กระทรวงพาณิชย์เผยส่งออกไทยเดือนกันยายนโต 2.1% ขยายตัวเป็นบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 มองไตรมาส 4 แนวโน้มสดใสทั้งปีอาจติดลบต่ำกว่าคาด จับตาการสู้รบในอิสราเอลหวั่นขยายวงส่งผลกระทบเส้นทางขนส่งสินค้า
กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนกันยายน 2566 ว่า การส่งออกมีมูลค่า 25,476 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 2.1% อยู่ในแดนบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 หลังจากที่ในเดือนสิงหาคมตัวเลขส่งออกไทยพลิกกลับมาเป็นบวกที่ 2.6% เป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน ขณะที่การนำเข้าในเดือนกันยายนมีมูลค่า 23,383 ล้านดอลลาร์ หดตัว 8.3% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 2,092 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ภาพรวม 9 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออกไทยยังคงติดลบอยู่ 3.8% มีมูลค่า 213,069 ล้านดอลลาร์ ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 218,90 ล้านดอลลาร์ หดตัว 6% ส่งผลให้ดุลการค้า 9 เดือนแรกของปี 2566 ขาดดุลอยู่ 5,832 ล้านดอลลาร์
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ตัวเลขส่งออกและดุลการค้าที่พลิกกลับมาเป็นบวกได้ในเดือนกันยายน เป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงทางอาหารจากปัญหาภัยแล้งและภาวะเอลนีโญ ที่ทำให้หลายประเทศเร่งนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหาร ทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวได้ถึง 12% พลิกกลับมาเป็นบวกในรอบ 5 เดือน
ขณะเดียวกัน การส่งออกไทยยังได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจจีนที่เริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นในเดือนกันยายน ทำให้การส่งสินค้าไปยังตลาดจีนขยายตัวได้ถึง 14.4% โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และอัญมณีและเครื่องประดับ
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทที่ระดับปัจจุบันก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เอื้อให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ดีขึ้น รวมถึงปัจจัยเชิงฤดูกาลที่มูลค่าการส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากคำสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าเพื่อรองรับเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่และคริสต์มาสในประเทศคู่ค้า ก็เป็นอีกหนึ่งแรงหนุนให้ตัวเลขออกมาดี
สำหรับการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี กระทรวงพาณิชย์ประเมินว่า มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามการทยอยฟื้นตัวของประเทศคู่ค้า ที่ต่างออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และอุปสรรคด้านห่วงโซ่อุปทานคลี่คลายลงจากปีก่อนหน้าที่ต้องเผชิญกับโควิด ขณะที่กระแสความมั่นคงทางอาหาร และแรงส่งจากภาคบริการและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปลายปีจะช่วยหนุนการส่งออกสินค้าเกษตร และอาหารที่ไทยมีศักยภาพ
โดยกระทรวงพาณิชย์จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชน ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้า และเดินหน้าเจรจาความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งติดตามเฝ้าระวังความเสี่ยงใหม่ๆ จากปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ซึ่งอาจขยายวงกว้างจนส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการค้าของโลกในระยะถัดไป
“ในกรณีที่ปัญหาในอิสราเอลไม่ลุกลามหรือขยายวง เราคาดว่ามูลค่าการส่งออกไทยในช่วงที่เหลือของปีจะมีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.4-2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะช่วยให้ตัวเลขทั้งปีติดลบน้อยลงกว่าที่เคยคาดการณ์กันไว้” ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าว
ทั้งนี้ จากการประมาณการของกระทรวงพาณิชย์กรณีตัวเลขส่งออกไทยในปี 2566 จะขยายตัวเป็น 0% ได้ การส่งออกในช่วง 3 เดือนที่เหลือจะต้องมีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.47 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ส่วนในกรณีที่ตัวเลขจะออกมาเป็น +1% ตามเป้าหมายของกระทรวง การส่งออกจะต้องมีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.57 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน และกรณีที่ตัวเลข -1% การส่งออกจะต้องมีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.38 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน