×
SCB Omnibus Fund 2024

‘TFM’ เข้าซื้อขายวันแรก ราคาเปิดสูงกว่าราคา IPO 16.3%

29.10.2021
  • LOADING...
TFM

บมจ.ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ หรือ TFM เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้ (29 ตุลาคม) วันแรก ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก เปิดการซื้อขายที่ราคา 15.70 บาท เพิ่มขึ้น 2.20 บาท จากราคา IPO ที่ 13.50 บาท หรือคิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 16.29% จากนั้นราคาไต่ระดับขึ้นต่อเนื่อง โดยทำราคาสูงสุดในช่วง 10 นาทีแรกของการเปิดการซื้อขายที่ 16.80 บาท 

 

ทั้งนี้ TFM ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เศรษฐกิจ และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย โดยผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ ได้แก่ อาหารกุ้ง อาหารปลา และอาหารสัตว์บก บริษัทมีกำลังการผลิตอาหารสัตว์รวมเท่ากับ 273,000 ตันต่อปี ทั้งนี้ TFM เป็นบริษัทย่อย และเป็นบริษัทแกนนำ (Flagship) ในการดำเนินธุรกิจอาหารสัตว์น้ำของกลุ่ม บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU)

 

TFM มีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท พาร์ 2 บาท โดยเสนอขายหุ้น 109.3 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 13.5 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,215 ล้านบาท จากมูลค่าเสนอขาย 1,475.55 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 6,750 ล้านบาท 

 

ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) เท่ากับ 21.7 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2563 ถึงไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 ซึ่งเท่ากับ 311.1 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขาย IPO คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น (Fully Diluted EPS) เท่ากับ 0.60 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

 

บรรลือศักร โสรัจจกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TFM กล่าวว่า TFM มุ่งเน้นพัฒนาสูตรการผลิต และกระบวนการผลิตอาหารสัตว์อย่างต่อเนื่อง สร้างความแตกต่างและยกระดับมาตรฐานคุณภาพให้กับผลิตภัณฑ์ เพื่อการเป็นผู้นำในธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ โดยเน้นตลาดในประเทศเป็นหลัก และอยู่ระหว่างขยายสู่ประเทศอินโดนีเซียและปากีสถาน 

 

TFM มีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาเพิ่มขีดความสามารถของบริษัท โดยจะลงทุนในเครื่องจักร และการก่อสร้างอาคารโรงงานแห่งใหม่ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะเน้นการผลิตและจำหน่ายอาหารกุ้งเป็นหลัก นอกจากนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนยังจะช่วยปรับโครงสร้างทางการเงินจากการชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียน

 

TFM มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ต่อปี โดยพิจารณาจากงบการเงินรวมหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย โดยจำนวนปันผลต้องไม่เกินกำไรสะสมของงบการเงินเฉพาะกิจการ ทั้งนี้ อาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลโดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เพื่อผลประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นเป็นหลัก

 

หลัง IPO TFM จะมีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรก ได้แก่ TU ถือหุ้น 51% กลุ่มฤทธิรงค์ บุญมีโชติ ถือหุ้น 11.84% และ บรรลือศักร โสรัจจกิจ ถือหุ้น 3.1%

 

 


ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

Twitter: twitter.com/standard_wealth

Instagram: instagram.com/thestandardwealth

Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising