เป็นปีที่ 11 ติดต่อกันแล้วที่ สวิตเซอร์แลนด์ ครองตำแหน่งประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันด้านบุคลากรสูงที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของ IMD World Talent Ranking 2024 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและเสถียรภาพของตลาดแรงงานในสวิตเซอร์แลนด์แม้ว่าโลกการทำงานกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
การจัดอันดับนี้วัดผลการดำเนินงานของประเทศต่างๆ ทั่วโลกในการรักษาและพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถ โดยในปีนี้มีการรวบรวมข้อมูลจากทั้งแบบสำรวจและข้อมูลจริงจาก IMD World Competitiveness Center และแหล่งข้อมูลภายนอกใน 64 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก
10 อันดับแรกของประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันด้านบุคลากรสูงที่สุดในโลก
- สวิตเซอร์แลนด์
- สิงคโปร์
- ลักเซมเบิร์ก
- สวีเดน
- เดนมาร์ก
- ไอซ์แลนด์
- นอร์เวย์
- เนเธอร์แลนด์
- ฮ่องกง
- ออสเตรีย
ประเทศในยุโรปครองอันดับส่วนใหญ่ในปีนี้ โดยมีถึง 8 ประเทศที่ติด 10 อันดับแรก ในขณะที่เอเชียมี 2 ประเทศ คือ สิงคโปร์และฮ่องกง
สหรัฐอเมริกาหลุดจาก 10 อันดับแรก และตกลงมาอยู่อันดับที่ 21 ในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความน่าดึงดูดใจ สหรัฐฯ ตกลงจากอันดับ 2 ในปี 2020 มาอยู่อันดับที่ 14 ในปี 2024 ซึ่งได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงและอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังตกลงในด้านความพร้อมของบุคลากรมาอยู่อันดับที่ 32 ในปีนี้ โดยได้รับการจัดอันดับว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในด้านทักษะภาษา
สำหรับสวิตเซอร์แลนด์ยังคงครองตำแหน่งผู้นำด้านความสามารถในการแข่งขันด้านบุคลากร โดยเป็นอันดับหนึ่งมาตั้งแต่เริ่มมีการจัดอันดับในปี 2014 ประเทศนี้โดดเด่นในด้านการลงทุนและการพัฒนา รวมถึงปัจจัยด้านความน่าดึงดูดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านคุณภาพชีวิต, โครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพ, การศึกษาในมหาวิทยาลัย และความสามารถในการดึงดูดบุคลากรที่มีทักษะสูงจากต่างประเทศ
ขณะที่สิงคโปร์ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่โดดเด่นในปีนี้ โดยไต่ขึ้นมาจากอันดับที่ 18 ในปี 2014 มาอยู่อันดับที่ 2 ในปีนี้ ซึ่งอาจเป็นความท้าทายต่อการครองตำแหน่งผู้นำของสวิตเซอร์แลนด์ในอนาคตอันใกล้
การเติบโตอย่างต่อเนื่องของสิงคโปร์ได้รับแรงหนุนจากความพร้อมของบุคลากร ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับ 1 นอกจากนี้สิงคโปร์ยังแสดงให้เห็นถึงการไม่มีการเลือกปฏิบัติ และอยู่ในอันดับต้นๆ ในด้านการเติบโตของกำลังแรงงาน ความพร้อมของแรงงานที่มีทักษะ และความพร้อมของทักษะทางการเงิน
รายงานของ IMD World Talent Ranking 2024 ยังเน้นย้ำถึงผลกระทบของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ต่อตลาดแรงงานทั่วโลก
“การนำ AI มาใช้อย่างรวดเร็วกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่างๆ และปรับโฉมเศรษฐกิจโลกในรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สร้างทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับความสามารถในการแข่งขันด้านบุคลากร” José Caballero นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ IMD World Competitiveness Center กล่าว
“ในขณะที่ AI สามารถนำมาซึ่งประสิทธิภาพที่เหนือชั้น แต่ก็เป็นภัยคุกคามต่อการแทนที่งานจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนที่ต้องพึ่งพางานประจำและระบบอัตโนมัติ”
รายงานยังพบว่าผู้บริหารระดับสูงในญี่ปุ่น, ไทย, สิงคโปร์, สหราชอาณาจักร และแคนาดา มองว่าสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการมีอยู่ของ AI ในที่ทำงานอย่างชัดเจนที่สุด คือการที่ AI กำลังเข้ามารับหน้าที่แทนพนักงานที่เป็นมนุษย์ นอกจากนี้ยังพบว่าการเลือกปฏิบัติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในประเทศเหล่านี้
“การนำ AI เข้ามาใช้อาจนำไปสู่การเลือกปฏิบัติรูปแบบใหม่ เช่น อัลกอริทึมที่มีอคติ ซึ่งอาจเสริมสร้างความไม่เท่าเทียมที่มีอยู่เดิม และส่งผลกระทบทางสังคมในวงกว้างต่อชุมชนที่ด้อยโอกาส” Caballero กล่าวในรายงาน
ตัวอย่างเช่น รายงานพบว่าการจ้างงานของผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากระบบอัตโนมัติมากกว่าผู้ชายถึงสองเท่า (7.9% เทียบกับ 2.9%) ในประเทศที่มีรายได้สูง
อ้างอิง: