×

เศรษฐาเยือนสวิส หารือผู้บริหาร DKSH ชวนย้ายฐานการผลิตลงทุนในไทย เผยคิวแน่น พรุ่งนี้จัดเต็ม 14 ภารกิจ

โดย THE STANDARD TEAM
16.01.2024
  • LOADING...

วันนี้ (16 มกราคม) เวลา 09.30 น. (ตามเวลานครซูริก ห่างจากประเทศไทย 6 ชั่วโมง) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังพบหารือกับ สเตฟาน บุทซ์ ผู้บริหารบริษัท DKSH Holding AG ว่าเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2449 (ค.ศ. 1906) หรือประมาณ 120 ปีที่ผ่านมา ถือว่ายาวนานมาก และเป็นบริษัทที่มีเชื้อชาติสวิตเซอร์แลนด์ แต่รายได้ส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองไทย มีการจ้างงานคนไทยกว่า 10,000 คน และมีพนักงานที่เป็นสุภาพสตรี 55% ก็ถือว่าสูงมาก

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ธุรกิจที่จำหน่ายเป็นสินค้าประเภทเวชภัณฑ์ อุปโภคบริโภคแบรนด์ใหญ่ เช่น ครีมนีเวีย เป็นต้น ทั้งนี้เขาทำธุรกิจมานานจึงมีความเข้าใจการทำธุรกิจในเมืองไทย แต่ในระยะหลังประสบปัญหาหนักในการนำเข้ายา เพราะมีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้น ดังนั้นการนำเข้ายาจะต้องได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (อย.) ซึ่ง อย. ก็มีความเข้มงวด ไม่ให้คนไทยเสียเปรียบ หรือไม่ได้รับยาที่มีคุณภาพ

 

“ผมก็รับปากไปว่าจะดูให้ในตรงจุดนี้ เพราะคนที่เสียประโยชน์คือคนไทย หากยาเข้ามาเร็วเราก็จะสามารถดูแลรักษาคนไทยให้เร็วขึ้นได้ โดยบริษัทดังกล่าวถือว่าเป็นกองเชียร์สำคัญของประเทศไทย ผมอยากให้ย้ายโรงงานมาอยู่ที่ประเทศไทย” เศรษฐากล่าว

 

นายกรัฐมนตรียังระบุด้วยว่าตนยินดีจะไปพบและพูดคุยหากสนใจที่จะมาเปิดฐานการผลิตที่ประเทศไทย เพราะจุดประสงค์ใหญ่ของเราคือให้หลายบริษัทใหญ่ๆ ย้ายถิ่นฐานมาผลิตในไทย มั่นใจว่าเรามีบุคลากรพร้อม มีมาตรการภาษีพร้อม ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีในเมืองไทย

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า นอกจากนี้เขายังพูดว่าเวลาไปเยี่ยมโรงงานที่ไทยใช้กระดาษเยอะมาก ควรจะพัฒนาไปยังเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ และอยากเปลี่ยนรถขนส่งสินค้าเป็นรถไฟฟ้า ซึ่งเขาเป็นห่วงเรื่องการติดตั้งที่ชาร์จมีเพียงพอหรือไม่ ตนก็รับปากไปว่าเรื่องนี้ไม่ต้องห่วง เพราะเราดูอยู่ โดยตนได้ฝากเรื่องแลนด์บริดจ์ไปด้วย เพราะบริษัทมีความเชี่ยวชาญทางด้านโลจิสติกส์ ซึ่งโครงการนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย และบริษัทจะได้รับผลประโยชน์จากโครงการนี้ด้วย

 

อุณหภูมิติดลบ แต่ความตั้งใจเกินร้อย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัว โดยระบุว่า “ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวนอกสถานที่ถึงความตั้งใจของการเดินทางมาประชุม World Economic Forum (WEF) ครั้งนี้ และการเตรียมหารือเอกชนยักษ์ใหญ่อีก 8 รายครับ โดยรัฐบาลต้องการส่งเสริมการค้าการลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในเรื่องการเปลี่ยนผ่านพลังงาน อุตสาหกรรม EV เศรษฐกิจดิจิทัล ความเชื่อมโยงผ่านโครงการแลนด์บริดจ์ ตลอดจนบทบาทของไทยและอาเซียนด้วย อุณหภูมิเช้านี้ -5 องศาเซลเซียส แต่ความตั้งใจของพวกเราเกินร้อย”

 

นายกฯ คิวแน่น พรุ่งนี้จัดเต็ม 14 ภารกิจ

 

  1. หารือ Country Strategy Dialogue (CSD) on Thailand
  2. หารือนายกรัฐมนตรีเบลเยียม 
  3. หารือ Bernard Mensah, President, International, Bank of America และ CEO of Merrill Lynch International 
  4. หารือ Sultan Ahmed bin Sulayem, Group Chairman and CEO บริษัท DP World 
  5. นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมกิจกรรม Thailand Landbridge: Connecting ASEAN with the World 
  6. หารือ Bill Winters, CEO of Standard Chartered 
  7. หารือ Professor Klaus Schwab ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร WEF 
  8. นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการเสวนา Learning from ASEAN 
  9. หารือ Viola Amherd ประธานาธิบดีสมาพันธรัฐสวิส 
  10. หารือ Tony Blair, Executive Chairman of Tony Blair Institute of Global Change และอดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร 
  11. หารือกับผู้บริหารบริษัท Telenor 
  12. หารือ James Quincey, Chairman and CEO of Coca Cola 
  13. พบกลุ่มนักธุรกิจชั้นนำของไทย ที่เป็นสมาชิก WEF 
  14. พบ CEO Microsoft Satya Nadella

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising