วันนี้ (23 เมษายน) ที่อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex ของฝั่งวุฒิสภา เป็นประชุมนัดแรก เพื่อเลือกประธานคณะกรรมาธิการ และตำแหน่งต่างๆ โดยมี แล ดิลกวิทยรัตน์ สว. เป็นประธานชั่วคราว เนื่องจากเป็นผู้อาวุโสสูงสุด
กรรมาธิการชุดนี้ประกอบด้วย สว. 23 คน และบุคคลภายนอก 12 คน เช่น
- แก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ และอดีต สว.
- คำนูณ สิทธิสมาน อดีตสื่อมวลชน และอดีต สว.
- ศ.พิเศษ จรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
- รศ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ และอดีต สว.
- ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง
ทั้งนี้ มีรายงานว่า จะมีพูดคุยกันนอกรอบเพื่อวางตัวบุคคลในการดำรงตำแหน่งต่างๆ ในกรรมาธิการ ซึ่งมีรายงานว่าจะมีการเสนอชื่อ จรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธานกรรมาธิการ แต่ล่าสุดจรัญปฏิเสธรับตำแหน่ง และคาดว่าจะเป็น สว. รับตำแหน่งประธานแทน ไม่ใช่คนนอก เพื่อการควบคุมการทำงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
แลเปิดเผยก่อนการประชุมว่า เหตุผลที่ตั้งคณะกรรมาธิการชุดนี้ขึ้นมา แม้รัฐบาลก็ได้เลื่อนกฎหมายฉบับนี้ออกไปแล้ว ตนเองไม่ได้อยู่ในฐานะที่ตอบได้ เพราะไม่ใช่คนที่เริ่มเรื่องนี้โดยตรง
ส่วนที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่ากรรมาธิการนี้จะกลายเป็นข้อต่อรองทางการเมือง และกรรมาธิการในสัดส่วนคนนอก ก็มีประวัติทางการเมืองและจุดยืนที่ค่อนข้างต่อต้าน ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แลมองว่า อยู่ที่จะทำงานกันอย่างไร ถ้าตั้งอยู่บนพื้นฐานของวิชาการและมีความเป็นกลาง ก็จะได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์กับสังคมโดยรวม
“ส่วนตัวเห็นว่าต้องเน้นย้ำในเรื่องของความเป็นกลาง และต้องอิงหลักวิชาการให้ชัดเจน มิฉะนั้นจะเลี่ยงข้อครหาที่ว่ามีเหตุผลทางการเมืองที่อยู่เบื้องหลังได้ลำบาก” แลระบุ
และยังให้ความเห็นถึงข้อกังวลต่อร่าง พ.ร.บ. การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร คิดว่าจะต้องมองในแง่ของผลทั้งระยะสั้นและระยะยาว ระยะสั้นอาจจะมีรายได้ แต่ผลระยะยาวอาจจะมีสิ่งอื่นที่เกี่ยวข้อง และมีความกังวลหลายอย่าง เช่น เรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย ว่าจะเคร่งครัดและก็มีประสิทธิภาพมากแค่ไหน รวมถึงโอกาสการควบคุมไม่ให้เกิดการฟอกเงินจะเป็นอย่างไร เรื่องของการจ้างงานมากเท่าที่ควรจะเป็นหรือไม่ เราจะต้องมีการชั่งตวงกันโดยเหตุผลทางวิชาการที่ชัดเจน