วันนี้ (28 พฤศจิกายน) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผนึกกำลังร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดโครงการ ไทยแลนด์ โรด เรซซิ่ง สแตนดาร์ด เพื่อช่วยยกระดับงานวิ่งมาราธอนไทยสู่มาตรฐานโลก ปูทางสู่เบอร์ 1 ของอาเซียนใน 3 ปี พร้อมประเดิมดึง 5 งานวิ่งแถวหน้าของประเทศนำร่องวางมาตรฐาน
โดย พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานแถลงข่าวเปิดโครงการไทยแลนด์ โรด เรซซิ่ง สแตนดาร์ด ยกระดับงานวิ่งมาราธอนไทยสู่มาตรฐานโลก ณ ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท.
พิพัฒน์กล่าวถึงความสำคัญของโครงการไทยแลนด์ โรด เรซซิ่ง สแตนดาร์ดว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเห็นถึงประโยชน์และโอกาสที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจและภาพพจน์ของประเทศ ผ่านการจัดงานวิ่งมาราธอนที่ได้มาตรฐาน ภายใต้นโยบาย สปอร์ต ทัวริซึ่ม ที่นอกจากจะช่วยสร้างเสริมสุขภาพให้แก่ประชาชนแล้ว ยังดึงดูดความสนใจจากชาวต่างชาติ ช่วยสร้างรายได้และเม็ดเงินหมุนเวียนให้กับประเทศไทยด้วย
จึงเป็นที่มาของการลงมือทำโครงการนี้ เพื่อทำให้ประเทศไทยมีการจัดงานวิ่งที่ได้มาตรฐานระดับโลกเพิ่มมากขึ้น โดยเริ่มต้นจากการดึง 5 งานวิ่งแถวหน้าของประเทศมาเป็นต้นแบบนำร่องงานวิ่งอื่นๆ ประกอบด้วย บางแสน 42 ชลบุรี มาราธอน, บุรีรัมย์ มาราธอน, จอมบึง มาราธอน, ภูเก็ต มาราธอน, บางกอก มิดไนท์ มาราธอน และเพื่อเป้าหมายคือการขึ้นเป็นผู้นำด้านการจัดงานวิ่งมาราธอนเบอร์ 1 ของอาเซียน ภายใน 3 ปีจากนี้ และสร้างมาตรฐานงานวิ่งที่ยั่งยืนให้แก่ประเทศไทยสืบไป
ส่วน คาห์ลัน อัล จูมาน ฮาเม็ด ประธานสหพันธ์กรีฑาแห่งเอเชีย ที่เข้าร่วมงานแถลงข่าวในครั้งนี้ เผยว่า
สหพันธ์กรีฑาแห่งเอเชีย เล็งเห็นถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจของรัฐบาลไทยในการที่จะยกระดับงานวิ่งมาราธอนทั่วประเทศให้ได้มาตรฐานระดับโลก ภายใต้มาตรฐานสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ หรือ World Athletics Road Race ซึ่งเป็นการรับรองมาตรฐานในระดับสากล ที่มีมาตรฐานหนึ่งเดียวของการวิ่งบนถนนที่มีความเชื่อถือที่สุดในโลก เราจึงพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุกเรื่อง ทั้งเรื่องบุคลากร แนวทางความรู้ การวางแผนการจัดการต่างๆ
ด้าน พล.ต.อ. สันต์ ศรุตานนท์ นายกสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ยืนยันว่า สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย จะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพในการดำเนินโครงการ ตั้งแต่การวางมาตรฐานและคัดเลือกงานวิ่งที่จะเข้ามาร่วมโครงการ
ซึ่งในปีแรกนี้จะเห็นได้ว่างานวิ่งทั้ง 5 รายการที่เข้ามาร่วมนำร่อง ล้วนแล้วแต่เป็นงานวิ่งที่มีมาตรฐานและมีเอกลักษณ์ของตัวเอง โดยเฉพาะ บุรีรัมย์ มาราธอน ที่ได้รับรองจากสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ หรือ World Athletics Road Race ให้เป็นรายการวิ่งระดับ ‘บรอนซ์ เลเบล’ อย่างเป็นทางการงานแรกของเมืองไทย รวมถึง บางแสน ฮาล์ฟ 21 มาราธอน ที่ได้ ซิลเวอร์ เลเบล ซึ่งโครงการนี้จะทำให้ในอนาคตประเทศไทยมีงานวิ่งระดับบรอนซ์ เลเบลมากขึ้น ก่อนจะต่อยอดสู่ระดับซิลเวอร์และโกลด์ต่อไป
ปัจจุบันประเทศไทยมีการจัดอีเวนต์การแข่งขันรายการต่างๆ ที่เกี่ยวกับกีฬาแห่งมวลชนมากกว่า 1,200 รายการต่อปี งานวิ่งมาราธอนถือเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยเฉลี่ย 1 งานสามารถสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท
ปัจจุบันไทยมีงานวิ่งที่ได้รับการรับรองระดับสากลจากสหพันธ์กรีฑานานาชาติ (IAAF) แล้ว 2 รายการ ประกอบไปด้วย บางแสน ฮาล์ฟ 21 มาราธอน ที่ได้รับการรับรองระดับซิลเวอร์ เลเบลในระยะฮาล์ฟมาราธอน และ บุรีรัมย์ มาราธอน ที่ได้รับการรับรองให้เป็นงานวิ่งมาราธอนระดับบรอนซ์ เลเบล
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า