สดๆ ร้อนๆ จากเวทีประกาศผลร้านอาหารที่ได้รับการติดดาวลงในมิชลิน ไกด์ ฉบับกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพังงา ประจำปี 2019 โดยมีรายชื่อร้านอาหารที่ได้รับการประดับดาว 1 ดาว จำนวน 23 ร้าน และร้านที่ได้ 2 ดาว จำนวน 4 ร้าน ในปีนี้มีจำนวนร้านที่ได้รับการติดดาวอันทรงเกียรติแห่งวงการอาหารนี้เพิ่มขึ้นนับสิบ แต่สำหรับร้านที่ THE STANDARD เห็นว่าเป็น ‘ม้ามืด’ ที่สุดก็คือ ร้านสวนทิพย์ ปากเกร็ด นนทบุรี ซึ่งมีเชฟใหญ่คือ เชฟบานเย็น เรืองสันเทียะ
เชฟบานเย็น เรืองสันเทียะ
ร้านสวนอาหารที่ได้รับการติดดาวมิชลิน 1 ดวงแห่งนี้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 โดย เชฟบานเย็น เรืองสันเทียะ หรือชื่อเล่น ‘บุญมี’ ปัจจุบันอายุ 62 ปี พื้นเพดั้งเดิมเป็นชาวจังหวัดนครราชสีมา เริ่มต้นอาชีพและเป็นเชฟประจำอยู่กับทางร้านสวนทิพย์มาตั้งแต่ร้านเริ่มเปิดให้บริการเมื่อราว 37 ปีก่อน
ร้านสวนทิพย์มีเมนูเด่นคือ ยำสวนทิพย์ ซึ่งมีส่วนผสมของมะระ เห็ดฟาง และถั่วงอก เมี่ยงกลีบบัว เมี่ยงคะน้า เมี่ยงคำ ข้าวตังหน้าหอยลาย แกงบอน แกงขี้เหล็ก แกงเลียงหน่อกะลา ฯลฯ ล้วนเป็นของขึ้นชื่อของทางร้าน
บรรยากาศร้าน
ผู้ที่ประสิทธิ์ประสาทสอนวิชาการทำอาหารให้กับเชฟบานเย็นคือ คุณป้าสะอิ้ง จิตบรรเทา ซึ่งเป็นเชฟใหญ่คนแรกของทางร้านสวนทิพย์ผู้เสียชีวิตไปแล้ว แม้หลังจากนั้นทางร้านจะมีเชฟใหญ่อีกหลายคน แต่จนในที่สุด ณ ปัจจุบันทางร้านก็ได้ยกตำแหน่งสำคัญนี้ให้กับคนเก่าแก่ที่อยู่คู่กับร้านมาตั้งแต่เริ่มต้นบุกเบิก นั่นคือคุณป้าบุญมีผู้นี้นั่นเอง
เมี่ยงกลีบบัว – จานเด่นขึ้นชื่อ
ร้านสวนทิพย์เป็นสวนอาหารที่ขึ้นชื่อในเรื่องของบรรยากาศร่มรื่นสบายๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ปรุงอาหารโดยวัตถุดิบธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น เมี่ยงกลีบบัว ก็ใช้กลีบของดอกบัว ซึ่งปลูกในสระบัวของทางร้าน และยังปลูกผักหลายอย่างเอาไว้ใช้เอง ทั้งยังปรุงตามกรรมวิธีอาหารไทยโบราณ ไม่มีการใช้ผงชูรส เน้นปรุงโดยใช้วัตถุดิบธรรมชาติตามกรรมวิธีดั้งเดิมให้มากที่สุด
เมื่อถาม ‘ป้าบุญมี’ หรือเชฟบานเย็นว่าเคยรู้จักรางวัลดาวมิชลินมาก่อนหรือไม่ เชฟบานเย็นบอกว่าไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย
“ตื่นเต้นและไม่เคยคิดมาก่อนเลย ถึงแม้ว่าร้านเราจะบรรยากาศดีและอาหารอร่อย เนื่องจากเราอยากจะให้คนที่มาได้กินของอร่อย จึงใส่ใจในการทำทุกขั้นตอนและตั้งใจปรุงอย่างสุดฝีมือ แต่ป้าไม่เคยคิดว่าจะได้รับการยอมรับในมาตรฐานระดับโลก หรือจะได้รางวัลที่มีชื่อเสียงระดับโลกขนาดนี้ ดีใจมากค่ะ”
ในส่วนของเจ้าของร้านนั้น ก่อตั้งโดย ทิพยา กิตติขจร ปัจจุบันอายุ 73 ปี ซึ่งยังคงดูแลร้านมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยความที่เจ้าของร้านมีความรอบรู้ ความสามารถในเรื่องของศิลปวัฒนธรรม บทกวี และให้ความสำคัญกับความเป็นไทย ภายในร้านจึงมีการตกแต่งด้วยดอกไม้ประดิษฐ์ที่มีความประณีต รวมถึงให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับคุณภาพและรสชาติของอาหารในทุกเมนู รวมถึงความประณีตสวยงามของอาหารแต่ละจานด้วย
เชื่อแน่ว่าเมื่อร้านสวนทิพย์ได้รับการติดดาวมิชลิน ตามปกติที่ร้านมักจะแน่นขนัดกันอยู่แล้ว ก็จะยิ่งต้องมีผู้ไปเยือนเพื่อชิมรสมือของเชฟบานเย็น หรือ ‘ป้าบุญมี’ กันมากขึ้นแน่นอน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า