หลังจากเราไม่ได้เจอ ‘เชฟอาโน ดูนัง’ และอาหารฝีมือของเขามานาน ในที่สุดวันนี้ก็ได้โอกาสมาเยี่ยมบ้านหลังใหม่ของเชฟในซอยสาทร 10 สักที และทันทีที่มาถึง เราก็เจอเชฟอาโนออกมาทักทายต้อนรับด้วยความเฟรนด์ลี่เช่นเคย
“ที่นี่เป็นบ้านของผม เพราะฉะนั้นผมจะทำอาหารในแบบที่ตัวเองต้องการ” เชฟอาโนพูดถึงร้านอาหารใหม่ของเขา ‘Maison Dunand’ ที่เราอดเอ่ยปากชมว่าสวยหลายครั้งไม่ได้เลย และนั่นอาจเป็นเพราะที่นี่คือ ‘บ้านของดูนัง’ อย่างที่เชฟบอก เขาจึงตั้งใจออกแบบทุกอย่างให้ดูอบอุ่นสบายๆ พร้อมต้อนรับทุกคนให้มานั่งกินอาหารในบรรยากาศกระท่อมสไตล์ฝรั่งเศส
เมื่อมาถึงทุกคนจะเจอบรรยากาศสวนต้นไม้ร่มรื่น ก่อนต้องเดินผ่าน Alpea (อัลเพีย) ร้านชำของเชฟอาโนที่มีทั้งวัตถุดิบและเบเกอรีให้แวะมานั่งชิลได้ หลังจากนั้นจึงพบบ้านสองชั้นที่เป็นพื้นที่ของ Maison Dunand ร้านอาหารฝรั่งเศสไฟน์ไดนิ่งที่เราจะพาทุกคนไปนั่งชิมในวันนี้
บ้านทั้งหลังถูกตกแต่งสวยงาม มีกลิ่นอายสไตล์ฝรั่งเศสอย่างที่เชฟอาโนชอบ เพราะเชฟได้แรงบันดาลใจทั้งเรื่องอาหารและคอนเซปต์ต่างๆ ของร้านนี้มาจากแคว้นแถบภูเขา ซาวอย (Savoie) และแคว้นติดมหาสมุทร บริตตานี (Brittany) ในประเทศฝรั่งเศสที่เขาผูกพันแต่เด็ก
ทุกคนจึงจะเห็นไม้โอ๊ก หิน พรมหนัง และภาพวัวต่างๆ จัดตกแต่งอยู่เต็มพื้นที่ แต่บรรยากาศของชั้นแรกและชั้นบนจะต่างกันโดยสิ้นเชิง ใครอยากนั่งชมครัวเปิดสุดอบอุ่นหรือนั่งกินอาหารในบรรยากาศกระท่อมบนเนินเขาก็เลือกได้เลย
เชฟอาโนบอกว่าเขาจะเสิร์ฟคอร์สเมนูที่เปลี่ยนไปทั้งตามใจและตามวัตุดิบ มีให้เลือกทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ โดยเมนูที่เรานำมาให้ชมกันเป็นเมนูดินเนอร์ 8 คอร์ส ที่เต็มไปด้วยรสชาติ ประสบการณ์ และตัวตนของเชฟใหญ่ชาวฝรั่งเศสคนนี้
เริ่มจากคานาเป้ แครกเกอร์ปลาไหลรมควัน ตามด้วยของกินเล่น 3 อย่างที่เสิร์ฟมาบนจานสีสด ได้แก่ ปลาเทราต์, แบล็กพุดดิ้งแอปเปิ้ล, พายเห็ดรากูทรัฟเฟิลโฟม
เราชอบที่เชฟอาโนเสิร์ฟขนมปัง 4 ชนิดกับเนย 3 แบบมาให้แชร์กันตรงกลาง ดูอบอุ่นเหมือนมื้ออาหารครอบครัวดี และหากใครแอบคิดถึง ‘เนยสาหร่าย’ เราดีใจด้วยเพราะทุกคนจะได้เจอสิ่งนั้นที่นี่
เริ่มเข้าสู่เมนูอาหาร Beef, Sardines, Mirabelles เนื้อและซาดีนรมควันกับคอนซูเมมะเขือเทศ สมุนไพร หัวไชเท้าดำ เป็นคอร์สที่สดชื่นก่อนตามด้วยความครีมมี่จาก Caviar Kristal, Uni, Potato แนะนำให้ตักจากด้านล่างขึ้นมาเพื่อให้ครบตั้งแต่อูนิ เอสพูมามันฝรั่ง และคาเวียร์ในคำเดียว แล้วรสชาติจะลงตัว
Blue Lobster, Celeriac, Blueberry เป็นจานที่เชฟใช้เนื้อล็อบสเตอร์สีฟ้าเสิร์ฟมาดูสวยงามน่ากินพร้อมเซเลอรีแอค บลูเบอร์รีเพียวเร เฮเซลนัท และราดซอสล็อบสเตอร์บิสก์ รสชาติจานนี้น่าสนใจและมีทั้งความนุ่มกรอบ
เราชอบคอร์ส Wild Caught Pollack, Roe, Cabbage มากเป็นพิเศษ เชฟนำปลาพอลล็อกจับธรรมชาติจากแคว้นบริตตานีมาสโลว์คุกในน้ำมัน ก่อนเสิร์ฟพร้อมกะหล่ำปลี เลมอน ไข่ปลาไพค์ และซอสทำจากกระดูกปลา แม้วัตถุดิบจะดูเรียบง่ายแต่รสชาติดีเลยล่ะ
เข้าสู่เมนคอร์สที่มีให้เลือกระหว่างนกพิราบหรือหมูจากภูเขา ซึ่งเราเลือกลองเป็น Bresse Pigeon, Cocoa NIb, Eggplant เนื้อพิราบรมควันใบฟิกซ์ เสิร์ฟพร้อมมะเขือม่วงมิลย์เฟย ผงคาเคานิบส์ ราดซอสจูซ์ทำจากพิราบ
แม้เนื้อพิราบจะนุ่มและรสชาติเข้ากันดี แต่เราอยากบอกว่าจานเนื้อหมูเชฟก็ทำได้ดีน่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน
ก่อนเข้าสู่จานของหวาน ทุกคนจะได้ชิม Selection of Alp’s Cheeses รถเข็นชีส 10 ชนิดที่เชฟอาโนภูมิใจนำเสนอ เพราะเขาคัดเลือกชีสเด็ดๆ จากฝรั่งเศสมาให้ทุกคนลอง มีทั้งชีสนมวัว ชีสนมควาย ชีสนมแกะ และชีสนมแพะ
ส่วนชีสที่ไม่อยากให้ทุกคนพลาดก็คือ บลูชีสชนิดพิเศษที่ไม่มีราสีฟ้า เพราะเชฟอาโนเป็นคนนำมาจากฝรั่งเศสเอง จึงมีเฉพาะที่ Maison Dunand และ Alpea
ปิดท้ายด้วยของหวาน Chocolate, Buckwheat, Mint ที่เสิร์ฟหลังซอร์เบต์เลมอน ไม่น่าเชื่อว่าเชฟจะทำไอศกรีมมินต์ช็อกมาให้กินพร้อมกับช็อกโกแลตสปันจ์ ช็อกโกแลตครีม บักวีตครีม เวลากินแนะนำให้มีทุกองค์ประกอบในแต่ละคำจะเข้ากันดี
และหากใครไม่ใช่ทีมมินต์ช็อกก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเชฟทำรสชาติกลางๆ มาให้กินได้ทุกคน
สำหรับคนที่คุ้นเคยกับเชฟตั้งแต่สมัยอยู่ห้องอาหารริมน้ำรางวัล 2 ดาวมิชลิน เราว่าร้านนี้ทุกคนจะได้เห็นตัวตนของเชฟอาโนในรูปแบบที่เป็นตัวเองขึ้นมากๆ แถมเขายังใส่ทุกอย่างตามประสบการณ์หลายสิบปีในฐานะพ่อครัวอาหารฝรั่งเศสลงไปได้อย่างน่าสนใจในทุกๆ จาน
สำหรับมื้อกลางวัน 5 คอร์ส จะให้บริการเฉพาะสุดสัปดาห์เท่านั้น ส่วนมื้อค่ำ 6 และ 8 คอร์ส จะให้บริการตามวันเวลาปกติที่เปิดให้บริการ
Maison Dunand
Open: เปิดทุกวันพฤหัสบดี-จันทร์ (ปิดวันอังคาร-พุธ) เวลา 12.00-14.30 น. และ 17.30 น. เป็นต้นไป
Address: ซอยสาทร 10
Budget: มื้อกลางวัน 2,600++ บาท, มื้อค่ำ 4,800++ บาท และ 6,900++ บาท (มีไวน์แพริ่ง)
Website: https://maisondunand.com/
Map: https://goo.gl/maps/es2Ciiia4aUn8bYHA
- ภาพวาดบนปกเมนูที่วางอยู่บนโต๊ะเป็นฝีมือของภรรยาเชฟ
- หากเลือกมื้อค่ำ 6 คอร์ส จะไม่มีเมนู Caviar Kristal, Uni, Potato และชีส