×

‘หุ้นไทย’ ปั่นป่วนหนัก ระหว่างวันดัชนีร่วงกว่า 54 จุด ก่อนรีบาวด์ช่วงท้ายตลาด

08.03.2022
  • LOADING...
หุ้นไทย

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนอย่างหนัก ระหว่างวันดัชนีร่วงลงหนัก 54 จุด ก่อนรีบาวด์มาปิดตลาดในแดนลบเพียง 7 จุด นักวิเคราะห์ชี้อาจเป็นผลจากการ Force Sell หลังดัชนีรูดหนัก ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุยังไม่พบความผิดปกติ

 

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวันนี้ (8 มีนาคม) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ 1,619.10 จุด ลดลง 7.60 จุด หรือ 0.47% โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวหลุดระดับ 1,600 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,580.80 จุด หรือลดลง 54 จุด ส่วนมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นกว่า 149,938 ล้านบาท

 

หลักทรัพย์ที่มูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ดังนี้

  1. ​​KBANK ปิดที่ 156 บาท +2 บาท หรือ +1.30% มูลค่าการซื้อขาย 7,007.95 ล้านบาท
  2. SCB ปิดที่ 114.50 บาท -0.50 บาท หรือ -0.43% มูลค่าการซื้อขาย 4,476.82 ล้านบาท
  3. PTT ปิดที่ 38.25 บาท -0.25 บาท หรือ -0.65% มูลค่าการซื้อขาย 4,273.12 ล้านบาท
  4. BANPU ปิดที่ 11.70 บาท -0.40 บาท หรือ -3.31% มูลค่าการซื้อขาย 3,967.70 ล้านบาท
  5. CPALL ปิดที่ 65.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 3,915.82 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ หุ้น ​​KBANK มีรายการบิ๊กล็อตมากสุด จำนวน 6 รายการ ราคาเฉลี่ย 152.87 บาท คิดเป็นมูลค่าซื้อขาย 1,075.95 ล้านบาท

 

นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 800.08 ล้านบาท

บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 2,763.69 ล้านบาท

นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 2,847.61 ล้านบาท 

นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 716.17 ล้านบาท

 

ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า การดิ่งลงอย่างรวดเร็วของหุ้นไทยในช่วงบ่าย เป็นไปได้ว่าเป็นผลจากเรื่องของการบังคับขาย (Force Sell) เนื่องจากตลาดเปิดกระโดดลงมา 

 

ทั้งนี้ หากจะประเมินว่าแรงขายที่เกิดขึ้นเกิดจากเรื่องของ Force Sell หรือไม่ ส่วนหนึ่งอาจจะพอพิจารณาได้จากสถานะคงค้าง (Open Interest) ของ Single Stock Futures ที่จะเห็นตัวเลขหลังจากปิดตลาดวันนี้ หากลดลงมาก็อาจจะพอบอกเป็นนัยได้ว่ามี Force Sell ออกมาพอสมควร แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่สามารถยืนยันได้แน่นอน เพราะข้อมูลต่างๆ ไม่ได้เปิดเผยสาธารณะ 

 

ทั้งนี้ การฟื้นตัวของหุ้นไทยจาก 1,580 จุด กลับมายืนเหนือระดับ 1,600 จุด อาจเป็นแนวรับสำคัญของนักลงทุนบางส่วน ประกอบกับ 2-3 วันที่ผ่านมา ตลาดอยู่ในภาวะ Oversold อย่างมาก จึงเกิดการเด้งกลับเป็นปกติ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปและ Dow Jones Futures ที่กลับมาบวกในช่วงบ่ายก็เป็นปัจจัยหนุนอีกอย่างหนึ่ง

 

ตลาดเผย Force Sell เดือนกุมภาพันธ์สูงกว่าปกติ 

ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นๆ มีความผันผวนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก สาเหตุหลักมาจากปัจจัยในต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยเฉพาะวานนี้ (7 มีนาคม) ที่ดัชนีปรับตัวลดลงแรง 

 

ทั้งนี้ จากการติดตามข้อมูลการถูกบังคับขายของเมื่อวานนี้ (7 มีนาคม) ตลาดหลักทรัพย์ยังไม่พบความผิดปกติใดๆ โดยตัวเลข Force Sell ปกติจะอยู่ที่ 6% ของมูลค่าการซื้อขายรวม อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าตัวเลข Force Sell ของเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปรับตัวสูงขึ้นกว่าระดับปกติมาอยู่ที่ 8-9% โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ประเมินว่าเป็นเพราะมีเหตุการณ์ไม่แน่นอนเกิดขึ้น จึงเกิดความผันผวนของดัชนี แต่ยังประเมินว่าไม่ใช่ระดับที่สูงจนผิดปกติ 

 

ขณะที่ เผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ ประธานสายธุรกิจรายย่อย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในช่วง 1-2 วันมานี้ แม้ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนอย่างมาก แต่ทาง บล.หยวนต้ายังไม่มีการบังคับขาย หรือ Force Sell ลูกค้าแต่อย่างใด เนื่องจากมีการติดตามสถานะพอร์ตลูกค้าอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอด และมีการแจ้งเตือนทุกครั้งเมื่อบัญชีลูกค้าเริ่มใกล้จะถูกเรียกมาร์จินเพิ่ม 

 

“เท่าที่ติดตามทั้งลูกค้าบัญชีมาร์จินและลูกค้าบล็อกเทรด ตอนนี้ยังไม่มีการบังคับขายใดๆ เพราะเรามอนิเตอร์ลูกค้าตลอดเวลาอยู่แล้ว ประกอบกับเราเลือกลูกค้าที่มีคุณภาพด้วย” เผดิมภพกล่าว 

 

เขากล่าวเพิ่มว่า บล.หยวนต้ายังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย ปัจจัยบวกมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวได้ดี ซึ่งปัจจัยนี้จะเริ่มเห็นได้ชัดขึ้นในการประกาศตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำเดือนกุมภาพันธ์

 

ขณะที่ความผันผวนของดัชนีในช่วงนี้ เป็นผลมาจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกผันผวน และทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นในที่สุด 

 

“ปัจจัยบวกของหุ้นไทยคือการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ส่วนปัจจัยลบคืออัตราเงินเฟ้อ ซึ่งตอนนี้นักลงทุนค่อนข้างกังวลเพราะราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสูง แต่เชื่อว่าในระยะยาวแล้ว เงินเฟ้อของไทยจะปรับลดลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมได้” เผดิมภพกล่าว 

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising