‘หุ้น Tesla ดิ่งหนัก-ปัญหาใหญ่ใน SpaceX-เปิดตัวใน Twitter ไม่สวย’ หนึ่งสัปดาห์ที่ อีลอน มัสก์ ไม่อยากจำ

ถึงจะต้องบอกว่าทุกความเคลื่อนไหวของ อีลอน มัสก์ สามารถเขย่าโลกได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะมีแต่เรื่องในเชิงบวกเสมอไป เพราะในสัปดาห์ที่ผ่านมา บิ๊กบอสของ Tesla กับ SpaceX และกับบริษัทที่หมายมั่นปั้นมืออย่าง Twitter ต้องเจอกับเรื่องชวนปวดหัวหนักทั้งสิ้น

โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาหุ้นของ Tesla รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เป็นความหวังใหม่ของโลก มูลค่าตกลงมาเกือบครึ่งนับจากช่วงพีคที่สุดในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และตกลงมาจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมากกว่า 6% ด้วยกัน เมื่อนักลงทุนต่างพากันเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับสาเหตุของเรื่องนี้ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาภายในของ Tesla ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และอีกส่วนมาจากเรื่องของรายงานด้านความปลอดภัยที่น่ากังวลจากหน่วยงาน The National Highway Traffic Safety Administration: NHTSA ที่เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (15 มิถุนายน) ว่า อุบัติเหตุรถชนที่มีระบบผู้ช่วยขับที่ล้ำสมัยในช่วงเดือนมิถุนายนปี 2021 จนถึงปัจจุบันนั้นเป็นรถของ Tesla มากถึง 70%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

อ้างอิงจากรายงานฉบับดังกล่าวซึ่งรวบรวมจากจำนวนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 11 แห่ง พบว่าอุบัติเหตุจำนวน 392 ครั้งนั้นเป็นรถยนต์ของ Tesla ถึง 273 ครั้งเลยทีเดียว เพียงแต่ทางด้าน NHTSA ไม่ได้ต้องการหาข้อสรุปแต่อย่างใด เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลเท่านั้น

เรื่องของราคาจำหน่ายรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาก็ส่งผลกระทบต่อบริษัทอย่างมากเช่นกัน โดย Tesla ได้ขึ้นราคารถสำหรับขับทางไกลอย่าง Model Y Long Range จากเดิม 62,990 ดอลลาร์ เป็น 65,990 ดอลลาร์ และเพิ่มราคาสำหรับรุ่นประสิทธิภาพสูงอีก 2,000 ดอลลาร์ เป็นราคา 69,990 ดอลลาร์

ขณะที่รถรุ่น Model S Dual Motor All-Wheel Drive เพิ่มราคาอีก 5,000 ดอลลาร์ เป็น 104,990 ดอลลาร์ ส่วนรุ่น Model X Dual Motor All-Wheel Drive Long Range นั้นเพิ่มขึ้นอีกถึง 6,000 ดอลลาร์

ก่อนหน้านี้มัสก์เคยออกมาเปิดเผยว่า มีแผนที่จะปรับลดจำนวนลูกจ้างลง 10% และยังมีความรู้สึก ‘แย่อย่างมาก’ เกี่ยวกับเศรษฐกิจ ซึ่งสำหรับลูกค้าแล้ว การออกมากล่าวของคนที่ทรงอิทธิพลอย่างมัสก์ส่งผลต่อความมั่นใจอย่างมาก

นอกเหนือจาก Tesla แล้ว ซีอีโอคนดังยังเจอเรื่องหนักใจเกี่ยวกับ SpaceX อีกหนึ่งบริษัทระดับโลกของเขา เมื่อแผนการสร้างจรวดขนาดยักษ์ Starship ที่กำลังพัฒนาอยู่ที่รัฐเท็กซัสนั้น องค์การบริหารการบินแห่งชาติ (Federal Aviation Administration: FAA) ได้แจ้งรายการที่ SpaceX ต้องจัดการทำเกี่ยวกับเรื่องการบรรเทาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมให้เรียบร้อยมาถึง 75 รายการก่อน จึงจะสามารถออกใบอนุญาตให้ทดสอบการบินได้ ซึ่งรวมถึงมลภาวะทางเสียง และการจะปิดถนนไฮเวย์ใกล้กับโรงงานได้กี่ครั้ง แม้ว่าข่าวดีในเรื่องนี้ก็คือจะไม่มีการกลับมาตรวจสอบในเชิงลึกอีกแล้วก็ตาม เพราะถือว่าได้ข้อสรุปแล้ว

แต่ใน SpaceX ยังมีความวุ่นวายอีก เมื่อเกิดเหตุที่มีกลุ่มพนักงานที่ไม่ประสงค์ออกนาม ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกวิจารณ์มัสก์อย่างเผ็ดร้อนเกี่ยวกับการวางตัวในที่สาธารณะ พร้อมระบุว่า ‘เป็นคนที่ทำให้เกิดความสับสนและอับอาย’ ที่สุดแล้วมีรายงานจาก CNBC ว่า มีพนักงานอย่างน้อย 5 คนที่เกี่ยวข้องกับจดหมายฉบับนี้ ถูกไล่ออกจากบริษัทแล้ว

เรื่องนี้ทางด้าน กวินน์ ช็อตเวลล์ ประธาน SpaceX ได้ส่งข้อความถึงพนักงานบริษัททุกคน โดยขอโทษที่ทำให้ต้องถูกรบกวนจากเรื่องนี้ “ขอให้ทุกคนกลับมาตั้งหน้าในภารกิจของ SpaceX และใช้เวลาในการทำงานให้ดีที่สุด”

ส่วนเรื่องสุดท้ายที่มัสก์ต้องเจอ คือการเปิดหน้าพูดคุยกับพนักงานของ Twitter เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่มีข่าวว่าตกลงจะซื้อยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียด้วยมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 1.48 ล้านล้านบาทเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

เพียงแต่การเปิดตัวผ่านระบบวิดีโอคอลครั้งแรกของมัสก์ที่หวังจะสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่าย หลังจากที่หุ้นของ Twitter ตกลงจาก 54.20 ดอลลาร์ในวันที่มีข่าวว่าเขาตกลงจะซื้อบริษัท เหลือแค่ 37 ดอลลาร์ในเวลานี้ ไม่ได้เป็นไปด้วยดีอย่างที่หวัง

โดยปฏิกิริยาบน Slack หลังการประชุมพบว่า พนักงานของ Twitter ยังคงมีความกังวลและคำถามอีกมาย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการทำงาน ซึ่งตามนโยบายเดิมของซีอีโอคนเก่าอย่าง แจ็ค ดอร์ซีย์ นั้น พนักงานได้รับอนุญาตให้ทำงานจากทางไกลได้โดยถาวร แต่บริษัทของมัสก์อย่าง Tesla และ SpaceX นั้นมีนโยบายสวนทางกัน โดยต้องการให้พนักงานมาทำงานที่สำนักงานอย่างน้อยสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง (หรือเฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมง)

พนักงานบางส่วนยังกังวลเกี่ยวกับการตกงาน เพราะอาจจะมีการเลย์ออฟเกิดขึ้นตามที่มัสก์ได้บอกในการประชุมว่า Twitter จำเป็นจะต้องมีสถานะทางการเงินที่เข้มแข็ง แม้จะพยายามบอกว่า “แต่คนที่มีความสำคัญต่องานไม่จำเป็นต้องกังวลในเรื่องนี้แต่อย่างใด” ก็ไม่ได้นำพาความมั่นใจให้แก่พนักงานมากนัก

นั่นทำให้เกิดการแชร์ข้อความและมีมล้อเลียนต่างๆ หลังจบการประชุมเต็มไปหมด และเรียกได้ว่านี่อาจจะเป็นหนึ่งในช่วงสัปดาห์แย่ๆ ที่แม้แต่ซูเปอร์แมนอย่างอีลอน มัสก์เองก็เจอกับเขาได้เหมือนกัน

ภาพ: Jonathan Newton / The Washington Post via Getty Images

อ้างอิง: