ลืมทาโก้และนาโชส์ไปก่อน เพราะ Ojo มาพร้อมนิยามใหม่ของอาหารเม็กซิกันในเมืองไทย
Ojo (โอโฮ) หรือดวงตาในภาษาสเปน เป็นห้องอาหารเปิดใหม่บนชั้น 76 ของ The Standard, Bangkok Mahanakhon ที่นำเสนออาหารเม็กซิกันที่มีรสดั้งเดิมแต่เสิร์ฟมาในสไตล์โมเดิร์น โดยมีเชฟชาวเม็กซิกันแต่กำเนิดเป็นผู้คิดค้นสูตรอาหารอย่าง ฟรานซิสโก ปาโก รูอาโน (Francisco ‘Paco’ Ruano) ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในระดับอินเตอร์ จากการเปิดร้านอาหาร Alcalde ในประเทศบ้านเกิดจนคว้ารางวัล Latin America’s 50 Best Restaurants มาครอง ซึ่งที่ Ojo แห่งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เขาได้สร้างสรรค์เมนูอาหารให้กับร้านที่อยู่นอกประเทศเม็กซิโก เชฟปาโกจึงอยากนำรสชาติเม็กซิกันแท้ๆ ที่ยังไม่ค่อยเห็นในบ้านเรา มาผสมเข้ากับเทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่ ที่เข้ามาช่วยยกระดับอาหารเม็กซิกันของ Ojo ตั้งแต่หน้าตา การนำเสนอ รสชาติ และประสบการณ์ใหม่ๆ หลังจากที่ได้ชิมอาหารเม็กซิกันของที่นี่
ออกแบบและตกแต่งโดย Ou Baholyodhin Studio (OBS)
เมนูของที่นี่เชฟปาโกเน้นไปที่วัตถุดิบจากเมืองไทย ที่คัดสรรวัตถุดิบที่ดีจากเกษตกรและชาวประมงไทย เริ่มจากจานกินเล่นอย่าง Ojo Guacamole (480 บาท) หรือกัวคาโมเลสูตรโอโฮ ที่อัดแน่นด้วยเนื้อปูและไข่ปลาอิคุระ กินคู่กับแป้งตอร์ติญาแผ่นบางกรอบสไตล์โฮมเมด Aguachile (590 บาท) ที่ทางร้านใช้กุ้งลายเสือที่สุกระดับเนื้อกุ้งยังหวานเด้ง ใส่มะเขือเทศเขียว ท็อปด้วยแตงกวาฝานและพริกเขียว ให้รสชาติที่คล้ายกุ้งแช่น้ำปลาที่มีความกลมกล่อม ไม่เผ็ดโดด แต่มีรสเปรี้ยวนำ สดชื่น
Ojo Guacamole (480 บาท)
Aguachile (590 บาท)
Coconut Ceviche (420 บาท) ที่เสิร์ฟมาในผลมะพร้าว ใช้เนื้อมะพร้าวอ่อนมาปรุงรสด้วยถั่วเหลืองหมัก กะทิ และพริกเหลือง หรือ Esquites (390 บาท) ข้าวโพดอ่อนย่างที่ใช้ซอสมายองเนสผสมพริกจาลาปิโน โรยหน้าด้วยชีส
Esquites (390 บาท)
Coconut Ceviche (420 บาท)
ในขณะที่จานหลักแนะนำเป็น Pollo & Pipian (1,300 บาท) หรือไก่ย่างเสิร์ฟพร้อมซอสกรีนโมลที่ทำจากผักใบเขียวและเม็ดฟักทองบด ตัวไก่นุ่มกำลังดี ไม่แห้ง เข้ากันกับซอสสูตรพิเศษ จานปลา Pescado Zarandeado (1,100 บาท) ปลาย่างเตาไม้พิเศษกินคู่กับอะโวคาโด มาพร้อมเลมอนที่นำไปกริลล์เพื่อชูรสชาติ
Pollo & Pipian (1,300 บาท)
Carnitas (1,400 บาท) และ Pescado Zarandeado (1,100 บาท)
หรือ Birria (2,500 บาท) ซี่โครงเนื้อที่เชฟนำไปสโลว์คุกจนเนื้อนุ่มละลายแทบไม่ต้องเคี้ยว รสชาติเข้มข้น นอกจากนี้ยังมี Carnitas (1,400 บาท) ซี่โครงหมูที่ท็อปด้านบนด้วยผักใบที่มีรสและกลิ่นฉุนเล็กน้อย ทั้งหมดนี้เข้ากันได้ดีกับแป้งตอร์ติญาหรือข้าวเหนียวแบบไทยๆ ที่เชฟเลือกเสิร์ฟบนโต๊ะอาหารด้วย
Birria (2,500 บาท)
ส่วนขนมหวานเราได้ลอง Arroz Con Leche (350 บาท) หรือพุดดิ้งข้าว ที่ทางร้านใช้แผ่นข้าวกรอบ ไอศกรีมอบเชยใส่ไวต์ช็อกโกเลตและเกร็ดที่ทำจากถั่วเหลือง
Arroz Con Leche (350 บาท)
ที่นี่ยังมีค็อกเทลไว้ให้บริการอีกด้วย
หลังจากที่ได้ลิ้มลองอาหารที่ทางเชฟปาโกระบุว่านี่แหละคืออาหารเม็กซิกันแบบดั้งเดิมจริงๆ ก็รู้สึกว่าอาหารเม็กซิกันนั้นมีความใกล้เคียงกับอาหารไทยไม่น้อย เพราะแต่ละจานมีรสชาติที่ครบรส ไม่ว่าจะเปรี้ยว เค็ม กลมกล่อม หรือเผ็ดร้อนด้วยพริกเม็กซิกัน จึงถือเป็นอาหารต่างชาติที่กินง่ายและน่าจะเข้าปากคนไทยที่ไม่ได้เป็นสายนม เนย ครีม ชีส หรือต้องหนักด้วยแป้ง
และไม่ใช่แค่อาหารเท่านั้นที่ได้รับการยกระดับ Ojo ยังสวยเป็นพิเศษด้วยฝีมือการออกแบบและตกแต่งโดย Ou Baholyodhin Studio (OBS) หรือที่รู้จักกันในนาม อู้ พหลโยธิน ที่เน้นความหรูหราร่วมสมัย โดดเด่นด้วยโทนสีทองที่แสดงถึงความโอ่อ่า ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากโลหะและหินอัญมณี รวมถึงสิ่งทอที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมลาตินอเมริกา ทำให้ห้องอาหารแห่งนี้สวยทั้งยามก่อนพระอาทิตย์ตกดินและยามค่ำคืนที่มองเห็นวิวกรุงเทพฯ จากชั้น 76 ได้อย่างเต็มตา
แนะนำว่าควรมาจิบค็อกเทลในช่วงเย็นก่อน เพื่อชมวิวพระอาทิตย์ตกและเก็บภาพสวยๆ ของที่นี่ ก่อนที่จะนั่งโต๊ะดินเนอร์อย่างจริงจัง เพื่อให้การมาที่ Ojo นั้นเต็มอิ่มทั้งภาพที่เห็นและรสสัมผัสของอาหารที่เราได้ลิ้มลองในค่ำคืนนั้น
Ojo
Location: ชั้น 76 ของ The Standard, Bangkok Mahanakhon
Open: ทุกวัน มื้อกลางวันตั้งแต่เวลา 11.30-14.30 น. และมื้อเย็นเวลา 17.30-24.00 น.
Contact: 0 2085 8888
Budget: 1,000 บาท
Website: www.standardhotels.com/bangkok/properties/bangkok
Map: https://goo.gl/maps/dmKKTLenRiqYFcgF6
ภาพ: ภควรรษ ประเสริฐศักดิ์