วันนี้ (26 สิงหาคม) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์ไฟป่าในเขตแอมะซอน ผืนป่าขนาดใหญ่ในบราซิลที่ได้รับฉายาว่าเป็น ‘ปอดของโลก’ กำลังเผชิญวิกฤตไฟป่ารุนแรงสุดในรอบ 15 ปี โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา หน่วยงานด้านอวกาศและภูมิศาสตร์ของบราซิลอย่าง INPE เผยว่า ดาวเทียมตรวจพบไฟป่ามากถึง 3,358 จุดในผืนป่าแอมะซอน นับเป็นสถิติที่มากที่สุดในช่วง 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2007
ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า นอกจากภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศแล้ว สาเหตุหลักของไฟป่าในแอมะซอนยังมาจากการทำการเกษตรและปศุสัตว์ผิดกฎหมาย การเตรียมที่ดินทำกินและการจุดไฟเผาป่าเผาต้นไม้ ซึ่งโดยทั่วไปเดือนสิงหาคมถือเป็นฤดูไฟป่า เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและแห้งแล้งมากยิ่งขึ้น
โดย INPE ได้ตรวจพบไฟป่า 5,373 จุด เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วถึง 8% และในเดือนสิงหาคมปีนี้ INPE ตรวจพบไฟป่าไปแล้ว 24,124 จุด ตลอดทั้งเดือนนี้ ซึ่งนับเป็นฤดูไฟป่าที่รุนแรงที่สุดภายใต้การบริหารประเทศของประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ที่เข้ารับตำแหน่งผู้นำบราซิลตั้งแต่เดือนมกราคม 2019
โบลโซนารู ผู้นำฝ่ายขวาของบราซิล เป็นผู้มีความใกล้ชิดกับภาคธุรกิจและการลงทุน จนได้รับฉายาว่าเป็น โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งบราซิล เขาจึงสนับสนุนการแปลงพื้นป่าให้เป็นพื้นที่การลงทุน ตลอดระยะเวลาการบริหารประเทศของเขา อัตราการตัดไม้ทำลายป่าในแอมะซอนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเขากำลังขอโอกาสและคะแนนเสียงจากประชาชนชาวบราซิลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีบราซิลต่ออีกสมัย ซึ่งการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ เชื่อมโยงและเกี่ยวพันกับประเด็นของผืนป่าแอมะซอนไม่มากก็น้อย
ภาพ: Nelson Almeida / AFP
อ้างอิง:
