×

หุ้นไทยประกันชีวิต เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก ราคาเปิดสูงกว่า IPO ราว 0.63%

25.07.2022
  • LOADING...
หุ้นไทยประกันชีวิต

บมจ.ไทยประกันชีวิต หรือ หุ้นไทยประกันชีวิต ( หุ้น TLI ) เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (25 กรกฎาคม) เป็นวันแรก และได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก ขณะที่ราคาเปิดการซื้อขายเพิ่มขึ้น 0.63% เมื่อเทียบกับราคา IPO ที่ 16 บาทต่อหุ้น 

 

บมจ.ไทยประกันชีวิต หรือ TLI บริษัทประกันชีวิตแห่งแรกและรายใหญ่ที่สุดในประเทศที่ก่อตั้งโดยคนไทย เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 25 กรกฎาคม ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 183,200 ล้านบาท โดยราคาเปิดการซื้อขายอยู่ที่ 16.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.63% จากราคาจองซื้อที่ 16 บาท จากนั้นราคาปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 16.30 บาท มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นเป็นอันดับ 1 ของตลาดหุ้นไทย 

 

TLI เป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกของคนไทย ดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อ ‘ไทยประกันชีวิต’ ซึ่งเป็นที่รู้จักมายาวนานกว่า 80 ปี มีส่วนแบ่งทางการตลาด (พิจารณาตามเบี้ยประกันภัยรับรวม) สูงเป็น 3 ลำดับแรกของประเทศ 12 ปีติดต่อกันจนถึงปัจจุบัน ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย การให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศจากเครือข่ายตัวแทนประกันชีวิตกว่า 64,000 คน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีการจำหน่ายผ่านตัวแทนประกันชีวิตของประเทศ มีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านสถาบันการเงิน องค์กรพันธมิตรชั้นนำ และอื่นๆ ที่เข้าถึงทุกกลุ่มลูกค้า ตลอดจนได้รับการสนับสนุนทางธุรกิจจาก Meiji Yasuda Life Insurance Company (MY) ผู้ถือหุ้นเชิงกลยุทธ์ (Strategic Shareholder) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทประกันชีวิตรายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นด้วย

 

TLI มีทุนชำระแล้ว 11,450 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนรวม 2,316.70 ล้านหุ้น ประกอบด้วย

  1. หุ้นสามัญเพิ่มทุน 850 ล้านหุ้น 
  2. หุ้นสามัญเดิมของบริษัท วี.ซี.สมบัติ จำกัด 1,166.58 ล้านหุ้น
  3. หุ้นสามัญเดิมของ Her Sing (H.K.) Limited 138.49 ล้านหุ้น 

 

นอกจากนี้มีการจัดสรรหุ้นส่วนหุ้นเกิน 161.63 ล้านหุ้น 

 

โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ บุคคลที่มีความสัมพันธ์ของบริษัท และพนักงานบริษัท ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2565 และผู้ลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 11-12 และ 14 กรกฎาคม 2565 ในราคาหุ้นละ 16 บาท คิดเป็นมูลค่าเสนอขาย 37,067.18 ล้านบาท (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) และมูลค่าระดมทุน 13,600 ล้านบาท 

 

โดยบริษัท ผู้ถือหุ้นเดิม ร่วมกับผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย และผู้ซื้อหุ้นเบื้องต้นในต่างประเทศ (Initial Purchasers) กำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO จากการพิจารณาหลายปัจจัย หากพิจารณามูลค่าพื้นฐานของกิจการ (Embedded Value) (เป็นการคำนวณทางคณิตศาสตร์ประกันภัย เพื่อที่จะหามูลค่าผลประโยชน์ที่มีต่อผู้ถือหุ้นจากกรมธรรม์ที่ยังมีผลบังคับของบริษัทประกันชีวิต) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 เท่ากับ 142,277 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด 10,600 ล้านหุ้น จะได้มูลค่าพื้นฐานของกิจการต่อหุ้น 13.42 บาทต่อหุ้น และคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าพื้นฐานของกิจการ (Price to Embedded Value Ratio: P/EV) ประมาณ 1.19 เท่า และคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (Price to Book Value Ratio: P/BV) ประมาณ 2.13 เท่า โดยพิจารณาจากส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 ที่จะได้มูลค่าตามบัญชีสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 7.50 บาทต่อหุ้น 

 

สำหรับธุรกิจประกันชีวิต การประเมินมูลค่าของบริษัทด้วยอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E) จะไม่สะท้อนถึงมูลค่ายุติธรรมของบริษัท เนื่องจากไม่สะท้อนถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจจากกระแสเงินสดที่บริษัทจะได้รับจากกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองเป็นระยะเวลามากกว่า 1 ปี 

 

TLI มีผู้ถือหุ้น 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ 1 กลุ่ม วี.ซี.สมบัติ ถือหุ้น 50.79% 2. Meiji Yasuda Life Insurance Company ถือหุ้น 15.00% และ 3. Her Sing (H.K.) Limited ถือหุ้น 6.19% 

 

ทั้งนี้ TLI มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังจากการหักภาษีและจัดสรรทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด

 

ไชย ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยประกันชีวิต (TLI) เปิดเผยว่า การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยเสริมศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยบริษัทมีแผนจะนำเงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ไปลงทุนด้านเทคโนโลยี (Digital Transformation) เพื่อผลักดันบริษัทสู่การเป็น Data Driven Company รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพของช่องทางการขายผ่านพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้วในปัจจุบันให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น พร้อมเสริมสร้างเงินกองทุนให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจประกันชีวิตของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอบโจทย์การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับนักลงทุน และพร้อมดูแลเคียงข้างคนไทย

 


บทความที่เกี่ยวข้อง


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising