ชนะเพื่อเข้ารอบ! พรีวิว: ไทย vs. โอมาน เอเชียนคัพ 2023 (นัดที่ 2)

ในวันอาทิตย์นี้ (21 มกราคม) ฟุตบอลทีมชาติไทยที่มีคิวลงสนามเอเชียนคัพ 2023 รอบแบ่งกลุ่ม (กลุ่ม F) นัดที่ 2 พบกับทีมชาติโอมาน ที่สนามอับดุลลาห์ บิน คาลิฟา สเตเดียม ในเวลา 21.30 น.

และเช่นเคย THE STANDARD รวบรวมข้อมูลสำคัญๆ เพื่อพาแฟนบอลไปอุ่นเครื่อง ส่องความพร้อมของนักเตะทั้งฝั่งไทยและโอมาน รวมถึงสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจมาฝากก่อนเกมนัดนี้ เกมที่มีผลต่อการลุ้นเข้ารอบต่อไปของทัพช้างศึก ในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2023

ทบทวนเหตุการณ์นัดแรก (กลุ่ม F)

ย้อนกลับมาดูเหตุการณ์ของทีมในกลุ่ม F จากการแข่งขันนัดแรกของฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 โดยผลการแข่งคู่ระหว่างทีมชาติไทยพบคีร์กีซสถาน ปรากฏว่าทีมไทยสามารถเก็บชัยชนะไปได้ 2-0 จากผลงานการเหมา 2 ประตูของ ศุภชัย ใจเด็ด ทำให้ทีมไทยคว้า 3 แต้มเต็ม

ขณะที่ผลอีกคู่ระหว่างซาอุดีอาระเบียพบกับโอมาน แม้ว่าในเกมจะเป็นทางโอมานที่เป็นฝ่ายออกนำก่อนจากลูกจุดโทษในช่วงครึ่งแรก แต่ท้ายที่สุดลูกทีมของ โรแบร์โต มันชินี ก็มาเร่งเครื่องในช่วงครึ่งหลังจนยิงได้ 2 ประตู แซงเอาชนะโอมานไปได้ 2-1 ในที่สุด

ทำให้สถานการณ์ในตารางคะแนนของกลุ่ม F ปัจจุบัน ทีมไทยนำเป็นอันดับ 1 มี 3 แต้มเต็มเช่นเดียวกับซาอุดีอาระเบีย แต่ลูกได้เสียทัพช้างศึกดีกว่า ส่วนโอมานอยู่อันดับ 3 และตามมาด้วยคีร์กีซสถานอยู่ท้ายตารางแบบไร้แต้มในตอนนี้

🇹🇭 ความพร้อมทีมชาติไทย (อันดับ 113 ของโลก)

ทีมชาติไทยในมือของ มาซาทาดะ อิชิอิ เปิดหัวศึกเอเชียนคัพ 2023 ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยม หลังเอาชนะคีร์กีซสถาน 2-0 พร้อมเก็บ 3 แต้มสำคัญที่ส่งผลต่อโอกาสเข้ารอบน็อกเอาต์มาได้

โดยสภาพความพร้อมของทีมชาติไทยชุดนี้อยู่ในจุดที่ดี ภาพรวมคาดการณ์ 11 ผู้เล่นไม่น่าเปลี่ยนเยอะไปจากเกมนัดชนะคีร์กีซสถาน เพียงแต่บางตำแหน่ง อิชิอิอาจมีการปรับเพื่อใช้ความสดทางร่างกายเข้าสู้กับโอมานที่เล่นสปีดบอลได้ดี โดยเฉพาะตำแหน่งของ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่ยังต้องเช็กอาการบาดเจ็บข้อเท้ากันอีกครั้ง แต่หากไม่พร้อมสำหรับการออกสตาร์ทตัวจริงอาจแทนที่ด้วย สารัช อยู่เย็น

นัดนี้ทีมของอิชิอิอาจไม่ได้มีอิสระในการเล่นเกมรุกแบบสะดวกเมื่อเทียบกับนัดที่ชนะคีร์กีซสถาน แถมยังเจอคุณภาพเกมที่เข้มข้นขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะทางฝั่งโอมานที่โหยหาแต้มในทัวร์นาเมนต์นี้มีโอกาสงัดแผนเกมรุกแบบเล่นเร็วใส่ทีมไทย ซึ่งมีโอกาสที่ทัพช้างศึกจะโดนขึงเกมรุกใส่ค่อนข้างสูง แต่ถึงอย่างนั้นทีมไทยต้องเล่นด้วยความใจเย็น และใช้จังหวะเกมรุกให้คมที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะ 1 หรือ 3 แต้มในเกมนี้จะส่งผลให้ทีมไทยมีโอกาสเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายสูงมาก

ทั้งนี้ คาดว่า 11 ผู้เล่นตัวจริงในเกมนี้จะมีการปรับทัพเพียงเล็กน้อยจากเกมล่าสุด ซึ่งตำแหน่งผู้รักษาประตูจะยังเป็น ปฏิวัติ คำไหม ส่วนเซ็นเตอร์แบ็กเป็น พรรษา เหมวิบูลย์ จับคู่กับ เอเลียส ดอเลาะ โดยมี ธีราทร บุญมาทัน สวมปลอกแขนกัปตันทีมและยืนแบ็กซ้าย ส่วนทางขวาเป็น นิโคลัส มิคเกลสัน

แดนกลางมีโอกาสเป็น พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (โดยมี สารัช อยู่เย็น เป็นตัวสอดแทรก) ยืนคู่กับ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ส่วนแนวรุกยังเป็น สุภโชค สารชาติ ทำงานร่วมกับ บดินทร์ ผาลา ในฝั่งปีกซ้าย และทางขวาเป็น ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา โดยมีหน้าเป้าเป็น ศุภชัย ใจเด็ด เหมือนเช่นเดิม

ผลงาน 5 นัดหลังสุด I ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2

ชนะ คีร์กีซสถาน 2-0
แพ้ ญี่ปุ่น 0-5
ชนะ สิงคโปร์ 3-1
แพ้ จีน 1-2
เสมอ เอสโตเนีย 1-1

🇴🇲 ความพร้อมทีมชาติโอมาน (อันดับ 74 ของโลก)

ทีมชาติโอมานชุดนี้อยู่ในการดูแลของ บรังโก้ อีวานโควิช กุนซือวัย 69 ปี ชาวโครเอเชีย หนึ่งในกุนซือชั้นครูที่ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งกับงานโค้ช ถึงจะออกสตาร์ทเกมแรกด้วยความพ่ายแพ้ต่อซาอุดีอาระเบีย แต่ในรายละเอียดเกมดังกล่าวพวกเขาเล่นได้ดี โดยเฉพาะในแผงเกมรับที่ทำให้ซาอุดีอาระเบียของ โรแบร์โต มันชินี เหงื่อตกมาแล้ว

โอมานชุดนี้ภาพรวมเป็นทีมที่นักเตะหลายคนมีเทคนิคการเล่นกับบอลค่อนข้างดี รวมถึงสปีดบอลก็ดีด้วย บวกกับเกมรับที่เหนียวแน่น ทำให้พวกเขาเป็นทีมที่พร้อมสร้างความลำบากให้คู่แข่งอยู่เสมอ

เกมนัดนี้ บรังโก้ อีวานโควิช พยายามปลุกใจลูกทีมให้ลืมความผิดหวังจากนัดล่าสุด และให้ทำงานหนักในเกมพบกับทีมไทย ซึ่งสถานการณ์บนหน้าตารางคะแนนพวกเขายังมีสิทธิ์ที่จะตกรอบแบ่งกลุ่มได้ ดังนั้นในเกมนัดนี้ กุนซือวัย 69 ปี น่าจะพกแท็กติกเน้นการเล่นเกมรุกโจมตีใส่ทีมไทยแบบเต็มสูบ

ขณะที่สภาพความพร้อมของทีมชาติโอมานพวกเขาอยู่ในจุดที่ดี นำทีมโดย 3 นักเตะแนวรุกที่เป็นกำลังหลักอย่าง มูห์เซน อัล-กัสซานี, จามีล อัล-ยาห์มาดี และ ซาลาห์ อัล-ยะห์ยาอีย์ เพลย์เมกเกอร์ที่เป็นหัวใจแดนกลางของทีม และเป็นคนที่ยิงจุดโทษใส่ซาอุ ก็พร้อมลงสนามดวลแข้งช้างศึกในเกมนัดนี้

ผลงาน 5 นัดหลังสุด ชนะ 3 แพ้ 2

แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2
ชนะ ยูเออี 1-0
ชนะ จีน 2-0
แพ้ คีร์กีซสถาน 0-1
ชนะ ไต้หวัน 3-0

ผลการดวลกัน 5 นัดหลังสุด

ผลการดวลกัน 5 นัดหลังที่พบกัน เป็นฝั่งทีมชาติโอมานมีสถิติที่เหนือกว่าในภาพรวม หลังเป็นฝ่ายเอาชนะไทยได้ 4 ครั้งจากนัดที่พบกัน โดยชัยชนะล่าสุดของทัพช้างศึกที่มีเหนือโอมาน คือการชนะด้วยสกอร์ 3-0 ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกปี 2011

และนี่คือผลการแข่งขันที่ดวลกัน 5 นัดหลังสุด

ไทย 0-1 โอมาน (2021)
ไทย 0-2 โอมาน (2019)
โอมาน 2-0 ไทย (2012)
ไทย 3-0 โอมาน (2011)
โอมาน 2-1 ไทย -(2008)

โปรแกรมถ่ายทอดสด

โปรแกรมนัดต่อไป ทีมชาติไทยจะพบกับทีมชาติโอมาน ที่สนามอับดุลลาห์ บิน คาลิฟา สเตเดียม ในวันที่ 21 มกราคม 2567 เวลา 21.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง PPTV HD ช่อง 36 และ T Sports 7

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: