ่งนี้เป็นการอ้างประชาชนในการสลับขั้วไปอยู่กับฝ่ายค้าน ไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย เป็นสตอรีที่อธิบายได้ทั้ง 2 ฝ่าย Win-Win Solution ไม่มีอะไรซับซ้อน

 

เพื่อไทยสามารถบอกได้ว่า ร.อ. ธรรมนัสสมัครใจมา ประชาชนได้ลงโทษแล้ว ดูเป็นเรื่องสวยงามมาก

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า ‘วงใน’ ของอาจารย์คือวงไหน วงใคร

 

ธนพรกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีหลายวง แต่วงที่มาเล่าให้ฟังเป็นวงที่มีความสัมพันธ์กับเจ้าของพรรค (ทักษิณ ชินวัตร) ไม่ใช่คนที่มีความสัมพันธ์กับหัวหน้าพรรคหรือหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

 

ผู้ดำเนินรายการสัมภาษณ์ ร.อ. ธรรมนัสถึงความเห็นของธนพรว่า ร.อ. ธรรมนัสแกล้งแพ้เลือกตั้งจังหวัดลำปางเพื่อสร้างเงื่อนไขสลับขั้วไปอยู่กับพรรคเพื่อไทยแบบหล่อๆ เป็นเรื่องจริงหรือไม่

 

ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า เคารพในข้อวิพากษ์วิจารณ์ของอาจารย์ธนพร แต่ถ้าเราไม่ลงพื้นที่จริงเราจะไม่รู้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเล่นลิเกหรือไม่ ยืนยันว่าตนเองทุ่มเทกับการเลือกตั้งครั้งนี้มากกว่าครั้งไหน ได้ลาที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร 2 สัปดาห์ เพื่อมาทุ่มเทในพื้นที่ ให้มีการจัดปราศรัยย่อยทุกตำบลทั้งหมด 26 ตำบล ปราศรัยทุกวัน วันละ 3 รอบ และลงพื้นที่ปราศรัยด้วยตัวเอง

 

เหตุเพราะให้สำนักโพลสำนักหนึ่งทำโพลตั้งแต่ประกาศเลือกตั้งซ่อม ผลโพลออกมาชัดเจนว่าเราแพ้ขาด

 

ตอนนั้นก็เครียด จึงประชุมหารือกับคณะกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. ทั้ง 16 คน ว่าจะต้องปรับกลยุทธ์การหาเสียง เพราะเป็นการต่อสู้ระหว่างเสรีนิยมกับอนุรักษ์นิยมอย่างชัดเจน ต่างจากการเลือกตั้งซ่อมปี 2563 เพราะตอนนั้นได้คุย ได้เจรจากับพรรคหลัก แต่ครั้งนี้ไม่ได้คุยกัน ไม่ได้ขอความช่วยเหลือจาก พินิจ จันทรสุรินทร์ ดังนั้นผลโพลออกมาครั้งแรกแพ้ ครั้งที่ 2 ก็ยังแพ้อีก

 

จึงจำเป็นต้องลาการประชุมสภา 2 สัปดาห์ และมาฝังตัวอยู่ในพื้นที่กับผู้สมัคร ทั้งขึ้นรถหาเสียง ขึ้นบ้านลงบ้าน ปราศรัยย่อยปราศรัยใหญ่ ทำทุกอย่าง ทุ่มเทสรรพกำลังที่มีจนถึงก่อนวันปิดหีบ ก็มั่นใจว่าชนะเพราะกระแสจากประชาชนให้ความสนใจ

 

แต่การปราศรัยแต่ละจุดเป็นการปราศรัยย่อย คนที่มาฟังเฉลี่ยแล้วก็ประมาณ 20,000-30,000 คน ขณะที่คนส่วนใหญ่ยังมีอีกเป็นแสนที่ไม่ได้มาฟังเรา เขาก็ไม่เข้าใจจุดยืนของเรา ซึ่งเราไม่มีเวลาไปแก้ตัว

 

“ฉะนั้นถามว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการแกล้งแพ้ไหม ผมคงไม่เก่งขนาดนั้น ผมว่าผมทุ่มเททุกอย่างแล้วนะครับ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งแกนนำที่เป็นแกนนำของผม ผู้ที่มีบทบาททางสังคมในพื้นที่ก็คือกลุ่มเดิมๆ ซึ่งเขาก็สะท้อนให้เห็นว่าครั้งนี้เหนื่อย แต่ในฐานะที่เราเป็นผู้นำ เราเป็นแม่ทัพ จะไปพูดให้ลูกพรรคฟังแล้วขวัญเสียไม่ได้ เลือดกลบปากก็ต้องกลืนลงไป” ร.อ. ธรรมนัสกล่าว

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า โพลทั้ง 2 ครั้งแพ้ขาด ทำไมตอนนั้นไม่ไปขอความช่วยเหลือจากพินิจเจ้าของพื้นที่

 

ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า เลือกตั้งครั้งนี้ภรรยาของพินิจนอนอยู่ ICU จึงไม่ต้องการรบกวน และอยากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยว่าฐานเราเพิ่มขึ้นไหม ประกอบกับเสียงสะท้อนการทำงานที่ผ่านมา การเป็น ส.ส. ของ วัฒนา สิทธิวัง ก็มีหลายเรื่องที่ถูกตำหนิ ซึ่งก็พยายามแก้ไขมาโดยตลอด

 

มีเสียงสะท้อนจากผู้นำชุมชนและชาวบ้าน ซึ่งต้องเข้าใจวัฒนาว่าการเป็น ส.ส. ยุคนี้มีประชุมเกือบทุกวัน วันจันทร์-อังคาร ประชุมกรรมาธิการ วันพุธ-พฤหัสบดี ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และวันศุกร์บางศุกร์ ประชุมร่วม ส.ส. กับสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แทบไม่มีเวลาอยู่ในพื้นที่ ก็ต้องเข้าใจ

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า ทำไมครั้งนี้พรรคเพื่อไทยไม่ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง

 

ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า ระยะเวลาวาระของ ส.ส. เหลืออีกไม่กี่เดือน และปัญหาในพื้นที่ยังมี ว่าที่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยตอนนั้นยังไม่ลงตัวว่าจะเป็นใคร ตอนนั้นก็มีกระแสว่ามี 2 คนที่แข่งกัน แต่เข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยตัดสินใจถูกแล้วที่ไม่ส่งใครลง

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคเพื่อไทยไม่ส่งคนลงเขต 4 ลำปาง เพราะอยากจะดูไพ่ของ ร.อ. ธรรมนัส อยากรู้ว่าถ้าปล่อยไปตามธรรมชาติแล้วเพื่อไทยไม่ส่งใครลงประกบ คะแนนเนื้อแท้ๆ ของแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะฐานของ ร.อ. ธรรมนัสมีขนาดไหน 

 

ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า ก็เป็นไปได้ ก็คงสงสัยว่าปี 2562 ได้ 30,000 กว่าคะแนนจริงไหม จึงอยากจะรู้ครั้งนี้ก็เป็นไปได้ ซึ่งฐาน 30,000 กว่าคะแนนของตนเองในเขตพื้นที่นี้สำคัญสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นบทเรียนที่จะถอดบทเรียนว่าควรจะทำอย่างไรกับพื้นที่จังหวัดลำปางอีก 3 เขตด้วย

 

ร.อ. ธรรมนัสกล่าวอีกว่า แกนนำในการหาเสียงหรือบุคคลที่มีบทบาททางสังคมในแต่ละหมู่บ้านไม่พ้นพี่น้องที่เป็นแกนนำอย่างอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน, อาสาสมัครตำรวจบ้าน, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, ผู้ช่วยทั้งหลาย รวมทั้งผู้นำท้องถิ่น กลุ่มคนเหล่านี้คือแกนนำ ซึ่งเขาถูกเบรกโดยใครก็ตามที่มองไม่เห็น ไม่อยากพูดตรงนี้ เขาไม่สามารถจะลงพื้นที่ให้พรรคเศรษฐกิจไทยได้ เพราะเป็นการตัดกำลังพรรคของตนเอง เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พ่ายแพ้การเลือกตั้ง

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า ถูกฝั่งรัฐบาลเจาะยาง 

 

ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า ก็ประมาณนั้น แต่ตนเองไม่ได้อยู่ในฐานะฝ่ายรัฐบาลแล้ว เพราะประกาศชัดเจนว่าออกมาแล้ว

 

ส่วนกรณีธนพรฟันธงว่าแกล้งแพ้แบบนี้เพราะอะไร ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า เชื่อว่าธนพรคงฟังมาหลายด้าน ผสมผสานหลักรัฐศาสตร์ว่าน่าจะเป็นแนวโน้มที่ตนเองอยากจะกลับไปพรรคเพื่อไทย โดยหาเหตุและผลที่ทำให้สังคมมองได้ แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ แล้ว หลักรัฐศาสตร์กับหลักความเป็นจริงบางครั้งมันก็ต่างกัน

 

ดังนั้นสิ่งที่ทุ่มเทในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่ทำเล่นๆ แต่พาพี่น้องครอบครัวเศรษฐกิจไทยหลายคนจากหลายพรรคที่ย้ายมาอยู่ด้วยมาลงพื้นที่ หากไม่เอาจริงและคนเหล่านี้เห็นแล้วเขาจะอยู่กับตนหรือ แล้วยังมีผู้หลักผู้ใหญ่อีกหลายท่านที่กำลังจะเข้ามาเป็นครอบครัวเศรษฐกิจไทย เขาก็มองอยู่

 

“การพ่ายแพ้ครั้งนี้ผมได้หรือเสียมากกว่ากัน ผมเสียมากกว่านะครับ เสียเครดิต เสียทรงมวย กระทบมาก เนื่องจากว่าที่ผู้สมัครหลายท่านที่ผมมั่นใจว่าเขากลับมานั่งในสภาได้ หรือหลายท่านที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่เป็นบ้านใหญ่หลายจังหวัดก็ถอนตัว ถามว่าผมได้อะไร ผมมีแต่เสีย ถอนตัวไปหลายจังหวัดหลายภาค โดยเฉพาะภาคอีสานที่จะมาอยู่กับผม” ร.อ. ธรรมนัสกล่าว

 

ร.อ. ธรรมนัสกล่าวอีกว่า สำหรับกลุ่ม 16 มีคนที่ยังเหนียวแน่นเหมือนเดิมในการที่จะย้ายมาลงสมัครในนามพรรคเศรษฐกิจไทย กลุ่มพี่ๆ น้องๆ เขาลงพื้นที่ในนามเศรษฐกิจไทยไปแล้ว

 

เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า สิ่งที่จะเปิดใจและขอจากกลุ่ม 16 คืออะไรในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า คงจะคุยแกนหลักๆ ว่าท่าทีการอภิปรายจะมีทิศทางอย่างไร ต้องประกาศจุดยืนของพรรคเศรษฐกิจไทยอย่างชัดเจนว่ามีจุดยืนอย่างไร

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising