×

ชลบุรีคลื่นแรง เปิดศึก สนธยา บ้านใหญ่ vs. สุชาติ จากทรยศ รู้ที่ไปแต่ลืมที่มา ถึงแม่ทัพอัลไซเมอร์

โดย THE STANDARD TEAM
18.02.2022
  • LOADING...
ชลบุรีคลื่นแรง เปิดศึก สนธยา บ้านใหญ่ vs. สุชาติ จากทรยศ รู้ที่ไปแต่ลืมที่มา ถึงแม่ทัพอัลไซเมอร์

จากกรณีที่วานนี้ (17 กุมภาพันธ์) สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “การอยู่ชายคาบ้านหลังใหญ่ นอกจากผู้อาศัยจะรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นปลอดภัยแล้ว มันจะยิ่งดีไปกว่า ถ้ามีเจ้าของบ้านจิตใจกว้างขวาง มีความเมตตากรุณา ทำตัวเป็นดั่งมิตรภาพที่ดี ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ใครๆ ก็อยากคบหา พาตัวเองเข้ามาอาศัยอยู่ด้วย ในทางกลับกัน ถ้าอาศัยอยู่ชายคาบ้านหลังใหญ่ แต่อยู่ด้วยกันแล้วไร้ซึ่งความสุข-สงบ ต่อให้บ้านหลังนั้นจะมั่นคงกับรากฐานชีวิตแค่ไหน คงไม่มีใครอยากอยู่ด้วย”

 

ต่อมา สนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ซึ่งในแวดวงการเมืองรู้จักกันดีในฐานะแกนนำของ ‘บ้านใหญ่’ จังหวัดชลบุรี ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในหัวเรือหลักที่นำเครือข่ายสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในมือร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐเมื่อการเลือกตั้งทั่วไป ปี 2562 ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กพร้อมภาพประกอบข้อความว่า “คนบางคนรู้ที่ไป แต่ลืมที่มา” พร้อมระบุข้อความบรรยายว่า “วันหยุดที่ผ่านมามีใครต่อใครเป็นห่วงเป็นใยโทรมาถามกันมากเรื่องเลือกตั้งทั่วไปว่ากลุ่มเรารักชลบุรีจะต้องสลายตัว เพราะพลังประชารัฐจะเลือกผู้สมัครมาลงเอง หลังจากผมไปคุยกับผู้ใหญ่มาแล้วก็ได้เวลาที่ผมพอจะมาเล่าสู่กันฟัง

 

“ผมไม่เคยคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน เพราะหลายปีก่อนก็ได้รับคำร้องขอให้ไปร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐในสถานการณ์พิเศษในขณะนั้นเพื่อให้ประเทศเดินต่อไปได้ จนอยู่ๆ ก็มีคนของพรรคประกาศว่าจะหาคนมาลง ส.ส. ทุกเขต ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคจึงไม่ยากที่ผมจะสอบถามผู้ใหญ่ที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่ต้น ผมได้รับคำตอบสั้นๆ ว่ามันก็อยากจะสร้างอาณาจักร อย่าไปสนใจ

 

“เรื่องน่าจะจบแค่นั้น แต่ไม่ใช่ เพราะยังมีหลายอย่างที่น่าคิดโดยเฉพาะประโยคที่ว่าอย่าไปสนใจ จริงๆ ผมก็พยายามไม่สนใจมานาน เพราะคอยแต่คิดว่าการที่คนๆ หนึ่งจะพูดเท็จหลายเรื่องในที่ต่างๆ เพื่อให้ตัวเองดูดีนั้นก็เห็นอยู่ดาษดื่น มีเพิ่มมาอีกคนก็ไม่แปลก คล้ายกับเวลาหมาเห่า ถ้าไม่สร้างปัญหาร้ายอะไรเราก็ไม่ควรไปดุ เพราะหมาก็ทำตามสัญชาตญาณของหมา แต่คราวนี้ต่างไป เพราะผมเริ่มรู้สึกว่าหมาเริ่มก้าวร้าว ทั้งที่อุ้มชูมายาวนาน

 

“คนชลบุรีรักใครรักจริง คบใครคบจริง เราเป็นแบบนี้กันมาตลอด นับญาติกันมาตั้งแต่เกิด แต่กับการทรยศ หักหลัง เราก็จะไม่นิ่งเฉย”

 

ล่าสุด สุชาติได้ให้สัมภาษณ์รายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand โดยเล่านิทานดังนี้ มีขุนศึกกับแม่ทัพคู่หนึ่ง ขุนศึกรักเคารพแม่ทัพเหมือนพี่คนหนึ่ง สั่งให้ไปรบไปที่ไหนไม่เคยปฏิเสธ สู้ตายถวายหัวทุกสนามรบ แม้กระทั่งวันที่ไม่เหลือขุนศึกคนอื่นเลย 

 

ที่สำคัญส่วนใหญ่ขุนศึกคู่กายคนนี้รบชนะทุกครั้ง วันหนึ่งขุนศึกคู่กายขอกลับมาดูแลครอบครัวและสวนไร่นาที่ทิ้งไปนาน เลยบอกแม่ทัพว่าขอวางมือ ปรากฏว่า 3 ปีที่แล้วมีสงครามใหญ่ แม่ทัพเรียกขุนศึกคู่กายมาพูดคุยด้วยว่าขอให้มาช่วยกัน ถ้าแพ้ศึกครั้งนี้เขาและครอบครัวจะไม่มีแผ่นดินอยู่

 

ด้วยความรักและเคารพในตัวแม่ทัพ ขุนศึกคู่กายยอมทิ้งลูกทิ้งเมีย ทิ้งไร่นาสวน มาร่วมรบอีกครั้ง โดยการรบครั้งนี้แม่ทัพให้ขุนศึกรับผิดชอบ 3 หัวเมืองหลัก ที่เหลือเป็นหน้าที่แม่ทัพรับผิดชอบ

 

ก่อนออกรบแม่ทัพรับปากว่าถ้าชนะศึกจะปูนบำเหน็จให้ กระทั่งผลออกมา พอรบเสร็จ ขุนศึกรบชนะทั้ง 3 หัวเมือง ส่วนแม่ทัพแพ้ราบคาบทุกหัวเมือง หลังเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ปรากฏว่าแม่ทัพเป็นอัลไซเมอร์ สิ่งที่รับปากไว้ลืมหมด รวมถึงเมื่อขุนศึกกลับบ้าน ไร่นา ครอบครัวเสียหาย แม่ทัพกลับไม่มีแม้แต่การเหลียวแล 

 

ขุนศึกก็ต้องก้มหน้าดูแลตัวเองไป แต่เชื่อไหมว่าวันหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง เจ้าเมืองมาเจอขุนศึกคนนี้ ซึ่งบาดแผลเพิ่งจะตกสะเก็ดจากการสู้รบ สืบทราบจากชาวบ้านว่าเป็นนักรบมีฝีมือ มีความซื่อสัตย์ สู้รบด้วยการไม่คิดถึงชีวิตตัวเองและครอบครัว จึงปูนบำเหน็จให้เป็นเสนาบดี เหตุนี้เองขุนศึกจึงทำงานตอบแทนเจ้าเมืองด้วยความซื่อสัตย์ ถวายหัว ผลงานเป็นที่ประจักษ์ 

 

“ผมขอถามทุกท่านกลับไปว่า เป็นขุนศึกจะถวายหัวให้เจ้าเมืองที่เห็นคุณค่าในตัวขุนศึก หรือแม่ทัพอัลไซเมอร์ที่ไม่เห็นคุณค่า และที่สำคัญ ขุนศึกผู้นี้ปลูกข้าวกินเองมาตลอด ไม่ได้กินข้าวของแม่ทัพเหมือนขุนศึกคนอื่นๆ” สุชาติกล่าว

 

เมื่อถามว่าข้อเท็จจริงกรณีที่สุชาติไปขอพรรคพลังประชารัฐจะจัดคนลง ส.ส. จังหวัดชลบุรีทุกเขต สุชาติกล่าวว่า หัวหน้าพรรค (พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้สั่งการให้ตนในฐานะรักษาการผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐให้จัดเตรียมผู้สมัคร เพราะทุกพรรคมีแต่คนสมัครเข้า ตนเองก็วางตัวให้ผู้สมัครจังหวัดอื่นๆ ตนเองได้รับการสั่งการมาถ้าไม่ทำก็บกพร่องต่อหน้าที่

 

สุชาติยอมรับมีการเจรจาแบ่งเขตการส่งผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐในพื้นที่จังหวัดชลบุรีจริง โดยปัจจุบันมีการแบ่งเขต 10 เขต ก็เจรจาคนละครึ่งคือ คนละ 5 เขต เพื่อมาช่วยกันช่วย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นนายกฯ สมัยหน้า ซึ่งตนเองได้มีการจัดผู้สมัครครบแล้ว 10 เขต แต่อย่างไรก็ตาม ตนเองไม่ได้รับคำตอบจากอีกฝ่าย

 

“สุดท้ายนี้ที่มีการพาดพิงเรื่องหมา ขอออกตัวก่อนผมไม่ใช่หมา แต่อาจจะเป็นเหมือนนักรบคนในนิทาน แต่ที่ผ่านมาผมก็เลี้ยงหมานะ นิสัยของหมาคือรักเจ้าของ รักลูกเจ้าของ วันหนึ่งเจ้าของได้จากไป ก็ดูแลลูกเจ้าของ แต่ลูกเจ้าของไม่สนใจ แกล้งทุบตี” สุชาติกล่าวทิ้งท้าย

 

ปรากฏการณ์ที่ดูเหมือนจะเป็นการตอบโต้กันไปมาผ่านหน้าเฟซบุ๊กของคนชลบุรี ด้วยกันระหว่างสนธยาและสุชาติ กลายเป็นรอยร้าวระหว่างบ้านใหญ่และผู้ที่เคยอาศัยร่มเงาของบ้านนี้เติบโต แน่นอนว่าการเมืองชลบุรีนับจากนี้ได้แบ่งขั้วอย่างชัดเจนแล้ว ต้องจับตาต่อไปว่าจะมีใครขยับทางการเมืองแบบไหนนับจากนี้

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising