วันนี้ (18 มกราคม) ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี ชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เซ็นคำสั่งเพิกถอนที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์กลับคืนเป็นที่ธรณีสงฆ์ก่อนหมดวาระเพียงไม่กี่วัน ทำให้ความสัมพันธ์ของพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยถูกจับตามองว่า ตนไม่มองอะไร กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ถ้าสมมติว่ามีการบอกให้เพิกถอนแล้วจะอย่างไรต่อก็ต้องว่าตามกฎหมาย เพิกถอนแล้วใครเป็นเจ้าของที่ จะเป็นวัดหรือไม่แล้ววัดจะเอาอย่างไร จะชดเชยความเสียหายผู้ซื้อบริสุทธิ์อย่างไร
เมื่อถามว่ามีการมองกันไปอีกว่าพรรคภูมิใจไทยจะถูกเอาคืนเรื่องเขากระโดง ทักษิณกล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย เราจะบอกว่าคนนั้นคือพวกกัน คนนี้คือพวกกันไม่ได้ สังคมมีกติกาเพื่อให้คนอยู่ร่วมกันโดยไม่ขัดแย้ง ถ้าทุกคนยึดกติกาทุกอย่างก็จบ แต่ถ้ามีคนบอกว่าไม่ยอมปฏิบัติตามกติกาก็จะมีปัญหา และตอนที่ตนไปร่วมตีกอล์ฟกับ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้
ส่วนประเด็นที่ชาดาลงนามก่อนหมดวาระเพียงไม่กี่วันอย่างไรบ้าง ทักษิณกล่าวว่า ไม่เป็นไร จะกี่วันก็ไม่เป็นไร ถ้ากฎหมายให้อำนาจเขาเซ็น ก็เซ็นได้ ไม่มีปัญหา และในฐานะที่ตนเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟอัลไพน์ เอาอย่างไรก็เอาจะได้จบๆ เสียที คาราคาซังน่ารำคาญ และหากมีการถอนสิทธิจริงๆ ก็ไม่เป็นไร เพราะหลักการคือถ้าเป็นของกรมที่ดินก็ต้องชดเชยความเสียหายที่รับโอนอย่างไม่ถูกต้อง หรือหากเป็นของวัดต้องถามว่าวัดจะชดเชยค่าเสียหายหรือให้เช่าต่อ
ทักษิณกล่าวอีกว่า คนเราถ้ารักษากติกาและไม่ยึดติดอะไร ทุกอย่างให้เป็นไปตามกติกา สิทธิของผู้เสียหายมีอย่างไรบ้างก็ว่ากันไป ในเมื่อรัฐใช้อำนาจตรงนี้ผู้เสียหายก็มีสิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหาย อย่ามองทุกอย่างเป็นเรื่องใหญ่ การมองเราชอบเอาเรื่องเล็กไปมองเป็นเรื่องใหญ่ ความจริงไม่มีอะไรใหญ่