×

‘ไปรษณีย์ไทย’ โดดรับกระแสธุรกิจขนส่งพัสดุชิ้นใหญ่มาแรง! งัดบริการ EMS JUMBO ส่งด่วนเริ่มต้น 200 บาท สู้ศึกการแข่งขัน

03.03.2023
  • LOADING...

‘ไปรษณีย์ไทย’ โดดรับกระแสธุรกิจขนส่งพัสดุชิ้นใหญ่มาแรง! เปิดบริการ EMS JUMBO ส่งสินค้าชิ้นใหญ่ เริ่มต้น 200 บาท ลุยทุกพื้นที่ทั่วประเทศ หวังสู้ศึกการแข่งขัน พร้อมไม่หยุดหาโอกาสสร้างการเติบโตในเซ็กเตอร์ใหม่ๆ 

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิกฤตโควิดที่เกิดขึ้นเป็นตัวแปรให้บริบทการใช้ชีวิตผู้คนเปลี่ยนไปและมีความซับซ้อนมากขึ้น ทำให้องค์กรเก่าแก่อย่างไปรษณีย์ไทยที่อยู่ในตลาดมามากกว่า 130 ปี และปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดขนส่งในไทยด้วยส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 55% ยังต้องปรับตัวและทำสิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดในยุคที่การแข่งขันสูง โดยเฉพาะการแข่งขันในแง่การบริการและราคาที่เรียกว่าดุเดือดมาก

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ฉายภาพว่า จากการแข่งขันของธุรกิจยังรุนแรงเหมือนเดิม แม้เราจะเป็นรายใหญ่ก็ต้องปรับตัวให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีเข้ามาเสริมการบริการส่งพัสดุให้ไปถึงผู้บริโภคปลายทางอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ 

 

เช่นเดียวกับปี 2566 ภาพรวมตลาดขนส่งยังมีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท แบ่งเป็นขนส่งพัสดุแบบด่วนมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการหน้าใหม่ๆ กระโดดเข้ามาจำนวนมาก และในแต่ละค่ายต่างมีกลยุทธ์ในการทำตลาดที่แตกต่างกันไป 

 

ยิ่งไปกว่านั้นเทรนด์ที่เห็นได้ชัดคือการส่งพัสดุขนาดใหญ่แบบด่วน (EMS) มีแนวโน้มเติบโตขึ้น โดยเฉพาะช่วงโควิดคนอยู่บ้านมากขึ้นและเริ่มสั่งซื้อสินค้าตามกระแส เช่น เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ อุปกรณ์การเกษตร หรือแม้แต่จักรยานยนต์ และอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งทำให้ร้านค้ากลุ่มนี้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

 

จากโอกาสการเติบโตดังกล่าว ไปรษณีย์ไทยจึงได้เปิดตัวการบริการ ‘EMS JUMBO’ ให้บริการในรูปแบบการส่งสินค้าขนาดใหญ่ เริ่มตั้งแต่ไซส์ 30-200 กิโลกรัม 30 กิโลกรัมแรก 200 บาท เฉลี่ย 6 บาทต่อกิโลกรัม เช่น กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า เริ่มต้น 200 บาท, ยานพาหนะ เริ่มต้น 600 บาท, เฟอร์นิเจอร์ เริ่มต้น 300 บาท ใช้เวลาขนส่งประมาณ 4-5 วัน 

 

ทั้งนี้ จากการให้บริการขนส่งสินค้าของไปรษณีย์ไทยในช่วงปี 2563-2565 พบว่าประเภทสิ่งของขนาดใหญ่ที่มีการฝากส่งยอดนิยม ได้แก่ 1. กลุ่มสิ่งของที่คิดค่าบริการตามพิกัดน้ำหนัก (30-200 กิโลกรัม) 2. จักรยานยนต์ ขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน และเกิน 150 cc ที่ไม่ใช่รูปทรงบิ๊กไบค์ 3. Roll Pallet ของใช้นักศึกษา และสินค้าผู้ประกอบการ OTOP ขนาดใหญ่ 4. จักรยาน และจักรยานยนต์ไฟฟ้า 5. เครื่องใช้ไฟฟ้า

 

ด้านฝั่งการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิก็มีการเติบโตเช่นเดียวกัน โดยเฉลี่ยแล้วทำรายได้ 10 ล้านบาทต่อเดือน จากนี้มีแผนขยายสาขารับฝากส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิเพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด

 

จากกลยุทธ์ทั้งหมดนี้เชื่อว่าไปรษณีย์ไทยจะสามารถใช้ความเชี่ยวชาญที่มีมานานเข้ามาตอบโจทย์ผู้ใช้บริการได้ทุกพื้นที่ โดยได้ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้จากบริการ ‘EMS JUMBO’ ในปี 2566 เพิ่มขึ้นมากกว่า 300 ล้านบาท

 

และคาดการณ์ว่าจากการเปิดตัวบริการส่งสินค้าชิ้นใหญ่เข้ามาเสริมพอร์ตโฟลิโอจะช่วยให้รายได้การส่งสินค้าชิ้นใหญ่เพิ่มขึ้น 5-7% จากเดิมที่มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 3-4% ขณะที่การขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิจะทำรายได้อยู่ที่ 100 ล้านบาทต่อปี  

 

“ในอนาคตธุรกิจขนส่งต้องไม่หยุดนิ่งที่จะทำอะไรใหม่ๆ เพราะเทรนด์การบริโภคเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจากนี้ไปจะเห็นไปรษณีย์ไทยขยับตัว เข้าไปสร้างการเติบโตในเซ็กเตอร์ใหม่ๆ ทุกรูปแบบ เพื่อสร้างความได้เปรียบจากตลาดที่แข่งขันกันด้วยราคา และจะสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้บริการที่มองหาความแตกต่างและโซลูชันที่ครอบคลุมจากการขนส่ง”

 

หัวเรือใหญ่ไปรษณีย์ไทยยังย้ำถึงเป้าหมายที่อยากจะเป็น Data Company ภายในปี 2566 หลังทุ่มงบ 1 พันล้านบาท ยกเครื่องระบบไอซีทีและเทคโนโลยี เพื่อรวบรวมข้อมูลลูกค้าเพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจ ขณะนี้เริ่มเห็นภาพที่ชัดเจนแล้ว เชื่อว่าจะเป็นไปได้ตามเป้าหมายที่วางไว้แน่นอน และในอนาคตไปรษณีย์ไทยจะไม่เป็นแค่แพลตฟอร์มโลจิสติกส์เพียงอย่างเดียว 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising