×

หุ้นไทยแกว่งผันผวน กรอบเกือบ 20 จุด บวก 10 จุด ก่อนปิดติดลบ หลังศาลฯ สั่ง ‘พิธา’ หยุดทำหน้าที่ ส.ส. หวั่นจุดชนวนชุมนุมรุนแรง

19.07.2023
  • LOADING...
หุ้นไทย

SET Index ภาคเช้าวันนี้ (19 กรกฎาคม) มีภาพรวมการเคลื่อนไหวผันผวนทั้งบวกและลบในกรอบเกือบ 20 จุด โดยช่วงต้นของการซื้อ-ขายแกว่งตัวในแดนบวก 

 

โดยช่วงท้ายของการซื้อ-ขายภาคเช้า SET Index ดีดขึ้นไปแรง 10.4 จุด หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องวินิจฉัยสถานภาพของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรณีเป็นผู้ถือหุ้นสื่อคือ บมจ.ไอทีวี และสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคมเป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย แม้ว่าจะยังสามารถเดินหน้าโหวตนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ในวันนี้ แต่ก็ทำให้พรรคเพื่อไทยมีโอกาสเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแทน 

 

อย่างไรก็ดีหลังจากนั้น SET Index กลับมาทยอยลดช่วงของการบวกและพลิกมาปิดตลาดลดลง 0.58 จุด ติดลบ 0.04% หลังจากเริ่มมีม็อบของประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับมติศาลรัฐธรรมนูญทยอยเดินทางมาประท้วงที่บริเวณหน้ารัฐสภา

 

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ ระบุว่า แม้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. แต่การเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ยังสามารถดำเนินการได้ต่อ ซึ่งขณะนี้ที่ประชุมรัฐสภาร่วมกำลังพิจารณาว่าการยื่นญัตติเสนอชื่อของพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีจะเป็นการยื่นญัตติซ้ำหรือไม่ คาดว่าจะนำไปสู่การโหวตของที่ประชุมรัฐสภาร่วมเพื่อหาข้อยุติ และเมื่อได้ข้อยุติแล้วจึงจะนำไปสู่การโหวตเลือกนายกฯ หรือไม่ต่อไป คาด SET Index ผันผวนสูงระยะสั้นจากความไม่แน่นอนดังกล่าว และห่วงกังวลการชุมนุมทางการเมืองที่จะเข้มข้นขึ้นต่อจากนี้

 

ส่วนนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า คาดว่าการเคลื่อนไหวของ SET Index ช่วงบ่ายวันนี้มีความเสี่ยงผันผวน อาจสลับย่อตัวในกรอบ 1,525-1,540 จุด โดยมองว่าตลาดจะหันมาให้น้ำหนักกับประเด็นกดดันจากการเมืองภายในเป็นหลัก รวมถึงจับตาความรุนแรง เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยกับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เคยถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดการปฏิบัติหน้าที่ จึงอาจเป็นชนวนให้เกิดการชุมนุมที่รุนแรงหรือยืดเยื้อ อาจต้องระมัดระวังการย่อตัวของหุ้นในกลุ่ม COMM และ TOURISM ที่มักปรับตัวลงในช่วงที่มี Sentiment ลบทางการเมืองกดดัน มองหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว เช่น หุ้นเกี่ยวข้องการเมือง หรือหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่มีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นต่อ

 

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับมีดังนี้

          

  • BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,350.72 ล้านบาท ปิดที่ 9.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท
  • CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,232.56 ล้านบาท ปิดที่ 62.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
  • BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,142.33 ล้านบาท ปิดที่ 28.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
  • AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,097.33 ล้านบาท ปิดที่  71.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,007.07 ล้านบาท ปิดที่ 134.50 บาท ลดลง 1 บาท
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising