บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ ชี้แจง บลจ.เกียรตินาคินภัทร โอนหุ้น STPI ให้ อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 164.59 ล้านหุ้น ต้องทำตามกฎหมาย ระบุเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่มีผลกระทบต่อการบริหารงาน-โครงสร้างการจัดการ
อาทิตยา ชาญวีรกูล เลขานุการ บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ หรือ STPI แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทว่า ตามที่ บลจ.เกียรตินาคินภัทร ได้รับโอนหุ้นของอนุทิน เพื่อการจัดการทรัพย์สินของรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ STPI
โดยเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 บลจ.เกียรตินาคินภัทร ได้ดำเนินการโอนหุ้นจำนวน 164.59 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 10.30% ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดให้อนุทิน เนื่องจากปฏิบัติตามมาตรา 5 และ 6 แห่งพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 และบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
โครงสร้างการถือหุ้นของ STPI ภายหลังการทำรายการ เป็นดังนี้
ทั้งนี้ บริษัทขอแจ้งให้ทราบว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการ การบริหารงาน โครงสร้างการจัดการ และอำนาจตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด
ด้านการเคลื่อนไหวราคาหุ้น STPI วันนี้ (19 กันยายน) ระหว่างการซื้อขายขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 3.68 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือ 3.37%
ตลาดหลักทรัพย์ฯ รายงานข้อมูลผู้ถือหุ้นของ STPI ณ วันที่ 24 มีนาคม 2566 มี 10 อันแรก ดังนี้
- บลจ.เกียรตินาคินภัทร (รับโอนจากอนุทิน เพื่อการจัดการทรัพย์สินของรัฐมนตรี) ถือหุ้น 10.13%
- จิรัฏฐ์ ธราเพชรสวัสดิ์ ถือหุ้น 4.99%
- บริษัท เบสท์ ควอลิตี้ สกิลส์ จำกัด ถือหุ้น 4.79%
- ยรรยง นิติสาโรจน์ ถือหุ้น 4.15%
- ชวลิต ลิ่มพานิชย์ ถือหุ้น 3.99%
- ชวรัตน์ ชาญวีรกูล ถือหุ้น 3.50%
- พัชร์สิตา พงษ์พิทยศิริ ถือหุ้น 3.04%
- สมชาย ประภากมล ถือหุ้น 2.97%
- บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้น 2.74%
- ภานุพงศ์ คุโณปการพันธ์ ถือหุ้น 2.30%