ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (12 ตุลาคม) ที่ระดับ 33.70 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดในวันก่อนหน้า ที่ 33.88 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะมีแรงไล่ซื้อกระชากค่าเงินบาทจนแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 33.49 บาทต่อดอลลาร์ (ณ เวลา 8.40 น.) แรงหนุนจากเงินลงทุนของผู้เล่นบางส่วนที่อาจเข้ามาเก็งกำไรจากการทยอยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนพฤศจิกายน
พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นโดยได้แรงหนุนจากโฟลวผู้เล่นบางส่วนที่อาจเข้ามาเก็งกำไรการทยอยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนพฤศจิกายน ดังจะเห็นได้จากการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่พลิกกลับมาแข็งค่าหนัก หลังจากที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประกาศเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว
อย่างไรก็ดี โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ยังมีอยู่ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดยังคงไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยง และผู้เล่นโดยรวมยังมองว่า Fed จะเดินหน้าลด QE ในเดือนพฤศจิกายน ทำให้เงินดอลลาร์จะยังไม่รีบอ่อนค่าลงในเร็วๆ นี้ เว้นแต่ว่าถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ Fed อาจเริ่มลังเลต่อการลด QE ในเดือนพฤศจิกายน และตลาดคลายกังวลปัจจัยเสี่ยงต่างๆ จนกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งในกรณีนี้อาจต้องรอในช่วงการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ที่อาจจะพอเห็นภาพตลาดกลับมาเปิดรับความเสี่ยงได้บ้าง
สำหรับเงินบาทอาจกลับมาแข็งค่าได้บ้าง แต่เรายังไม่ได้มองว่าเงินบาทจะกลับไปแข็งค่าหนักในระยะสั้น เพราะปัจจัยพื้นฐานยังไม่ได้ฟื้นตัวดีมากนัก และโมเมนตัมการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ยังคงมีอยู่ ซึ่งเรามองว่าแนวรับของเงินบาทหากมีการแข็งค่าจะอยู่ในช่วง 33.40-33.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่อาจเห็นผู้นำเข้าบางส่วนเข้ามาทยอยซื้อเงินดอลลาร์มากขึ้น (Buy on Dip)
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.45-33.70 บาทต่อดอลลาร์
พูนกล่าวด้วยว่า ในส่วนของตลาดการเงินโลกโดยรวมพลิกกลับมาอยู่ในโหมดระมัดระวังตัวอีกครั้ง หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องสู่จุดสูงสุดในรอบ 7 ปี สร้างความกังวลปัญหาเงินเฟ้อและโอกาสเกิดภาวะ Stagflation หากเศรษฐกิจชะลอตัวลง
ขณะเดียวกันตลาดก็เริ่มกลับมากังวลปัญหาการคุมเข้มภาคธุรกิจของจีน หลังทางการเดินหน้าตรวจสอบพฤติกรรมและความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารของบริษัทเอกชนกับบรรดาเจ้าหน้าที่ทางการ อาทิ เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลาง รวมถึงผู้บริหารสถาบันการเงิน
นอกจากนี้ประเด็นปัญหาหนี้ของ Evergrande ยังเป็นที่จับตาของตลาด หลัง Evergrande ยังไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยให้กับนักลงทุนในตราสารหนี้ที่มีกำหนดจ่ายในวันก่อน ซึ่ง Evergrande จะมีเวลา 30 วันในการหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยดังกล่าว
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP