×

ส.อ.ท. หนุนแจกดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฉพาะกลุ่มเปราะบาง 1.45 แสนล้านบาท จำนวน 14.5 ล้านคน

โดย THE STANDARD TEAM
23.08.2024
  • LOADING...
เกรียงไกร เธียรนุกุล

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เสนอนายกรัฐมนตรี 5 เรื่องเร่งด่วนและ 3 เรื่องระยะยาว มุ่งแก้ไขปัญหาสินค้าราคาถูกนำเข้าจากจีน, ลดต้นทุน SMEs ไฟฟ้า-พลังงาน, เติมเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ 1 แสนล้านบาทให้ SMEs และหนุนแจกดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฉพาะกลุ่มเปราะบาง 1.45 แสนล้านบาท จำนวน 14.5 ล้านคน

 

วันนี้ (23 สิงหาคม) เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท. เสนอ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs 8 เรื่อง ผ่านมาตรการเร่งด่วน 5 ข้อ ประกอบไปด้วย

 

  1. เร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากสินค้าราคาถูกนำเข้าจากประเทศจีน ทั้งที่มีและไม่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หลังจากครึ่งแรกของปี 2567 มี SMEs ปิดกิจการไปแล้ว 667 แห่ง จึงขอให้เข้มงวดกับการตรวจสอบและปล่อยสินค้านำเข้า

 

  1. ช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการ SMEs ทั้งค่าไฟฟ้าและค่าพลังงานโดยเร็วที่สุด รวมถึงการลดต้นทุนแรงงานตามที่ภาครัฐได้ปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำโดยยึดกรอบไตรภาคีให้เหมาะสม รวมถึงเสนอตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ด้านพลังงาน เพื่อให้ภาคเอกชนเสนอแนะและกำหนดค่าไฟฟ้าอย่างมีเสถียรภาพ ไม่ต้องลุ้นปรับทุก 4 เดือน

 

  1. ส่งเสริมการค้าชายแดน อำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์, เปิดด่านการค้าชายแดนถาวรหลายๆ ด่าน, ปรับระบบการวิ่งรถบรรทุกเพื่อให้ส่งออกได้ทัน และตัดถนนเส้นใหม่ให้เชื่อมถนนสายหลักเพื่อลดปัญหาการจราจร

 

  1. ช่วยเหลือ SMEs ยกระดับสู่ดิจิทัล รวมถึงการใช้ AI ในการประกอบกิจการด้วยการส่งเสริมโครงการ Digital One ของ ส.อ.ท. ให้เดินหน้าต่อจากเดิมที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ทุ่มเงินให้ 1 พันล้านบาท และ ส.อ.ท. 1 พันล้านบาท ผ่านกองทุนอินโนเวชั่นวัน จึงอยากให้รัฐบาลผลักดันกองทุนนี้ต่อ รวมไปถึงส่งเสริมให้ SMEs ยกระดับคุณภาพสินค้าสู่ตลาดโลก ตลอดจนมุ่งเน้นพัฒนาธุรกิจสีเขียวเพื่อรองรับมาตรฐานใหม่ของโลก

 

  1. เสนอรัฐส่งเสริมโครงการ Made in Thailand (MiT) หลังจากที่ผ่านมาในปี 2566 สร้างส่วนแบ่งตลาดในประเทศเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15 มีเงินหมุนเวียนกว่า 1 แสนล้านบาท โดยอยากให้ขยับเพิ่มอีกเป็นร้อยละ 50 และร้อยละ 80 ในอนาคต เพื่อทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศ 5.5 แสนล้านบาท โดยนำยอดจากการซื้อสินค้า MiT มาหักภาษีได้ 2 เท่า

 

ส่วนมาตรการระยะยาว ส.อ.ท. เสนอให้ช่วยเหลืออุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และให้เปลี่ยนแผนการผลิตไปสู่อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ เช่น เครื่องมือแพทย์, อาวุธยุทโธปกรณ์ และเครื่องบิน ที่มีมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนการส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เพื่อรองรับนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาลใหม่ รวมไปถึงการผลักดันศูนย์กลางจิวเวลรีในภูมิภาคแทนฮ่องกง และยังเสนอให้เร่งแก้ไขกฎหมายที่ซ้ำซ้อนและต้องการการแก้ไขเร่งด่วนนับ 1 แสนฉบับ เพื่อลดต้นทุนแก่ผู้ประกอบการได้ถึง 1.3 แสนล้านบาท

 

หนุนแจกดิจิทัลวอลเล็ตเฉพาะกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน

 

นอกจากนี้ เกรียงไกรกล่าวเพิ่มเติมว่า ขอสนับสนุนแนวคิดรัฐบาลใหม่แจกดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเปราะบาง 1.45 แสนล้านบาท จำนวน 14.5 ล้านคน โดยการแจกเป็นเงินสด ใช้โมเดลเหมือนประเทศสิงคโปร์ เพื่อให้กลุ่มเปราะบางอย่างคนพิการและผู้สูงอายุใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงนี้ได้อย่างรวดเร็ว

 

ในขณะเดียวกันยังเห็นว่า ตามปกติการใช้งบประมาณภาครัฐต้องสร้างความรักชาติร่วมกัน โดยหน่วยงานรัฐต้องแสดงให้เห็นก่อนโดยการใช้งบประมาณซื้อของจากบริษัทไทย 80% เท่ากับว่ามีโครงการดิจิทัลวอลเล็ตกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจทุกปีทันทีโดยไม่ต้องไปวุ่นวายกับเรื่องอื่น

 

นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอให้ภาคเอกชนที่ซื้อสินค้า MiT สามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ดังนั้นก็จะช่วยเพิ่มการใช้จ่ายภายในประเทศ ถือเป็นไอเดียใหม่ที่ พิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสนใจด้วย

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising