นายกฯ ลงพื้นที่นราธิวาส บอกภูมิภาคนี้ต้องเกิดสันติภาพและสันติสุข

วันนี้ (29 กุมภาพันธ์) ภารกิจวันสุดท้ายในการลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อร่วมกิจกรรม ‘เที่ยวใต้สุดใจ’ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะ สวมเสื้อผ้าลายเมอนารอ ซึ่งเป็นการผสมผสานอัตลักษณ์ของผ้าพื้นถิ่นกับลายพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ออกแบบซ้อนลายถึง 4 ชั้น สื่อถึงแม่น้ำสำคัญ 4 สายที่หล่อเลี้ยงชาวนราธิวาส ได้แก่ แม่น้ำบางนรา แม่น้ำโก-ลก แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำตากใบ โดยมีตัวอักษร NARATHIWAT สื่อถึงความเท่าเทียม เคารพสิทธิเสรีภาพซึ่งกันและกัน มีความเจริญก้าวหน้า 

โดยเดินทางไปลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส สักการะพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล และกราบนมัสการพระธรรมวัชรจริยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 เจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา ที่มาต้อนรับ

นายกฯ ได้สนทนาธรรมกับเจ้าอาวาสตอนหนึ่งว่า นายกฯ ทำงานหนักมาก เดินทางทุกวัน ก็ขอให้สุขภาพแข็งแรง ดูเหมือนช่วงนี้ท่านจะงานหนักเหลือเกิน ไม่ยอมพักผ่อนเลย เดินทางไปไหนก็ขอให้ปลอดภัย แข็งแรง และดูแลประเทศชาติให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

นายกฯ จึงกล่าวตอบว่าปัญหาเยอะมาก ก็ขอให้ตัวเองแข็งแรง ไม่เจ็บไข้ จะได้มีแรงทำงาน

เจ้าอาวาสจึงระบุต่อว่า ปัญหาใหญ่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะที่นราธิวาสคือเรื่องพื้นที่ทับซ้อน เพราะมีชาวบ้านเข้าไปทำกินในพื้นที่เอกชน ทำให้มีปัญหากับทางราชการ และปัญหาธุรกิจตามแนวชายแดน

นายกฯ กล่าวว่า ปัญหาพื้นที่ป่าทับซ้อนเป็นเรื่องใหญ่ ตนก็ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องสิทธิทำกินของพี่น้องประชาชน ถ้าไม่มีที่ทำกินก็ไม่มีความมั่นคงในอาชีพ ตนพยายามทำให้ได้เยอะที่สุด เร็วที่สุด ซึ่งจุดเริ่มต้นคือเราต้องมีแผนที่เดียว ซึ่งต้องมอบหมายให้ทางผู้บัญชาการทหารบกและเจ้ากรมแผนที่ทหารไปจัดการเพื่อไม่ให้มีการถกเถียงกันได้                                                                   

ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวนายกฯ กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่มาดูและเห็นแล้ว ซึ่งมีสถานที่สำคัญมาก แต่ทั้งนี้ก็เกี่ยวโยงกับเรื่องความสงบด้วย เพราะหากเศรษฐกิจดีคนคงไม่อยากมาทะเลาะกัน เราจึงต้องเดินไปข้างหน้าโดยใช้เศรษฐกิจนำ ไม่จมปลักอยู่กับเรื่องของอดีต เมื่อประชาชนอยู่ร่มเย็นเป็นสุข มีเงินในกระเป๋า เรื่องการทะเลาะเบาะแว้งก็จะจบสิ้นทุกอย่าง เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น ด่านตรวจคนเข้าเมือง การยกเลิกแบบฟอร์มต่างๆ เพื่อให้การเข้าพื้นที่มีประโยชน์มากยิ่งขึ้น ถือเป็นนโยบายที่ไม่ต้องใช้งบประมาณเลย นอกจากนี้ยังมีปัญหาชายแดน และยาเสพติดด้วย

จากนั้นเยี่ยมชมกิจกรรมภายในพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัล-กุรอาน และพบปะกับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งได้อ่านดุอาอ์ ขอพรให้นายกฯ มีกำลังใจ​ สุขภาพแข็งแรง​ ทุกสิ่งที่​ตั้งใจ​ให้เกิดผลสัมฤทธิ์​ และสันติสุขจงเกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้​ ขณะเดียวกันยังขอให้นายกฯ ให้ความสำคัญกับศาสนาอิสลาม ทั้งการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนสอนศาสนา​ และขอให้ช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วย

นายกฯ กล่าวว่า ตนถือว่า 3 วันนี้เป็น 3 วันที่มีคุณค่า และรัฐบาลก็จะมาเยี่ยมเยียนอีกในปีหน้าเพื่อมาดูความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ที่ได้จัดสรรลงมา หากมีเวลาก็จะอยู่ให้นานกว่านี้​ 

นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณ​ฝ่ายความมั่นคงที่ดูแลเป็นอย่างดี​ เราไม่พูดถึงความไม่มั่นคง​ เราไม่พูดถึงความไม่สงบ​ แต่อยากพูดถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจ​ เราไม่เห็นเรื่องอาวุธหนักที่จะต้องเอามาคุ้มครอง ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่เราจะได้เริ่มต้น 2-3 วันที่ผ่านมากับการต้อนรับที่อบอุ่น เข้าใจถึงปัญหาที่ชัดเจน ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องพยายามทำให้ได้ ภูมิภาคนี้จะต้องเกิดทั้งความสันติภาพและสันติสุข จากนั้นนายกฯ และคณะเดินทางกลับกรุงเทพฯ