วันนี้ (8 มกราคม) ศุภโชติ ไชยสัจ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงสัญญารับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาด 3,600 เมกะวัตต์ ที่สังคมตั้งคำถามถึงข้อพิรุธของกระบวนการว่าส่อเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุนพลังงาน หากปล่อยผ่านจะทำให้ค่าไฟของคนไทยแพงต่อไปอีก 25 ปี
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติชะลอรับซื้อ แต่ไม่มีกรอบเวลาชัดเจนว่าจะชะลอถึงเมื่อไร ขณะที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะผู้ดำเนินการรับซื้อไฟฟ้ารอบนี้ ยังไม่มีการประกาศใดๆ ที่ตอบสนองมติของ กพช.
ศุภโชติกล่าวว่า นอกจากเรื่องกรอบเวลาที่ยังไม่ชัดเจนและการเรียกร้องให้ กกพ. ตอบสนองมติของ กพช. อีกประเด็นซึ่งยังคลุมเครือ คือถ้าดูรายละเอียดของมติ กพช. ที่ระบุว่าชะลอการรับซื้อ ‘เพื่อดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง’ จะเห็นความกำกวมว่าหมายถึงตรวจสอบความถูกต้องของอะไรกันแน่ ระหว่าง
- ตรวจสอบความถูกต้องของกระบวนการ ถ้าให้ตรวจความถูกต้องของ กกพ. ซึ่งเป็นคนรับซื้อ ก็ต้องถูกอยู่แล้ว เพราะ กกพ. ดำเนินการรับซื้อพลังงานสะอาดรอบ 3,600 เมกะวัตต์นี้ตามมติ กพช.
- ตรวจสอบความถูกต้องของนโยบาย เป็นสิ่งที่พรรคประชาชนพูดมาตลอดว่านโยบายของรัฐมีปัญหา ทั้งการกำหนดราคารับซื้อไฟฟ้าที่มีราคาแพงกว่าที่ควรจะเป็น การปิดกั้นการแข่งขันของผู้เล่นรายใหม่ รวมถึงมีวิธีการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดในรูปแบบอื่นที่ตอบโจทย์กลุ่มอุตสาหกรรมและไม่เป็นภาระต่อประชาชนมากกว่า อย่างการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโดยตรงระหว่างผู้ใช้ไฟฟ้าหรือโรงงานที่ผลิตสินค้ากับผู้ผลิตไฟฟ้าสะอาด (Direct PPA)
“จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ตลอดจนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและคณะกรรมการ กพช. ออกมติเพื่อกำหนดนโยบายใหม่ให้เข้ากับบริบทปัจจุบัน เช่น ออกมติยกเลิกการรับซื้อครั้งนี้ แล้วมาเพิ่มโควตา Direct PPA แทน เพราะสามารถทำให้ประเทศไทยเพิ่มสัดส่วนของพลังงานสะอาดได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ต้องจ่ายค่าไฟแพงเกินกว่าที่ควรจะเป็น” ศุภโชติกล่าว