พนักงานเทคกว่าหมื่นคนในสหรัฐฯ ถูกเลย์ออฟในเวลาเพียง 2-3 วัน เนื่องจากยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Meta, Twitter, Salesforce และบริษัทอื่นๆ ต่างพยายามลดจำนวนพนักงานลงในช่วงสิ้นปีนี้
ข้อมูลจาก Layoffs.fyi ซึ่งเป็นเว็บไซต์ติดตามการเลิกจ้างในอุตสาหกรรมนี้ระบุว่า มีพนักงานอย่างน้อย 20,300 คนถูกเลิกจ้างในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และกว่า 100,000 คนตั้งแต่ต้นปีนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- บริษัทเทคปลดคนไปแล้วกว่า 5.2 หมื่นราย เซ่นรายได้ชะลอตัวหลังผ่านวิกฤตโควิด โบรกคาดการเติบโตหลังจากนี้อาจไม่หวือหวา
- “ผมเสียใจต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบ” มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ส่งจดหมายเพื่อยืนยันการปลดพนักงาน 11,000 คน มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Facebook
- อีลอน มัสก์ คุยกับพนักงาน Twitter เป็นครั้งแรกด้วยการบอกว่าบริษัทสามารถที่จะ ‘ล้มละลาย’ ได้ พร้อมกระตุ้นให้ทุกคนทำงานอย่างหนักหน่วง
ตามรายงานระบุว่า ความเชื่อมั่นในการทำงานของพนักงานเทคลดลงอย่างมาก เนื่องจากมีข่าวการเลิกจ้างหลุดออกมาตลอดเวลา
Julia Pollak หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ZipRecruiter กล่าวว่าการเลิกจ้างหลักหลายพันนั้น ‘ไม่น่าแปลกใจ’ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯทำให้บริษัทต่างๆ กู้ยืมได้ยากขึ้น, ราคาหุ้นตกต่ำและราคาสินค้าในสหรัฐฯ มีราคาแพงเกินไปสำหรับตลาดต่างประเทศ
ความผันผวนและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี และอาจลามไปถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกด้วย
สิ่งที่น่าสนใจคือการเลิกจ้างในอุตสาหกรรมเทคจะส่งผลแบบระลอกคลื่น กล่าวคือจะมีบริษัทเตรียมเข้า IPO น้อยลง ดังนั้นธนาคารสำหรับการลงทุนจะได้รับผลกระทบ และบริษัทต่างๆ พยายามประหยัดเงินอย่างรวดเร็วโดยการตัดงบโฆษณา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบริษัทสื่อทั้งหลายอีกด้วย และการที่พวกเขาลดจำนวนพนักงานลงก็ทำให้ไม่ต้องการพนักงาน HR หรือนายหน้าจัดหางานอีกต่อไป
Josh Brenner ซีอีโอของ Hired ซึ่งเป็นตลาดงานด้านเทคโนโลยี กล่าวว่า พนักงานระดับจูเนียร์หรือ First Jobber จะได้รับผลกระทบมากที่สุดเนื่องจากบริษัทต่างๆ จะรัดกุมการจ้างงานของพวกเขามากขึ้น โดยจะเน้นไปที่พนักงานมากประสบการณ์มากกว่าหากต้องการเสริมตำแหน่งต่างๆ
อย่างไรก็ตาม การเลิกจ้างดังที่กล่าวข้างต้นนั้นจะกระจุกอยู่ในวงจำกัดอย่างซิลิคอนแวลลีย์และวอลล์สตรีท ซึ่งสวนทางกับนายจ้างอื่นๆ ที่กำลังดิ้นรนเพื่อจ้างงานให้ทันความต้องการของผู้บริโภคในภาคการท่องเที่ยว การพักผ่อน และบริการอื่นๆ
สำหรับพนักงานเทคจะยังคงมีโอกาสทำงานมากมายในบริษัทขนาดเล็กและนอกอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงการดูแลสุขภาพ การค้าปลีก รัฐบาล และแม้แต่การเกษตร
ผู้หางานด้านเทคโนโลยีส่วนใหญ่ยังอยู่ในอุตสาหกรรมเดิมนี้ แต่พวกเขามีทางเลือกอื่นด้วยเช่นกัน โดยจากข้อมูลของ ZipRecruiter เผยว่า จากการสำรวจของชาวอเมริกัน 2,500 คนในเดือนตุลาคม พบว่า 74% ของคนทำงานด้านเทคโนโลยีที่เริ่มทำงานใหม่ภายในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งยังคงอยู่ในภาคส่วนเทคโนโลยี
และในบรรดา 26% นั้นทำงานในอุตสาหกรรมอื่น, 6% เข้าสู่ธุรกิจค้าปลีกหรืออีคอมเมิร์ซ, 5% ไปทำงานที่บริษัทเทคโนโลยีทางการเงิน, 2% ย้ายไปดูแลสุขภาพ และ 2% ย้ายไปทำงานบริการธุรกิจแบบมืออาชีพ
อ้างอิง: