×

ชีวิต ความตาย และความปรารถนาครั้งสุดท้ายของชายที่กำลังจะจากไป

24.03.2024
  • LOADING...

ไม่มีอะไรที่สวยงามไปกว่านี้

 

การได้เดินจูงมือตัวนำโชคเด็กน้อยลงสู่สนามท่ามกลางแฟนฟุตบอลกว่า 60,000 คนที่เข้ามาชมเกมการแข่งขันนัดพิเศษ ใต้ท้องฟ้าที่แสนสดใส

 

ได้ฟังบทเพลง You’ll Never Walk Alone ที่ดังกระหึ่ม

 

ได้นั่งคุมทีมที่เป็นทั้งความรัก ความฝัน และความทรงจำตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย ในเกมที่สนุกสนานเกินความคาดหมายและได้รับชัยชนะในบั้นปลาย

 

สำหรับทุกสิ่งที่ได้รับมา สเวน-โกรัน อีริกส์สัน ใช้หยาดน้ำตาพูดแทนความรู้สึกของเขาไปหมดแล้วในระหว่างการเดินขอบคุณทุกคนรอบสนาม

 

เพียงแต่เขาไม่ได้เป็นผู้รับเพียงอย่างเดียวในเกมนี้

 

อดีตผู้จัดการทีมดังชาวสวีเดนยังได้มอบบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญให้แก่ทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในสนาม ชมเกมอยู่ทางบ้าน หรือต่อให้ไม่ได้เป็นแฟนลิเวอร์พูลแต่ได้ดูเรื่องราวและบรรยากาศตั้งแต่ก่อนเกมจนเกมจบลง

 

 

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

A post shared by Liverpool Football Club (@liverpoolfc)

แอนฟิลด์ได้ต้อนรับแขกคนพิเศษ

 

เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ทีมลิเวอร์พูลจะใช้ช่วงเวลาที่ว่างจากโปรแกรมระดับสโมสรในช่วงเดือนมีนาคมเพื่อจัดเกมการกุศลนัดพิเศษในนามของมูลนิธิลิเวอร์พูล (Liverpool Foundation)

 

ต้นธารของเรื่องราวเกิดจากการที่มีการรวมตัวกันของนักเตะดาวดังในอดีตที่มักจะได้รับเชิญให้ไปแข่งขันที่โน่นที่นี่ซึ่งก็รวมถึงในประเทศไทยด้วยแต่การรวมตัวเหล่านั้นไม่ได้มีส่วนเชื่อมโยงกับสโมสรโดยตรงเสียทีเดียว

 

แต่ก็พอจับกระแสได้ว่านักฟุตบอลเก่าที่อาจหมดอายุในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ไม่ได้แปลว่าคุณค่าของพวกเขาจะหมดลงไปด้วย ยังคงมีแฟนฟุตบอลที่ยังรักมั่นในนักเตะเหล่านี้อยู่

 

จุดประกายสำคัญเกิดขึ้นในปี 2015 ปีที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด ตำนานผู้ยิ่งใหญ่ของสโมสรประกาศว่า เขาจะอำลาทีมหลังจบฤดูกาลเพื่อเดินทางต่อในบั้นปลายชีวิตที่สหรัฐอเมริกา หนึ่งในกิจกรรมอำลาคือเกมการกุศลนัดพิเศษระหว่างทีม Gerrard XI ของเขากับทีม Carragher XI ของ เจมี คาร์ราเกอร์ ที่ประกาศอำลาทีมไปก่อนหน้านั้น

 

วันนั้นเกมจัดขึ้นที่สนามแอนฟิลด์โดยมีซูเปอร์สตาร์ขวัญใจทีมอย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ หลุยส์ ซัวเรซ กลับมาเล่นร่วมกับเจอร์ราร์ดด้วย ซึ่งเกมประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในแง่ของความสุขของทุกฝ่าย เงินที่ได้รับบริจาคเพื่อช่วยการกุศล และในแง่ของการรับรู้

 

นับจากนั้นเป็นต้นมาลิเวอร์พูลตัดสินใจว่าสโมสรควรจะเป็นเจ้าภาพของเกมการกุศลเอง ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2017 โดยจัดทีมตำนานลิเวอร์พูล (Liverpool Legends) พบกับตำนานเรอัล มาดริด (Real Madrid Legends)

 

การแข่งขันเกมตำนานเกิดขึ้นทุกปี โดยมีตำนานนักเตะหมุนเวียนเปลี่ยนกันมา ซึ่งในทีมนอกจากซูเปอร์สตาร์ขวัญใจแฟนๆ และนักเตะที่อาจไม่ได้เป็นสตาร์แต่อย่างน้อยก็เคยรับใช้สโมสรเป็นครอบครัวเดียวกันซึ่งสำคัญที่สุดคืออดีตนักเตะเหล่านี้เล่นในตำแหน่งที่สตาร์ไม่เล่นหรือเล่นไม่ได้ด้วย

 

แต่สำหรับปี 2024 พวกเขาได้ต้อนรับแขกพิเศษ

 

Sven-Göran Eriksson

สเวน-โกรัน อีริกส์สัน กับความฝันสุดท้ายที่เป็นความจริง

 

แขกคนดังกล่าวคือ สเวน-โกรัน อีริกส์สัน อดีตผู้จัดการทีมระดับตำนานของวงการที่ประสบความสำเร็จมามากมายในโลกลูกหนัง โดยเฉพาะการนำลาซิโอ คว้าแชมป์เซเรียอาได้ในปี 1999 ที่ถือเป็นจุดสูงสุดของชีวิต ก่อนจะกลายเป็นผู้จัดการทีมชาวต่างชาติคนแรกที่ได้คุมทีมชาติอังกฤษ

 

ในเกมนี้สเวนได้โอกาสมานั่งคุมทีมข้างสนามในเกมที่ตำนานลิเวอร์พูลได้ต้อนรับตำนานอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในฐานะหนึ่งในทีมจัดการร่วมกับ จอห์น บาร์นส์, เอียน รัช และ จอห์น อัลดริดจ์ ในฐานะตำนานแห่งแอนฟิลด์

 

แต่ความจริงแล้วสเวนไม่ได้เป็นอดีตนักเตะของลิเวอร์พูล แน่นอนไม่เคยคุมทีมด้วย ถ้าว่ากันตามศักดิ์และสิทธิ์แล้วเขาไม่น่าจะได้โอกาสมาอยู่ตรงนี้

 

เพียงแต่บางครั้งมันมีสิ่งที่สำคัญมากกว่าจะมาคิดถึงเรื่องเหล่านั้น

 

และการที่สเวนได้มานั่งคุมทีมอยู่ที่ข้างสนามนั้น ผมคิดว่าเราน่าจะพอพูดได้ว่าเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่งดงามที่สุดสมดังชื่อ ‘The Beautiful Game’

 

จุดเริ่มต้นจากการเปิดเผยข่าวร้ายของอดีตกุนซือชื่อดังชาวสวีดิชผู้ใช้ชีวิตอย่างโลดโผนเต็มเหนี่ยวตลอดมา ว่าเขาได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งตับอ่อน

 

โดยที่ไม่มีโอกาสที่เขาจะได้ต่อสู้กับโรคด้วยซ้ำ เพราะเนื้อร้ายนั้นอยู่ในระยะสุดท้ายแล้ว

 

สเวนจะเหลือเวลาบนโลกนี้อย่างมากที่สุดก็อาจจะหนึ่งปีหรือไม่ถึง

 

แต่ด้วยความเข้มแข็งของหัวใจ รอยยิ้มของคนที่ยอมรับโชคชะตา สเวนได้รับกำลังใจจากคนทั้งโลกที่รู้ว่าใต้รอยยิ้มนั้นลึกๆ แล้วย่อมมีความเจ็บปวดที่ไม่สามารถอธิบายเป็นถ้อยคำได้

 

ในช่วงเวลานั้นสเวนได้รับการติดต่อพูดคุยกับสื่อหลายที่ มีหลายเรื่องราวที่เขาเปิดเผยและเปิดใจ หนึ่งในนั้นคือความรักของเขาที่มีต่อลิเวอร์พูล รักแรกและรักเดียวที่ไม่เคยเปิดเผยให้คนนอกได้รู้มาก่อน

 

ความรักนี้ได้กลายเป็นกระแสเรียกร้องจากแฟนฟุตบอลทั่วโลกบนโซเชียลมีเดีย

 

ขอโอกาสให้สเวนได้นั่งคุมทีมลิเวอร์พูลสักครั้งได้ไหม?

 

เสียงเรียกร้องนี้ดังไปถึง เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีมคนปัจจุบันที่กำลังจะอำลาทีมหลังจบฤดูกาลนี้ ที่ตอบรับด้วยความยินดีว่ามาสิ

 

ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะติดต่อกลับไปและยืนยันว่าสเวนจะร่วมเป็นหนึ่งในทีมจัดการในเกมของเหล่าตำนาน

 

ท่ามกลางเสียงปรบมือในใจของทุกคน

 

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

A post shared by Liverpool Football Club (@liverpoolfc)

เจอร์เกน คล็อปป์ เปิดประตูต้อนรับสเวนด้วยความเต็มใจ

 

การคุมลิเวอร์พูลของเขาครั้งแรกและครั้งเดียวจบลงด้วยชัยชนะที่สวยงาม เมื่อทีมพลิกสถานการณ์จากตามหลังอาแจ็กซ์ 2-0 ในครึ่งแรกกลับมาพลิกเอาชนะได้ 4-2 ในช่วงครึ่งเวลาหลัง โดยที่คนยิงประตูปิดท้ายคือ เอลนีโญเฟร์นานโด ตอร์เรส ยอดขวัญใจที่เหล่าเดอะ ค็อปเฝ้ารอตลอดมา

 

เพียงแต่สิ่งที่ดีที่สุดไม่ใช่เรื่องของผลการแข่งขัน แต่เป็นทุกช่วงเวลานาทีที่สเวนเดินทางมาถึงลิเวอร์พูล

 

ทั้งหมดล้วนเป็นความทรงจำที่ดีสำหรับทุกคน ไม่เฉพาะตัวของเขาเอง

 

หากใครได้ฟังการสัมภาษณ์จะสัมผัสได้ว่าสเวนรู้สึกซาบซึ้งต่อทุกสิ่งที่เขาได้รับ โดยเฉพาะโอกาสในการได้ทำหน้าที่กับทีมที่เขาเชียร์ตามคุณพ่อมาตั้งแต่เด็กๆ

 

แม้ว่ามันจะไม่ใช่การคุมทีมจริงในเกมการแข่งขันจริงๆ แต่มันคือการได้นั่งอยู่ข้างสนามแอนฟิลด์ต่อหน้าแฟนลิเวอร์พูลจริงๆ มันคือเรื่องจริง

 

ผมร้องไห้ เพราะมันช่างสวยงาม การได้นั่งที่ม้านั่งของลิเวอร์พูลเป็นความฝันชั่วชีวิตของผม และตอนนี้มันได้เกิดขึ้นจริงแล้ว วันนี้เป็นวันที่งดงามในทุกสิ่งทุกอย่าง

 

ที่ผ่านมาเขาเคยนั่งคุมทีมข้างสนามที่แอนฟิลด์มาบ้าง ซึ่งรวมถึงในเกมที่อังกฤษพิชิตฟินแลนด์ได้ในปี 2001 – เกมที่ ยารี ลิตมาเนน หนึ่งในตำนานที่ได้ลงสนามให้ทั้งอาแจ็กซ์และลิเวอร์พูล ได้รับบาดเจ็บข้อมือหักแต่นั่นเป็นการทำหน้าที่ในบทบาทผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ

 

ถ้อยคำของเขาแทนความรู้สึกขอบคุณที่ทุกคนได้ให้โอกาสแก่ชายคนหนึ่งที่เหลือเวลาบนโลกใบนี้อีกไม่นานเท่าไร ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นต้องสนใจก็ได้

 

ขอบคุณลิเวอร์พูลที่มอบโอกาสครั้งนี้ให้แก่ผมสเวนบอก และย้ำว่าวันนี้จะเป็นความทรงจำที่ยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดในชีวิตของเขา

 

ในช่วงของ Lap of Honour หลังจบการแข่งขันสเวนที่ไม่ได้ดูแข็งแรงมากนัก แต่ยังแข็งแรงพอที่จะพยายามเดินไปรอบสนามเพื่อขอบคุณแฟนๆ และโบกมือทักทายทุกคนที่มาร่วมงานบุญในวันนี้

 

เพียงแต่สเวนไม่ได้มาเพื่อเป็นผู้รับอย่างเดียว

 

เขายังได้ส่งต่อหลายสิ่งหลายอย่างกลับคืนสู่ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความทรงจำ การพิสูจน์ให้เห็นว่าความฝันไม่มีวันหมดอายุ

 

และบทเรียนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดของชีวิตของเขาที่ใช้ได้กับทุกคน

 

บทเรียนนั้นสเวนได้ถ่ายทอดไว้ให้ผ่านการสัมภาษณ์ในช่วงก่อนถึงวันแข่งขัน ถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดนับจากที่ได้รับการพิพากษาโทษประหารชีวิตจากใครก็ตามสักคนบนฟ้าที่คิดว่าเขาอยู่มานานมากพอแล้ว

 

ว่าการลืมตาตื่นในทุกเช้าโดยไม่เจ็บปวดคือพรที่ดีที่สุดแล้ว

 

สำหรับคนที่รู้ว่าเวลาในชีวิตเหลือเพียงไม่ถึงปี สเวนที่ช็อกเมื่อรู้ตัวแต่ค่อยๆ เรียนรู้และค้นพบว่าสิ่งที่สำคัญและมีความหมายที่สุดไม่ใช่เรื่องของวันพรุ่งนี้หรือวันข้างหน้า

 

แต่คือวันนี้ ตอนนี้

 

คนเราควรมีความสุขแค่ชั่วเข็มวินาทีที่เดินไป

 

ส่วนตัวเขาถือว่าชั่วชีวิตนี้ดีและงดงามมากพอแล้ว

 

ในเกมตำนานลิเวอร์พูลปีหน้า ไม่มีใครรู้ว่าสเวนจะมีโอกาสได้เดินทางมาอีกไหม หรือจะได้ดูเกมนี้อยู่ที่ใดในโลกหรือเปล่า

 

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในหนึ่งวันมหัศจรรย์นี้จะอยู่ในความทรงจำของทุกคนไปอีกนานเท่านาน

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising