×

เลือกตั้ง 2566 : สนธิญาร้อง กกต. สอบ 2 นโยบายเพื่อไทย แจกเงินดิจิทัล-ถมทะเลบางขุนเทียน อาจเข้าข่ายประชานิยม ซ้ำรอยเวเนซุเอลา

โดย THE STANDARD TEAM
10.04.2023
  • LOADING...
สนธิญา นโยบาย เพื่อไทย

วันนี้ (10 เมษายน) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีที่พรรคเพื่อไทยประกาศนโยบายฟลัดเวย์ เพื่อระบายน้ำลงทะเลทั้งสองฝั่งเจ้าพระยา ป้องกันน้ำไม่ให้ท่วมกรุงเทพมหานคร โดยจะมีการถมทะเลบางขุนเทียนจนถึงสมุทรปราการและสมุทรสาคร รวมทั้งนโยบายแจกเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัลให้คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปคนละ 10,000 บาท เนื่องจากมองว่าทั้ง 2 นโยบายขัดต่อรัฐธรรมนูญ ปี 2560 

 

สนธิญากล่าวว่า ประชากรอายุ 16 ปีขึ้นไปในประเทศไทยมีประมาณ 54 ล้านคน ซึ่งต้องใช้งบประมาณ 5.4 แสนกว่าล้านบาท นั่นหมายความว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลนั้นจะนำเงินมาจากกระทรวงใด หรือจากงบกลาง ซึ่งจะกระทบเป็นวงกว้าง เพราะเงินจำนวนดังกล่าวเท่ากับรายจ่าย 20% ของประเทศไทยทั้งปี 

 

ตนจึงมาร้องต่อ กกต. โดยอาศัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 224 เพื่อให้ กกต. ได้พิจารณาวินิจฉัยตรวจสอบตามมาตรา 244(5) เนื่องจากทุกพรรคการเมืองที่จะเสนอนโยบายจะต้องชี้แจงเงินที่มา ความเสี่ยง และสิ่งที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการนั้นๆ ดังนั้นขอเตือนไปยังพรรคเพื่อไทยว่า โปรดระมัดระวังว่าเมื่อใดที่นโยบายเป็นสิ่งที่ไม่เป็นจริง ไม่สามารถทำได้ เท่ากับหลอกลวงเพื่อให้ได้คะแนนนิยม จะนำไปสู่ความผิดตามกฎหมายมาตรา 92 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มีสิทธิที่จะถูกยุบพรรคได้

 

สนธิญากล่าวต่ออีกว่า หากเป็นการเสนอนโยบายโดยที่ไม่มีการศึกษาหรือดำเนินการใดๆ มาก่อน จะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 258(3) ดังนั้น กกต. ต้องชี้ว่านโยบายทำได้หรือไม่ ถูกต้องตามกระบวนการกฎหมายหรือไม่ ไม่ใช่เพียงบอกว่ามาชี้แจงแล้ว ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้ต้องไปถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาลรัฐธรรมนูญ เพราะขณะนี้หลายพรรคการเมืองเสนอนโยบายเป็นประชานิยม 

 

“ผมไม่อยากเห็นประเทศไทยเป็นเหมือนประเทศเวเนซุเอลาที่ประชานิยมทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งประเทศไทยมีรายได้มาจากการเกษตร ขายข้าว และรายได้จากการท่องเที่ยวเท่านั้น” สนธิญากล่าว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising