×

เศรษฐาบอก ควรให้โอกาสโหวตพิธาอีกถ้าโหวตเป็นนายกฯ ครั้งแรกไม่ผ่าน ชี้ต้องมีรัฐบาลให้เร็วที่สุดเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ

โดย THE STANDARD TEAM
07.07.2023
  • LOADING...
เศรษฐา ทวีสิน

วันนี้ (7 กรกฎาคม) เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเสียงสะท้อนจากรัฐบาลขั้วปัจจุบันถึงขั้นตอนการเลือกนายกรัฐมนตรี ถ้าหากไม่ผ่านครั้งแรกแล้วควรจะให้โอกาสพรรคอันดับ 2 หรือไม่ ไม่ควรจะมีการเลือกซ้ำ เพราะไม่ใช่การเลือกหัวหน้าห้อง เศรษฐาระบุว่า ตนจำไม่ได้เรื่องการเลือกหัวหน้าห้อง เพราะเป็นเรื่องสมัยยังเด็ก ตรงนี้ต้องดูตัวเลข หากใกล้เคียงความจริงควรให้โอกาสเขาโหวตครั้งที่ 2

 

ส่วนกระแสข่าวว่า ส.ว. จะไม่สนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ จึงมีการซื้อเสียง ส.ว. โหวตให้ เศรษฐาระบุว่า ตนไม่ทราบเรื่องซื้อเสียง เราไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว ต้องใช้เหตุผลในการคุย เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องของประเทศชาติ ประชาชนพูดเสมอว่าอยากให้ฝ่ายไหนมาเป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล

 

สำหรับเงื่อนไขของพรรคก้าวไกลคือมาตรา 112 จะสามารถใช้เป็นข้ออ้างสำหรับการโหวตพิธาได้หรือไม่นั้น ส.ว. แสดงความเห็นแต่ไม่เกิน 10 คน แต่ ส.ว. มี 250 คน ตนเชื่อว่าจะมีพลังเงียบที่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลลุล่วงไปด้วยดี

 

สำหรับ MOU 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลไม่มีเรื่องมาตรา 112 ทำไมพรรคก้าวไกลถึงไม่ลดเพดานเพื่อผลักดันให้พิธาเป็นนายกฯ เศรษฐาย้ำว่า ต้องไปถามกับพรรคก้าวไกล เพราะเขาเป็นคนเขียน MOU ฉบับนี้ เราเป็นพรรคอันดับ 2

 

“การจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้า ปัญหานี้ผมชี้นำมานานแล้ว นักการเมืองลืมไปว่าเรามาเพื่ออะไร เพื่อช่วยเหลือประชาชน จะ 2 เดือนแล้วที่มีการเลือกตั้ง และผลออกมาชัดเจน กกต. รับรองแล้ว แต่ไม่มีนายกฯ เป็นเรื่องลำบากในการบริหารประเทศ หากเลือกนายกฯ ได้เร็ว และตั้งรัฐบาลได้ภายในต้นเดือนสิงหาคม งบประมาณของปี 2567 กว่าจะใช้ได้ก็เดือนมีนาคม จึงอยากให้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี พรรคเพื่อไทยต้องทำงานกันไปก่อน หากได้ตั้งรัฐบาลที่ถูกต้อง เราจะได้ดำเนินงานได้เลย นี่คืองานที่เราวางไว้” เศรษฐากล่าว

 

ส่วนการเลือกนายกฯ ถ้าหากเกิน 3 ครั้งแล้วยังไม่ได้ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อ เศรษฐากล่าวว่า “ไม่ขอแสดงความคิดเห็น ไม่เข้าใจกติกาโหวตกี่ครั้ง หากพูดแบบคนธรรมดาทั่วไปก็ควรจะให้โอกาส มองในฐานะส่วนตัว”

 

เมื่อถามถึงการแบ่งโควตารัฐมนตรี มองประเด็นนี้อย่างไร เศรษฐากล่าวว่า ไม่ได้อยู่ในคณะการพูดคุยชุดนี้ ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลยังมีการต่อรองอยู่ คาดว่าลงตัวแล้วตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้

 

ส่วนกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าจะกลับมาในเดือนนี้ เศรษฐากล่าวว่า “ยังไม่ทราบข่าว แต่ท่านยืนยันหลายครั้ง ถ้าจะกลับก็เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ทุกอย่างทำตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย”

 

หากทักษิณกลับมา ทิศทางการเมืองจะเปลี่ยนไปหรือไม่ เศรษฐาย้ำว่า ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้เกี่ยวกับการบริหารประเทศ

 

“ประเทศไทยมีศักยภาพสูง มีเรื่องดีๆ อีกเยอะ เราต้องการผู้นำที่เป็นผู้นำจริงๆ ต้องการรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ตนเชื่อว่าหากเราจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วเศรษฐกิจจะขึ้นไปได้ด้วยดี ตลาดหุ้นน่าจะดีขึ้น”

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising