ASOK Pi SHOP คือร้านอาหารย่านอโศกของสองเชฟ ไมค์ และ เกงกิ เชฟทั้งสองผ่านประสบการณ์ด้านอาหารมาจากการศึกษาต่อและฝึกงานที่อเมริกาและยุโรป ก่อนที่จะกลับมาไทยช่วงปลายปี 2019 และเริ่มต้นปล่อยของด้วยการทำเดลิเวอรีอาหารในปีถัดมา แล้วตัดสินใจเปิดร้านเป็นของตัวเองเมื่อต้นปี 2021 ซึ่งแม้จะเปิดได้เพียงไม่นาน แต่อาหารฝีมือของพวกเขาทำให้เหล่าฟู้ดดี้ตื่นเต้นทุกครั้งที่กลับมาเยือน
สิ่งแรกที่ชวนสงสัย คือ ชื่อร้าน ‘Pi’ มาจากคำไหนกันแน่ จนเชฟมาอธิบายว่าคำนี้ย่อมาจาก Pizza Bread (หรืออีกชื่อคือ Flatbread) ที่เชฟภูมิใจนำเสนอ เพราะแฟลตเบรดของเชฟผ่านการหมักแป้งนานกว่า 3 วัน จนได้เนื้อขนมปังที่มีความหนานุ่ม ทำให้อาหารของที่นี่สามารถรับประทานคู่กับแฟลตเบรดได้แทบทุกเมนูจนกลายเป็นซิกเนเจอร์ของร้านเลยก็ว่าได้
เชฟตั้งใจให้ร้านตกแต่งเหมือนห้องนั่งเล่น เพราะฉะนั้นบรรยากาศร้านและการตกแต่งจึงค่อนข้างเป็นกันเอง แต่งตัวได้ตามสบาย ดื่มด่ำกับบทสนทนาบนโต๊ะอาหารกับคนรู้ใจหรือก๊วนเพื่อนฝูง ท่ามกลางบรรยากาศชิลๆ และไฟสลัว โดยมีจุดพักสายตาเป็นครัวเปิด หากหันหน้าเข้าหาครัว การนั่งดูเตาอบไฟโหมกระหน่ำหรือการจัดจานของเชฟก็น่าสนุกและฆ่าเวลาได้ดีเหมือนกันนะ
สไตล์อาหารของ ASOK Pi SHOP นั้น เชฟให้คำจำกัดความว่าเป็น ‘Progressive Asado’ หรือก็คือการเน้นการย่างเป็นหลัก (Asado) ทั้งฟืนไม้และฟืนถ่าน ซึ่งไม่ได้จำกัดวัตถุดิบและความสร้างสรรค์ ซึ่งจะปรับเปลี่ยนเมนูไปเรื่อยๆ ทั้งตามใจเชฟและตามฤดูกาลของวัตถุดิบ
เริ่มต้นด้วยของกินเล่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากร้านอาหารในสิงคโปร์ BURNT-ENDZ Bone Marrow Bun (385 บาท) ขนมปังมันฝรั่งยัดไส้ไขกระดูก อบจนสุกแล้วขูดพาร์เมซานโรยให้ทั่ว แล้วค่อยกัดคำใหญ่พร้อมกัน
ต่อด้วย (ภาพซ้าย) Foie Gras / Brioche / Truffle (670 บาท) ขนมปังบริยอชท็อปด้วยฟัวกราส์ที่เชฟบีบไหลเป็นเส้น และเพิ่มความหอมด้วยเห็ดทรัฟเฟิล
(ภาพขวา) Goro Mussel Au Gratin (585 บาท) หอยแมลงภู่ซอสแชมเปญอบชีส อีกหนึ่งของกินเล่นเอาใจสายซีฟู้ด
ขยับไปที่เมนูอาหารทะเลแบบเต็มปากเต็มคำ ลองสั่ง Scallop a la Ama (850 บาท) หอยเชลล์ฮอกไกโดย่าง คลุกเคล้าในซอสครีมรสเผ็ดนัว ผสมแฮมกับกุ้งเพื่อเพิ่มรสสัมผัส แล้วเคลือบทั้งหมดด้วยเกล็ดขนมปังสมุนไพร
มาถึงจานเนื้อกันบ้าง Wagyu Flat Iron / Holzhofer / Shishito (1,350 บาท) เนื้อวากิวหมักสูตรลับเฉพาะของร้าน ย่างด้วยเตาถ่าน เสิร์ฟพร้อมซอสชีสที่บ่มในถังเบียร์และพริกญี่ปุ่นรสเผ็ดร้อนอ่อนๆ
อย่าลืมสั่งแฟลตเบรดไว้กินคู่กับอาหารจานอื่น หรือจะเก็บไว้กินเพลินๆ เรียกน้ำย่อยก็ระวังหมดไม่รู้ตัว เชฟแนะนำให้ลองซิกเนเจอร์ที่ขายดีตลอดกาลอย่าง Cheese City (580 บาท) ที่หน้าตาคล้ายคาโบนารา เพราะมีไข่เป็ดแดงออร์แกนิกตรงกลาง ล้อมรอบด้วยชีสมอสซาเรลลา ทาเลกกิโอ และพาร์เมซาน ไหนจะเห็ดทรัฟเฟิล กับแฮมแก้มหมู แล้วจะไม่ให้หลงได้อย่างไร
อีกเมนูแฟลตเบรดยอดนิยม คือ Reverse Nippon (650 บาท) เบสด้วยแยมมะเขือเทศ ไส้กรอกเอนดูย่า แล้วราดชีสสด ขูดชีสฝอยโรยให้ทั่วพร้อมน้ำมันมะกอกก็เป็นอันเสร็จพิธี
ASOK Pi SHOP
Open: วันอังคาร-เสาร์ เวลา 16.00-20.00 น.
Address: ซอยสุขุมวิท 23
Budget: 1,500-3,000 บาท
Contact: 08 8979 5436
Website: https://instagram.com/asok.pishop
Map: https://goo.gl/maps/BybwYr3ZQ16V9Vxd7