วันนี้ (30 พฤศจิกายน) ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างตรวจเยี่ยมโครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก และติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในจังหวัดอุตรดิตถ์ และพบปะประชาชน ตอนหนึ่งว่า เข้าใจว่าพี่น้องหลายคนเป็นหนี้นอกระบบเยอะจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ดี ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญและต้องการให้ดีขึ้น โดยจะต้องเข้ามากำกับดูแลและแก้ไขไม่ให้พี่น้องประชาชนเป็นทาสหนี้นอกระบบ ซึ่งในวันที่ 8 ธันวาคม กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมากำกับดูแลสัญญาการกู้เงินที่ไม่เป็นธรรมและดอกเบี้ยที่ต้องถูกกฎหมาย
เศรษฐากล่าวอีกว่า ต้องยกระดับเศรษฐกิจทั้งหมด ทำให้พี่น้องสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ทำให้หนี้กลับมาอยู่ในระบบ ซึ่งอาจเกิดจากที่พวกท่านไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่จะสามารถกู้เงินในระบบได้ ฉะนั้นรัฐบาลจะเริ่มต้นมอบโฉนดที่ดินจำนวน 25 ล้านไร่ภายในสิ้นปีนี้ และทยอยแจกไปตามจังหวัดต่างๆ
นอกจากนี้ รัฐบาลจะทำให้จังหวัดอุตรดิตถ์ไม่ใช่จังหวัดทางผ่านหรือจังหวัดเมืองรองอีกต่อไป ต้องมีการสร้างถนนเชื่อมต่อไปยังจังหวัดต่างๆ
ยอมรับกดดันทุกวันคนทวงเงินหมื่น
เศรษฐากล่าวถึงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หลังประชาชนทวงถามว่า ทุกวัน ทุกเรื่องเป็นเรื่องที่กดดัน เป็นเรื่องที่อยากให้พี่น้องประชาชนได้จริง มารับฟังทุกคนก็เห็นว่าคนต้องการ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนอยากได้จริงๆ ยืนยันว่ารัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่และยังคงเดินหน้าตามไทม์ไลน์เดิม
เมื่อถามว่า หากคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความออกมาในเชิงลบ จะมีการปรับแผนลดขนาดโดยไม่ต้องกู้ได้หรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า เดี๋ยวคงมีการพูดคุยกัน ตอนนี้มุ่งมั่นจะทำเรื่องนี้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลจะได้หรือไม่ ต้องมีคำตอบให้ประชาชน
รับไม่ได้ค่าไฟฟ้าขึ้น 4.68 บาท
เศรษฐากล่าวถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่า Ft และมีมติเห็นชอบให้ปรับค่า Ft ขายปลีกในงวดเดือนมกราคม-เมษายน 2567 ว่า “ผมรับไม่ได้ เป็นราคาที่สูงเกินไป ซึ่งในฐานะที่เป็นประธานฯ จะเรียกประชุม เพราะราคานี้รับไม่ได้ ราคาสูงเกินไปเยอะ“
ส่วนจะลดราคาค่าไฟฟ้าเป็นมาตรการต่อเนื่องหรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า ก็ต้องไปดูก่อน ซึ่งต้องดูงบประมาณด้วย แต่หากจะให้ขึ้นราคาไปถึง 4.68 บาท มันไม่ไหว เยอะเกินไป จะทำให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อน แต่ยอมรับว่าค่าไฟมีแนวโน้มจะขึ้นราคาจากราคาเดิม 3.99 บาท ที่เคยบอกไว้ แต่จะไม่ขึ้นไปถึง 4.68 บาทที่พูดกัน จะไม่ถึงแน่นอน ซึ่งต้องทำให้เป็นลักษณะวิน-วินทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค รัฐบาลต้องทำให้ได้ ส่วนจะมีการรื้อโครงสร้างพลังงานหรือไม่นั้นเป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องมีการพูดคุยกัน
ยังไม่ได้แสดงความยินดีประยุทธ์ เพราะไม่มีเบอร์
เศรษฐากล่าวถึงกรณีมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นองคมนตรี ว่ายังไม่ได้แสดงความยินดี ถ้าเจอตามงานก็จะมีการแสดงความยินดีด้วย เพราะตนไม่ได้มีเบอร์โทรศัพท์ท่าน
ย้ายอธิบดีดีเอสไอตามเนื้องาน ยันไม่ใช่เจอตอ
เศรษฐากล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการผู้ลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนว่า ถือเป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยไม่สามารถดำเนินการได้ ขออย่ากังวล จะพยายามสาวให้ถึงรายใหญ่ให้ได้
ส่วนกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติโยกย้าย พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากผลงานไม่เข้าเป้าหรือเจอตอใหญ่จนต้องโยกย้ายหรือไม่นั้น เศรษฐาระบุว่า ที่ระบุว่าไปเจอตอใหญ่ ยืนยันว่าไม่มีอย่างแน่นอน ตนไม่ยอมให้มีเรื่องนี้เกิดขึ้นในรัฐบาล ขณะเดียวกันเชื่อว่าข้าราชการทุกคนไม่มีใครกลัว พยายามปฏิบัติหน้าที่ทำงานเพื่อประชาชนสุดความสามารถ แต่การโยกย้ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคงต้องการให้คนเหมาะกับหน้างาน
เมื่อถามย้ำว่า การโยกย้ายครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองใช่หรือไม่ เศรษฐาระบุว่า ไม่ใช่ ไม่มีแน่นอน แต่หากบอกว่าการเมืองและรัฐมนตรีที่ทำเป็นผู้ย้าย อย่างนั้นใช่ ย้ายไปทำเรื่องของนโยบายไปเป็นรองปลัดกระทรวง และหาที่เหมาะสมมาทำงานต่อ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ต้องเรียกคุยว่าถึงไหนแล้ว
ส่วนการจะหาผู้ที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีดีเอสไอนั้น เศรษฐายืนยันว่า เรื่องนี้ตนก้าวก่ายไม่ได้ เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมขออย่าพูดเรื่องคน ให้พูดเรื่องของงานและผลสำเร็จของเรื่องที่ต้องจัดการ ซึ่งปัจจุบันไม่ใช่มีแค่เรื่องหมูเถื่อน แต่มีเรื่องเนื้อเถื่อน รวมไปถึงอีกหลายคดีที่ต้องสะสาง ไม่เช่นนั้นความมั่นใจของนักลงทุนที่จะเข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ก็จะมีปัญหา
ชมสินค้า OTOP ติดตามความคืบหน้าโครงการช่วยเหลือประชาชน
นอกจากนี้ เศรษฐายังได้เยี่ยมชมศูนย์จำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) อำเภอลับแล และติดตามความก้าวหน้าโครงการสำคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์ เช่น โครงการพัฒนาการท่องเที่ยว เมืองลับแล เมืองมหัศจรรย์ของผลไม้ เมืองงาม 3 วัฒนธรรม บ้านเกิดพระยาพิชัยดาบหัก และโครงการพัฒนาอาชีพและส่งเสริมรายได้ของประชาชน (Soft Power of Uttaradit) รวมถึงการออกเอกสิทธิ์ที่ดินทำกินจากการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ อำเภอท่าปลา, การพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรภูดู่ อำเภอบ้านโคก และโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำพร้อมระบบกระจายน้ำ ตำบลท่าแฝก อำเภอน้ำปาด
