×

ซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 55 ศึกระหว่าง เบรดี กับ มาโฮมส์ ผู้ท้าชิงบัลลังก์ระดับตำนาน

03.02.2021
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

9 mins. read
  • ซูเปอร์โบวล์ ครั้ง 55 ในช่วงเช้าวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ตามเวลาไทย จะเป็นการพบกันระหว่างแทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส พบกับ แชมป์เก่า แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์   
  • ซูเปอร์โบวล์ครั้งนี้ที่สนาม เรย์มอนด์ เจมส์ สเตเดียม บ้านของบัคคาเนียร์ส นับเป็นครั้งแรกในรอบ 54 ปีที่ทีมเจ้าบ้านผ่านเข้ามาชิงแชมป์ 
  • ศึกครั้งนี้ระหว่าง แพทริก มาโฮมส์ ยอดควอเตอร์แบ็กวัย 25 ปี แชมป์เก่า กับ ทอม เบรดี เจ้าของแชมป์ 6 สมัย ซึ่งแก่กว่า 18 ปี ถือเป็นสงครามชี้วัดตำนานยุคต่อไปของ NFL ต่อจากนี้
  • เรย์มอนด์ เจมส์ สเตเดียม ครั้งนี้ ให้การต้อนรับแฟนกีฬาทั้งหมด 25,000 คน น้อยสุดของประวัติศาสตร์ซูเปอร์โบวล์
  • โดยโควตาของแฟนกีฬาส่วนหนึ่งแบ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมด 7,500 คนที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว เพื่อเป็นการขอบคุณการทำงานอย่างหนัก ในแนวหน้าของการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 

แพทริก มาโฮมส์ เพิ่งอายุแค่ 6 ขวบ สมัย นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ พลิกล็อกเชือด เซนต์หลุยส์ แรมส์ 20-17 คว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ ครั้ง 36

 

จากนั้นเขายังได้เห็น ทอม เบรดี นำทัพ เพเทรียตส์ เข้าแข่งบนเวทีใหญ่สุดของลีกอีกหลายต่อหลายครั้ง

 

ไม่น่าแปลกใจ ถ้าจะเห็นมาโฮมส์กล่าวติดตลก ราวกับเบรดีแข่งซูเปอร์โบวล์มาชั่วกัปชั่วกัลป์

 

“การได้เตรียมสู้กับหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ ถ้าไม่ใช่ควอร์เตอร์แบ็กเก่งสุดตลอดกาลก็ใกล้เคียงในซูเปอร์โบวล์ ครั้ง 150 ของเขา ถือเป็นประสบการณ์สุดยอดสำหรับผม”

 

มาโฮมส์ อายุเพิ่ง 25 ปี เตรียมปะทะกับ เบรดี ซึ่งแก่กว่า 18 ปี ที่ เรย์มอนด์ เจมส์ สเตเดียม บ้านของบัคคาเนียร์ส

        

“ได้ลงไปและมีโอกาสป้องกันตำแหน่งแชมป์กับคู่แข่งระดับสุดยอด ผมถือว่าเป็นเรื่องพิเศษ และผมตื่นเต้นกับโอกาสแบบนี้”

           

เขาเพิ่งเป็นตัวจริงฤดูกาลที่สาม กลับได้แหวน ซูเปอร์โบวล์ มาสวมแล้ววงหนึ่ง หลังจาก ชีฟส์ แซงช็อก ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตี้ ไนน์เนอร์ส เมื่อซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 54 

 

 

มาโฮมส์เคยแข่งกับเบรดีตลอดอาชีพสี่เกม ผลัดกันชนะฝ่ายละสอง

 

แต่พวกเขายังไม่เคยเจอกันในเกมใหญ่ระดับนี้ โดยมีควอร์เตอร์แบ็กน้อยรายมากสู้กับเบรดีในซูเปอร์โบวล์แล้วเอาชนะได้

 

นับดูดีๆ ก็แค่สองคน นั่นคือ อีลาย แมนนิง ควอร์เตอร์แบ็ก นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ซึ่งเล่นงานเบรดีถึงสองหน และ นิก โฟลส์ ทำได้ตอนเล่นให้ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์

 

ส่วนควอร์เตอร์แบ็กที่ตกเป็นเหยื่อเบรดีในซูเปอร์โบวล์มีมากกว่า

 

รวมแล้วหกคน เริ่มตั้งแต่ เคิร์ต วอร์เนอร์ ของแรมส์, เจ็ค เดลโลห์ม ของ แคโรไลนา แพนเธอร์ส, โดโนแวน แม็คแน็บบ์ ของ อีเกิลส์, รัสเซลล์ วิลสัน ของ ซีแอตเทิล ซีฮอว์กส, แมตต์ ไรอัน ของ แอตแลนตา ฟอลคอนส์ และล่าสุด เจเร็ด กอฟฟ์ ของ แอลเอ แรมส์

           

ชื่อเสียงในบั้นปลายของมาโฮมส์ อาจจะขึ้นกับผลแข่งเช้าวันจันทร์นี้ตามเวลาไทย

        

นี่คือ NFL ในเวอร์ชัน ไมเคิล จอร์แดน ปะทะ เลอบรอน เจมส์ ก็ว่าได้

        

เบรดีได้รับการยกย่องว่าเป็น GOAT (Greatest of All Time) โดยมาโฮมส์ก็อาจเป็นควอร์เตอร์แบ็กอีกเพียงรายเดียวจะยกสถานะตัวเองขึ้นไปทัดเทียมกัน

        

เขาอายุยังน้อย และเริ่มต้นอาชีพได้ยอดเยี่ยมสุดตั้งแต่ คารีม อับดุล-จาบ์บาร์ แต่ไม่ว่ามาโฮมส์จะประสบความสำเร็จอีกแค่ไหน ต่อให้คว้าแชมป์ห้าปีซ้อน เขาก็คงยากจะเป็น GOAT คนต่อไป

 

ซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 55 ศึกระหว่าง เบรดี กับ มาโฮมส์ ผู้ท้าชิงบัลลังก์ระดับตำนาน

        

ถ้าเกิดปราชัย เท่ากับเขาจะแพ้เบรดี ทั้งเกมชิงแชมป์เอเอฟซี ต่อด้วยซูเปอร์โบวล์ พร้อมทำให้เบรดีกวาดแชมป์เจ็ดสมัย มันยากมากถ้าหวังทาบรัศมี

        

ควอร์เตอร์แบ็กที่แข่งซูเปอร์โบว์มากสุดลำดับสองรองจาก เบรดี (10) ก็คือ จอห์น เอลเวย์ ห้าสมัย

        

เบรดีแข่งชิงแชมป์คอนเฟอร์เรนซ์ รวม 14 ครั้ง โจ มอนทานา ขวัญใจวัยเด็กของเขายังเคยแข่งเพียง 7 หน และชัยชนะเพลย์ออฟ 33 ครั้ง ทิ้งห่างอันดับสองอย่างมอนทานา (16) เป็นเท่าตัว

        

ถ้าชนะซูเปอร์โบวล์อีกหน เบรดีก็จะได้แชมป์มากกว่ามอนทานารวมกับเอลเวย์ซะอีก

 

        

เขายิ่งใหญ่ราวกับ แกรนด์ แคนยอน แค่รูปถ่ายใบเดียว ไม่สามารถบรรยายความอลังการออกมาได้หมด

 

ในทางกลับกัน เกิดมาโฮมส์และชีฟส์คว้าชัย จะถือเป็นรางวัลที่หายากยิ่ง ปราบเบรดีในซูเปอร์โบวล์ พร้อมทั้งลดช่องว่างจำนวนแชมป์ของสองคน เหลือแค่แหวนสี่วง

        

ชีฟส์ยังจะกลายเป็นแชมป์ซูเปอร์โบวล์สองปีซ้อน นับจากเพเทรียตส์ เมื่อ 2003-2004 ไม่เคยมีช่วงเวลาการป้องกันแชมป์ไม่ได้นานขนาดนี้ของ NFL

           

เท่านั้นไม่พอ มาโฮมส์อาจเข้าไปหลอนในความคิดเบรดีให้มีช่วงปลายอาชีพอย่างไม่เป็นสุขก็เป็นได้ ถ้าวัดจากที่เบรดีเคยอวยพรส่งแมนนิงในวันรีไทร์เมื่อปีก่อน

        

เบรดีทวีตถึงแมนนิงว่า “ขอแสดงความยินดีกับการรีไทร์ของคุณ มีอาชีพที่สุดยอดมากเลย อีลาย! แต่ก็ไม่โกหกนะ ผมไม่อยากให้คุณได้แชมป์ซูเปอร์โบวล์สักหน”

           

แมนนิงเพิ่งให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Forbes เมื่อไม่นานมานี้ว่า สูตรเอาชนะเบรดีในซูเปอร์โบวล์ ไม่มีอะไรซับซ้อนหรอก

        

“คุณก็แค่ต้องมี ไมเคิล สเตรแฮน, จัสติน ทัก, โอซี ยูเมนโยรา และ เจสัน ปิแอร์-พอล ในตำแหน่งดีเฟนซีฟไลน์อะไรแบบนั้น ไล่แซ็กเป็นกระบุง มันก็จะไม่มีปัญหาใดๆ เลย”

        

ชีฟส์ไม่มีผู้เล่นชื่อชั้นดังกล่าวในเกมป้องกันสำหรับซูเปอร์โบวล์ในครั้งนี้ แต่แมนนิงพูดได้ตรงประเด็นทีเดียว

        

ไจแอนท์สสยบเบรดีสองหน เพราะทำให้เพเทรียตส์มีแค่ 14 แต้มหนหนึ่ง และ 17 แต้มอีกหนหนึ่ง

        

แต่การยื้อให้เบรดีทำแต้มน้อยก็ยังไม่ใช่สูตรสำเร็จซะทีเดียว

 

        

ในเมื่อเบรดีกับเพเทรียตส์เคยมีเพียง 13 คะแนน ตอนเจอแรมส์เมื่อซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 53 กลับเอาชนะ 10 แต้มมาแล้ว

        

เพเทรียตส์เคยสกอร์ 33 เมื่อซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 52 ใส่อีเกิลส์และโฟลส์ แต่ก็ยังแพ้ 8 คะแนน

           

แอนดี้ รีด เฮดโค้ช ชีฟส์ เคยลิ้มรสความพ่ายแพ้เบรดีในซูเปอร์โบวล์มาก่อน ตอนนั้นเพเทรียตส์เล่นงานเขาสมัยคุมอีเกิลส์ 24-21 เมื่อซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 39

        

สมัยนั้นอีเกิลส์ไล่อยู่ 10 แต้ม ในควอร์เตอร์สี่ แต่บุกกินเวลาเพื่อทำทัชดาวน์มากเกินไป ทำให้ไม่เหลือพอจะคัมแบ็ก

           

หนนี้ รีดได้มาโฮมส์เป็นศิษย์เอก มีหวังล้างตาเหมือนกัน เขาเรียกเพลย์บุกช่วยชีฟส์เล่นงานเบรดีกับบัคส์ เมื่อสัปดาห์ 12 ของฤดูกาลนี้มาแล้ว

        

ชีฟส์ทิ้งห่างก่อน 17 แต้ม ต้นควอร์เตอร์สี่ และยังนำ 27-24 ช่วงท้ายเกม

        

พวกเขาลงมาบุกเจอดาวน์ที่สาม-7 ต้องเปลี่ยนให้สำเร็จ เพื่อไม่ให้บอลกลับไปอยู่ในมือเบรดี

        

ปรากฏว่ารีดกล้าได้กล้าเสีย เรียกเพลย์ขว้าง, มาโฮมส์ไม่ทำให้ผิดหวัง ปาระยะ 8 หลาเข้ามือ ทายหรีก ฮิลล์

           

สื่อถามเขาว่า ทำไมถึงเสี่ยงจะขว้างอินคอมพลีตแล้วเวลาหยุด หรืออาจโดนอินเทอร์เซปต์ดาวน์ที่สาม ทำไมไม่เลือกแผนวิ่ง เซฟกว่า

        

รีดตอบ “ผมเรียนรู้มานานแล้ว ต้องไม่ให้บอลกลับไปอยู่กับเบรดี”

           

มาโฮมส์ฟอร์มดีทีเดียว ตลอดสี่เกมที่เจอเบรดี ขว้าง 1392 หลา หรือเกือบ 350 หลาต่อเกม ได้ 12 ทัชดาวน์ เสียแค่ 3 อินเทอร์เซปต์ โดยยังปาเข้าเป้ากว่า 65% เรตติ้ง อยู่ที่ 111

           

ฟากของเบรดีเวลาเจอมาโฮมส์ ขว้าง 1202 หลา หกทัชดาวน์ ห้าอินเทอร์เซปต์ คอมพลีต 63% และเรตติ้งเพียง 82

        

มาโฮมส์เพิ่งเปิดเผยเรื่องที่หลายคนยังไม่ทราบว่า หลังจากที่เขาแพ้เมื่อเกมชิงแชมป์ AFC ต้นปี 2019 ต่อเบรดีและเพเทรียตส์แบบต่อเวลา 31-37

        

เบรดีกลับยังแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ เดินเข้ามาหาเขาซึ่งเพิ่งเป็นควอร์เตอร์แบ็กตัวจริงฤดูกาลแรก เพื่อให้กำลังใจ

 

        

“มันสำคัญ เพราะแสดงให้ผมเห็นว่าสิ่งที่ทำมามันถูกต้องแล้ว ด้วยความที่ยังเป็นควอร์เตอร์แบ็กหนุ่มของลีก มาทำงานแต่เช้า และพยายามทุ่มเทเวลาไปกับการเตรียมพร้อม เขามาบอกว่านับถือสิ่งที่ผมกำลังทำ และสิ่งที่ผมทำลงไปบนสนามแข่ง รวมทั้งอุปนิสัยความเป็นตัวผม มันเหมือนเครื่องช่วยตอกย้ำว่า ผมยิ่งต้องทำงาน และต้องเก่งขึ้นอีก เพื่อเข้าซูเปอร์โบวล์”

        

มาโฮมส์ทำได้ในเวลาอันรวดเร็ว และยังอาจเจริญรอยตามเบรดีสมัยหนุ่ม ด้วยการป้องกันตำแหน่งสำเร็จ

        

“เขาจะทิ้งทุกอย่างที่มีบนสนามแข่งในทุกเพลย์ที่ลงไป เขาไม่แคร์ว่ามันต้องทำอย่างไร ไม่แคร์ว่าต้องปาระดับ 400 หลา หรือถ้าต้องปาแค่ 100 หลาก็ได้ เขาอยากชนะ ผมคิดว่าผมก็มีจิตใจเช่นเดียวกัน ผมอยากชนะไม่ว่ามันจะอย่างไรหรือเกิดอะไรขึ้น”

           

ด้วยความที่ดูเบรดีแข่งมาตลอด มาโฮมส์จึงนับถือควอร์เตอร์แบ็กรุ่นพี่อย่างมาก

        

“วิธีที่เขาอ่านเกมป้องกันได้ออกตั้งแต่ก่อนสแน็ป ผมนับถือจริงๆ ผมกำลังพยายามไปให้ถึงระดับนั้น หรือวิธีที่เขาแค่ขยับตัวอยู่ในพ็อกเก็ต ขยับเท้าไม่กี่ก้าว รักษาความเยือกเย็น แล้วยังปาเข้าเป้า ไม่ว่าจะมีใครมาป้วนเปี้ยนรอบตัว คือสิ่งที่ผมจะยังพยายามทำให้ได้ อาชีพในภายภาคหน้าของผมจะต้องพยายามดูเทปที่เขาแข่งให้มากสุด เพราะเขาทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง คุณบอกได้จากตำแหน่งแชมป์ซูเปอร์โบวล์ที่เขาได้มา และแหวนที่อยู่บนนิ้ว”

 

        

นี่อาจไม่ใช่หนสุดท้ายที่มาโฮมส์จะได้ดวลกับเบรดีก็ได้ เพราะเบรดีพูดมาตลอดว่าต้องการแข่งไปกระทั่งอายุ 45 ปี ซึ่งหมายถึงยังเหลือเวลาอีกราวสองฤดูกาล

        

ล่าสุดเขากลับบอกว่าอยากแข่งเลยไปกว่านั้นอีก “มันเป็นกีฬาที่ใช้พละกำลัง จากมุมมองของผมในเรื่องนี้ก็คือ คุณไม่มีทางรู้ว่าโมเมนต์ตรงนั้นมันจะมาเมื่อไร เพราะเป็นกีฬาที่ต้องมีการปะทะ ต้องฝึกซ้อมกันมากมาย และผมต้องทุ่มเทเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เพื่อทำมัน”

           

จากคนที่อยู่ในระบบเกมบุกแบบดึ๋งดั๋งเกือบตลอดสองทศวรรษกับนิวอิงแลนด์ หลายคนยังตั้งคำถามว่า เมื่อต้องมาเจอสไตล์บุกแบบกล้าได้กล้าเสียของโค้ช บรูซ แอเรียนส์ จะไปได้สักกี่น้ำ

        

คำตอบของเบรดีออกมาเป็นระยะขว้าง 5,493 หลาในฤดูกาลนี้ รวมเพลย์ออฟมากสุดอันดับสี่ในอาชีพ โดยระยะ 4,633 หลาฤดูกาลปกติ ก็มากสุดอันดับห้าในอาชีพ

        

เขายังขว้างทำระยะอย่างน้อย 20 หลา สำเร็จ 34 หน มากสุดของลีกในฤดูกาลนี้ และมากสุดในอาชีพอีกต่างหาก

 

“ผมคิดว่า เมื่อมันถึงเวลาผมก็น่าจะรู้เอง แต่ไม่รู้ว่ามันจะมาตอนไหน ผมเข้าใจดีว่าผมทุ่มทุกอย่างที่มีเพื่อเกมนี้ คุณใส่ลงไปอย่างมาก และเมื่อไรที่รู้สึกทำต่ออีกไม่ไหว ผมไม่อยากทุ่มเทกับทีมเหมือนแบบที่ทีมต้องการจากตัวผมล่ะก็ มันก็คงเป็นเวลาที่ผมต้องเดินจากไป

 

ผมยังอยากแข่งให้นานสุดเท่าที่ทำได้ การจะทำแบบนั้น ผมก็ต้องดูแลร่างกายตัวเองอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับเวลาที่อยู่บนสนามแข่ง ถ้ายังอยากแข่งกีฬาชนิดนี้ให้นานๆ คุณต้องลงทุนลงแรงไปกับร่างกายตัวเองเหมือนที่คุณทำกับอย่างอื่น ผมเรียนรู้มากมายตั้งแต่สมัยยังหนุ่มแล้วว่า ผมจะยังสามารถรักษาร่างกายตัวเองเอาไว้ให้แข็งแรงด้วยการกินตามหลักโภชนาการให้ดีสุด ผมยังคิดว่าทำได้ดีขึ้นกว่านั้นด้วย”

 

           

เบรดีสร้างอาชีพมาอย่างน่าทึ่ง นับจากตอนอยู่มัธยมที่ซานมาเตโอในแคลิฟอร์เนีย มาเป็นแค่ควอร์เตอร์แบ็ก มือ 7 ของมิชิแกน จนได้แข่งซูเปอร์โบวล์หนแรกที่นิวออร์ลีนส์ เมื่อได้ตำแหน่งตัวจริงจาก ดรูว์ เบลดโซ ควอร์เตอร์แบ็กรุ่นพี่ แต่เขายังคงยกระดับมาตรฐานฝีมือตัวเองไม่หยุด ด้วยเหตุนี้ เขาจึงกล้าเปิดใจว่าอยากแข่งไปจนเลยอายุเป้าหมายที่เคยวางเอาไว้ ด้วยความช่วยเหลือจากเทรนเนอร์คู่ใจ อเล็กซ์ เกอร์เรโร ซึ่งย้ายมาอยู่แทมปาเพื่อดูแลเขาโดยตรง

 

ดร.ทอม เฮาส์ โค้ชควอร์เตอร์แบ็กส่วนตัวเบรดี ซึ่งอยู่ด้วยกันมา 9 ปี บอกว่า “ผมไม่ยังไม่เห็นแววที่พลังแขนเขาจะลดลง”

        

เฮาส์เก็บข้อมูลท่าขว้างเบรดีและพลังการปาลูกอยู่ตลอด เทียบกับ โนแลน ไรอัน ตำนานเบสบอล ซึ่งเขาก็เคยทำงานด้วย

 

“เขายังขว้างลูกได้ไปจนถึงปลายๆ อายุ 40 โดยหลักพื้นฐานก็คือ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ในวัย 45 แล้วคุณจะทำอย่างที่เคยทำเมื่ออายุ 25 ไม่ได้ ขอแค่คุณพร้อมเสียสละอย่างเต็มเหนี่ยว และเบรดีก็พร้อมจะเสียสละเช่นนั้น”

                       

ครอบครัวก็มีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจว่าเบรดีจะแข่งต่อนานแค่ไหน

 

เขาแต่งงานกับ จิเซล บุนเชน มีลูกด้วยกันสองคน คือ เบนนี่ (11 ปี) และ วีวี่ (8) ส่วนลูกชายคนโต แจ็ค (13) อยู่กับบริดเจ็ต มอยนาแฮน แม่ของเขาที่นิวยอร์ก และเพิ่งตามมาดูพ่อแข่งชิงแชมป์ NFC ที่แลมโบ ฟิลด์ด้วย

 

เบรดีรู้ดีว่าครอบครัวเสียสละมากแค่ไหน ระหว่างที่เขายังคงแข่งต่อเนื่อง แม้แต่สัปดาห์นี้ ครอบครัวยังให้เขามีสมาธิอยู่กับตัวเอง 12 วันเลย

           

เบรดีเซ็นสัญญาสองปี 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.55 พันล้านบาท) กับบัคคาเนียร์ส แต่ดูเหมือนเขาจะสนุกกับตัวเองและคึกคักกับการเรียนรู้แผนบุกแบบใหม่ สนุกกับสิ่งแวดล้อมใหม่ โค้ชใหม่ และเพื่อนร่วมทีมใหม่ ได้อยู่ติดชายหาด ดูพระอาทิตย์ตกอย่างงดงามยามเย็น แต่เบรดีก็ยังรำลึกถึงช่วงเวลาที่เคยอยู่กับเพเทรียตส์ รวมทั้งโค้ช บิล เบลิชิก

 

“ผมสนิทกับเขามาก รู้สึกขอบคุณกับสิ่งที่เขามีความหมายในชีวิตผมด้วยฐานะโค้ช เขาคือทุกอย่างที่คุณจะขอได้ในฐานะผู้เล่น ผมรักเวลาของผมที่นั่น ผมมีสองทศวรรษที่วิเศษกับที่นั่น เส้นทางฟุตบอลทำให้ผมย้ายเมือง แต่ผมไม่มีทางประสบความสำเร็จในอาชีพ ถ้าปราศจากการสนับสนุนจากเขา และการสอนของเขาถือเป็นโค้ชและครูที่ดีมากสำหรับผม ในชีวิตผมมีครูมากมาย แต่เขาอยู่ระดับท็อป”

 

 

หนก่อนตอนผมเขียนลง THE STANDARD ยังเพิ่งพลิกปูมหลังว่าทำไมเบรดีจึงได้ออกจากนิวอิงแลนด์ เล่าย้อนไปตั้งแต่ สมัยตุลาคม ปี 2017 หลังเพิ่งได้แชมป์สมัยที่ 5 ไม่นาน แล้วโค้ชเบลิชิกเป็นคนเสนอเทรดเบรดีให้ ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตี้ ไนน์เนอร์ส ไม่ใช่ จิมมี่ การ็อปโปโล ควอร์เตอร์แบ็กสำรอง แต่พอดี โรเบิร์ต แครฟต์ เจ้าของทีมนิวอิงแลนด์ เข้ามาขัดขวางยุติเรื่องดังกล่าวทันที

 

เบรดียังนำทัพคว้าแชมป์มาอีกสมัยก็จริง แต่นั่นคือน้ำผึ้งหยดแรกซึ่งทำให้เขากลับมาซูเปอร์โบวล์หนที่ 10 ในชุดแข่งของบัคคาเนียร์ส ไม่ใช่เพเทรียตส์เหมือนอย่างเคย

 

ตอนนั้นลาสเวกัสให้น้ำหนักการย้ายทีมของควอร์เตอร์แบ็กระดับตำนานไม่น้อย ชูบัคคาเนียร์สว่าเป็นเต็ง 5 ในการคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ ต่อจาก แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์, บัลติมอร์ เรฟเวนส์, โฟร์ตี้ ไนน์เนอร์ส, นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส

 

ท้ายสุดแล้ว แม้แต่สถิติเจ้าบ้านไม่เคยได้แข่งซูเปอร์โบวล์มาถึง 54 ปี ก็โดนเบรดีทำลายลงอีกด้วย

 

สังเวียนซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 55 ก็คือ เรย์มอนด์ เจมส์ สเตเดียม ในแทมปา รัฐฟลอริดา บ้านของบัคคาเนียร์ส

 

 

ที่นั่นเคยเป็นสนามแข่งซูเปอร์โบวล์มาสองหน เริ่มจากครั้งที่ 35 ซึ่งบัลติมอร์ เรฟเวนส์ ไล่ต้อน นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ล่าสุดก็ครั้งที่ 43 ซึ่งพิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส เชือด อริโซน่า คาร์ดินัลส์ ลงไปได้

 

น่าเสียดาย เพราะสถานการณ์ไวรัสจะทำให้คนดูเข้าไปในสนามได้เพียง 25,000 ราย น้อยสุดของประวัติศาสตร์ซูเปอร์โบวล์

 

โดย 7,500 คนในนั้นจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนมาแล้ว ได้รับตั๋วฟรีจาก NFL จึงเท่ากับจะมีเพียงตั๋ว 17,500 ใบที่มีการซื้อขายกัน

 

ลีกยังบอกว่าบุคลากรทางการแพทย์ส่วนใหญ่จะมาจากแทมปาและส่วนกลางของรัฐฟลอริดา ที่เหลือก็เลือกจากชุมชนของทุกทีมใน NFL

           

เช้าวันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ เวลา 06.30 น. ประเทศไทย เรามาร่วมกันลุ้นว่าระหว่าง GOAT อย่างเบรดี กับเบบี้ GOAT แบบมาโฮมส์ ใครจะเป็นฝ่ายได้ชื่นชมลอมบาร์ดี โทรฟี

 

ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising