×

นายกฯ หารือ 12 เอกชนยักษ์ใหญ่ ผลักดันการค้าการลงทุนไทย ด้าน YouTube ชวนนายกฯ เปิดช่องของตัวเอง

โดย THE STANDARD TEAM
09.03.2024
  • LOADING...
เศรษฐา หารือ 12 เอกชน

วานนี้ (8 มีนาคม) เวลา 17.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการพบภาคธุรกิจทั้ง 12 ราย ครอบคลุมทุกภาคธุรกิจ ตั้งแต่ยานยนต์ แฟชั่น โรงแรม เครื่องบิน อาหาร และโรงงานอุตสาหกรรม ดังนี้

 

  1. Accor Group กลุ่มเชนโรงแรมใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีโรงแรมกว่า 100 แห่งในไทย โดยต้องการเข้ามาวางแผนการทำแผนการท่องเที่ยวร่วมกับรัฐบาล และร่วมทุนกับกองทุนไทย เช่น Pension Fund เพื่อขยายธุรกิจ และการสร้างโรงแรมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

 

  1. บริษัท Michelin ซึ่งใช้ยางพาราในไทยจำนวนมาก มีโรงงานในไทย 5 แห่ง จ้างงาน 8,000 คน ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 1 พันล้านยูโร หรือมากกว่า 4 หมื่นล้านบาท โดยใน 1 ปี บริษัทใช้ยางธรรมชาติมากกว่า 7 แสนล้านตันต่อปี และระบุว่าใน 3 ปีข้างหน้าจะเพิ่มกำลังการผลิตลงทุนเพิ่มถึง 300 ล้านยูโร ซึ่งบริษัททำธุรกิจมานาน หวังจะให้ไทยช่วยเรื่องความสะดวกในการทำธุรกิจ

 

  1. Fédération de la Haute Couture สมาคมแฟชั่นชั้นสูง เป็นสมาพันธ์เพื่อส่งเสริมนักออกแบบรุ่นใหม่ โดยต้องการทำกิจกรรมร่วมกับไทย ทั้งอีเวนต์ แฟชั่นโชว์ และสร้างสถาบันให้ความรู้กับนักเรียนไทย นายกฯ จึงเชิญมาทำอีเวนต์ในไทยช่วงเดือนเมษายนนี้ ให้จัดกิจกรรมคล้าย Paris Fashion Week ในกรุงเทพฯ รวมถึงการจัดโปรแกรมการฝึกฝนเพื่อพัฒนา Young Designers และร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท

 

  1. Comité Colbert องค์กรที่พยายามผลักดันให้แบรนด์ต่างๆ ทั่วโลกได้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ความรู้แก่แบรนด์และนักออกแบบทั่วโลก รวมไปถึงด้านซอฟต์พาวเวอร์ด้วย โดยนายกฯ ได้เชิญองค์กรดังกล่าวให้เข้าไปให้ความรู้ โดยผ่านความร่วมมือกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ

 

  1. บริษัท MICHELIN Guide เห็นว่าไทยมีศักยภาพด้านอาหารเป็นอย่างมาก พร้อมส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารภายในไทย เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาหาประสบการณ์ในด้านอาหารในไทยมากยิ่งขึ้น ขณะที่ไทยหวังที่จะยกระดับความร่วมมือกับ MICHELIN เพื่อช่วยส่งเสริมในการร่วมจัดงานอีเวนต์ต่างๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของไทย โดยช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2024 จะมาจัดงานเทศกาลอาหารระดับโลกที่จังหวัดเชียงใหม่ สำหรับไทยมีร้านอาหารที่ได้ 1 ดาว 28 ร้าน และร้านที่ได้ 2 ดาว 7 ร้าน

 

  1. บริษัท Richemont กลุ่มบริษัทที่เป็นเจ้าของแบรนด์ดังระดับโลก เช่น Cartier, Van Cleef & Arpels, IWC โดยไทยมียอดการขายเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งนายกฯ ได้ขอความร่วมมือในการทำงานกับแบรนด์ของไทย เพื่อส่งเสริมศักยภาพของนักออกแบบไทย รวมถึงวัตถุดิบไทยที่มีคุณภาพ ตลอดจนเชิญชวนให้มาทำกิจกรรม เช่น ป๊อปอัพสโตร์, โคโปรโมชันกับกิจกรรมอื่นๆ ที่จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว

 

  1. บริษัท Valeo ผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบและการผลิตส่วนประกอบ ระบบบูรณาการ และโมดูลสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ มีชื่อเสียงด้านนวัตกรรมในการพัฒนาและการผลิตเทคโนโลยีสำหรับเครื่องยนต์สันดาปแบบดั้งเดิมและยานพาหนะไฟฟ้า โดยนายกฯ เชิญชวนมาขยายการลงทุนในไทย ผลักดันการสร้างระบบนิเวศให้กับรถยนต์ EV เป็นอีกหนึ่งก้าวที่ขยับเข้าใกล้ศูนย์กลางการขับเคลื่อนแห่งอนาคตและการเป็นดีทรอยต์แห่งเอเชีย

 

  1. บริษัท Airbus ขับเคลื่อนเรื่อง Aviation Hub กับ Airbus Group โดยบริษัทดำเนินงานใน 3 ส่วนคือ เครื่องบินพาณิชย์ เฮลิคอปเตอร์ และการป้องกันและอวกาศ ทั้งนี้ บริษัทในไทยเป็นศูนย์บริการปฏิบัติการการบิน ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 2 แห่งคือที่ฝรั่งเศสและไทย โดยไทยมีศักยภาพในการขยายศูนย์ความเป็นเลิศระดับภูมิภาคด้านการสนับสนุนและบริการปฏิบัติการบิน

 

  1. บริษัท FORVIA บริษัทผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ ซึ่งจะนำไปสู่การใช้พลังงานสะอาด สนับสนุนให้โรงงานผลิตคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยบริษัทจะขยายการลงทุนในไทย และขอให้รัฐบาลไทยสนับสนุนการลงทุนทางธุรกิจ อำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งให้ช่วยลดอุปสรรคความล่าช้าจากกฎระเบียบทางราชการ ซึ่งรัฐบาลพร้อมที่จะให้ความสนับสนุน

 

  1. บริษัท EssilorLuxottica ผลิตเลนส์แว่นตา โดยบริษัทชื่นชมแรงงานฝีมือของไทย และมีแผนที่จะเพิ่มพนักงานจาก 6,000 คนเป็น 12,000 คน จึงหวังให้รัฐบาลสนับสนุนด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และอยากให้ไทยเดินหน้าเจรจา FTA กับสหภาพยุโรปให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

 

  1. บริษัท Stellantis บริษัทผลิตรถยนต์อันดับ 4 ของโลก ซึ่งได้พูดคุยเพื่อให้เกิดความร่วมมือ โดยบริษัทสนใจลงทุนในไทย และรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน

 

  1. บริษัท YouTube นายกฯ ได้พูดคุยกับ Global Head of Youtube Music ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องธุรกิจดนตรี โดยเชิญชวนให้นายกฯ มีช่อง YouTube เป็นของตัวเอง และจะส่งหนังสือและลิสต์มาให้ว่าผู้นำที่มีช่อง YouTube เป็นของตัวเองแล้วกว่า 20 คนนั้นมีใครบ้าง และต้องทำอะไรบ้าง 

 

โอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายได้พูดกันเกี่ยวกับเป้าหมายที่รัฐบาลไทยกำหนดให้ปีหน้าเป็นปีของมิวสิกเฟสติวัล แนวทางที่จะจัดงาน และเชิญนักร้องระดับ A-list มาร่วมงานเฟสติวัลในไทย

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising