×

รัฐบาลเดินหน้าถอนทะเบียน ‘บริษัทร้าง’ ป้องกันประชาชนถูกโกง สร้างความเชื่อมั่นนิติบุคคล หลังพบ 3 ปีมีมากกว่า 8 หมื่นราย

โดย THE STANDARD TEAM
10.04.2025
  • LOADING...
บริษัทร้าง

วันนี้ (10 เมษายน) ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการที่รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ เตรียมดำเนินการสำรวจและถอนทะเบียนนิติบุคคลที่เข้าข่ายเป็น ‘บริษัทร้าง’ ประจำปี 2568 เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้มีความโปร่งใสและถูกต้อง ป้องกันการหลอกลวงประชาชน 

 

ว่าการถอนทะเบียนบริษัทร้าง หมายถึง การที่นายทะเบียนขีดชื่อห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทออกจากทะเบียน เนื่องจากไม่ทำการค้าขายหรือประกอบกิจการใดๆ ไม่ได้ยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือจดทะเบียนเลิกแล้วแต่ไม่ยื่นรายงานการชำระบัญชีให้เสร็จสิ้น ซึ่งข้อมูลที่ไม่เป็นปัจจุบันเหล่านี้อาจสร้างความเข้าใจผิดและนำไปสู่ความเสียหายจากการถูกหลอกลวง

 

ตามกฎหมาย นายทะเบียนจึงมีอำนาจในการถอนทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่ทิ้งร้างหรือเลิกประกอบกิจการและไม่ดำเนินกิจการแล้ว เพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยเมื่อมีคำสั่งขีดชื่อออกจากทะเบียน บริษัทนั้นจะสิ้นสภาพนิติบุคคลทันที อย่างไรก็ตาม ความรับผิดชอบของหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้เป็นหุ้นส่วน กรรมการ ผู้จัดการ และผู้ถือหุ้นยังคงมีอยู่ และสามารถเรียกบังคับได้เสมือนบริษัทยังไม่สิ้นสภาพ หากต้องการให้บริษัทร้างกลับคืนสู่ทะเบียน ผู้มีส่วนได้เสียสามารถยื่นคำร้องต่อศาลภายใน 10 ปี

 

ศศิกานต์กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีนิติบุคคลถูกขีดชื่อออกจากทะเบียน และมีสถานะร้างรวมทั้งสิ้น 89,856 ราย แบ่งเป็นปี 2565 จำนวน 27,915 ราย ปี 2566 จำนวน 29,006 ราย และปี 2567 จำนวน 32,935 ราย 

 

ปัจจุบันมีนิติบุคคลที่ยังดำเนินการอยู่รวม 928,292 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568) การดำเนินการครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบทะเบียนนิติบุคคล และป้องกันการนำชื่อบริษัทที่ไม่มีตัวตนไปใช้หลอกลวงผู้อื่น

 

“รัฐบาลมุ่งมั่นดูแลผลประโยชน์ประชาชน และเดินหน้าสร้างระบบนิติบุคคลที่ทุกฝ่ายสามารถเชื่อถือและตรวจสอบได้อย่างแท้จริง การดำเนินการถอนทะเบียนบริษัทร้างครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับความโปร่งใสและเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจไทย การมีฐานข้อมูลนิติบุคคลที่ถูกต้องและทันสมัย จะช่วยลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง สร้างสภาพแวดล้อมธุรกิจที่ปลอดภัย และเอื้อต่อการลงทุนในอนาคต” ศศิกานต์ย้ำ

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising