ร้านอาหารน้องใหม่ในเครือนาราไทย คูซีน กรุ๊ป บนชั้น 5 ของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ขอนำเสนออาหารที่หยิบเอาความพิถีพิถันในการทำอาหารไทย และความซับซ้อนทางรสชาติของวัตถุดิบ มาประยุกต์เข้ากับเทคนิคการทำอาหารที่ได้แรงบันดาลใจจากเชฟรุ่นใหม่และเชฟส์ เทเบิล เลือกใช้วัตถุดิบพรีเมียม ที่บางจานอาจแปลกตาหรือไม่คุ้นชิน จนเกิดเป็นเมนูอาหารท้องถิ่นที่ผสมกลิ่นอายของคนกรุงอย่าง Bangkokian
เมนูอาหารของที่นี่แน่นอนว่ายังคงเป็นอาหารไทย แต่เป็นอาหารไทยที่ได้รับการประยุกต์ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ซึ่งทางร้านเรียกว่า Progressive Thai Food คุณพิมพ์-พิมพ์พยัพ ศรีกาญจนา หนึ่งในผู้บริหารได้เล่าให้เราฟังว่า ตอนนี้เทรนด์อาหารแบบเชฟส์ เทเบิลกำลังได้รับความนิยม ทางร้านจึงอยากนำเสนออาหารที่มีกลิ่นอายของเชฟส์ เทเบิล ด้วยการอาศัยเทคนิคการทำ ลูกเล่น การนำเสนอ และ Portion ของแต่ละจานที่สามารถสั่งมากินได้คนเดียวหรือกินอิ่มจบในจานเดียว โดยที่ไม่ต้องกินเป็นกับข้าวหรือกินคู่กับข้าวสวย ดังนั้นในเมนูเราจึงเห็นทั้งอาหารกินเล่นที่มีค่อนข้างมาก อาหารจานเดียวที่ใช้วัตถุดิบหลากหลาย และจานแชริ่งที่ถ้าใครอยากกินเป็นจานหลักก็ได้เช่นกัน
Amuse-Bouche คนละ 1 คำ และ The Day After Tomorrow เสิร์ฟให้ทุกคนไม่มีค่าใช้จ่าย
โดยทางร้านจะจัดหมวดอาหารต่างจากเมนูอาหารไทยทั่วไปที่มักแยกด้วยต้ม ผัด หรือทอด แต่ที่นี่จะแบ่งเป็น Appetizer, Salad, Main Dish, Noodles, Pasta, Rice และ Dessert ความพิเศษคือทุกโต๊ะที่เข้ามาจะได้รับ Amuse-Bouche คนละ 1 คำ ซึ่งเสิร์ฟเป็นน้ำพริกหนุ่มมาพร้อมไข่นกกระทาต้มสุกบนแตงกวา โรยหน้าด้วยเบคอนทอดกรอบที่มาในขนาดพอดีคำ และเมื่อกินของคาวเสร็จ ทางร้านจะเสิร์ฟม็อกเทลล้างปากในชื่อ The Day After Tomorrow ที่มีเบสเป็นชา ผสานความเปรี้ยวอมหวาน ก่อนที่จะเข้าสู่ขนมหวาน อีกหนึ่งความพิเศษคือ ทางร้านยังแนะนำไวน์แพริ่งที่สามารถดื่มคู่กับอาหารไทยในร้าน เช่น ต้มข่าหอยตลับอาซาริ มัสมั่นแก้มหมูต้มข่า ยำเนื้อเทนเดอร์ลอยน์ เป็นต้น
ยำโซบะมหานคร (450 บาท) และ เมี่ยงกุ้งกรอบอิงคฺ (350 บาท)
จานที่เราได้ลอง ได้แก่ ต้มข่าหอยตลับอาซาริ (550 บาท) ที่เสิร์ฟหอยล้นชาม รสชาติไม่จัดจ้านจนเกินไป แต่ก่อนกินแนะนำให้บีบมะนาวเพื่อเพิ่มความเปรี้ยวก่อน เมี่ยงกุ้งกรอบอิงคฺ (350 บาท) ที่ได้เท็กซ์เจอร์กรุบกรอบจากกุ้งทอดและกากหมูที่คู่กับน้ำเมี่ยงหวานอมเปรี้ยว สลัดกะหล่ำดาวแก้มหมูและคอหมูย่าง (350 บาท) จานนี้กินเป็นจานหลักได้เลย รสชาติไม่หนักจนเกินไป อุด้งเนื้อตุ๋นสไตล์ไทย (450 บาท) ชามนี้รสจัดจ้านเปรี้ยวนำแบบไทยๆ ยำโซบะมหานคร (450 บาท) โซบะเย็นมาพร้อมกุ้งตัวโต กินกับน้ำซอสไทยผสมญี่ปุ่น รสออกเปรี้ยว เค็ม หวาน พาสต้ากุ้งแม่น้ำย่างผัดซอสมะเขือเทศและแจ่วอีสาน (750 บาท) กุ้งเผาตัวใหญ่และพาสต้าซอสมะเขือเทศที่แอบใส่ปลาร้าดีเล็กน้อยให้พอได้รสอีสาน กรานิตามะม่วงเบาสงขลา (240 บาท) สดชื่นเปรี้ยวหวานมาครบ สาคูน้ำกะทิและมะม่วงน้ำดอกไม้ (280 บาท) ขนมหวานจานเด่นเติมความสดชื่นด้วยไอศกรีมด้านบน
ต้มข่าหอยตลับอาซาริ (550 บาท)
พาสต้ากุ้งแม่น้ำย่างผัดซอสมะเขือเทศและแจ่วอีสาน (750 บาท) และ สลัดกะหล่ำดาวแก้มหมูและคอหมูย่าง (350 บาท)
อุด้งเนื้อตุ๋นสไตล์ไทย (450 บาท)
กรานิตามะม่วงเบาสงขลา (240 บาท) และ สาคูน้ำกะทิและมะม่วงน้ำดอกไม้ (280 บาท)
ส่วนการตกแต่งที่นี่เน้นบรรยากาศสบายๆ คล้ายรีสอร์ต หรือ Beach Vibes ที่โปร่ง โล่ง ทันสมัย เพื่อให้คนที่เดินเข้ามารู้สึกเป็นกันเองและผ่อนคลาย ซึ่งมู้ดภายในร้านจะปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลาในแต่ละวัน เช่น ช่วงเช้าจะเน้นแสงธรรมชาติ ส่วนหลัง 17.00 น. เป็นต้นไป แสงไฟในร้านจะถูกปรับหรี่ลงเพื่อสร้างฟีลปาร์ตี้ที่คึกคักขึ้นมาหน่อย สามารถนั่งสังสรรค์กับเพื่อนฝูงได้ยาวๆ
เครื่องดื่มม็อกเทลดับร้อน
INKA ชั้น 5 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เปิด 11.00-22.00 น. โทร. 0 2160 5988